21 ส.ค. 2021 เวลา 23:30 • หนังสือ
(22) สรุปเนื้อหาสาระสำคัญจากหนังสือ
ลงทุนแบบป้าแอนน์ โดย ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ตอนที่ 22
สัปดาห์แห่งความผันผวนของหุ้น
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยกล่าวไว้ว่า "ถ้าคุณไม่สามารถทนเห็นหุ้นที่คุณถืออยู่ตกลงไป 50 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ไม่รู้สึกขวัญผวาได้ คุณก็ไม่ควรอยู่ในตลาดหุ้น" กล่าวโดยเฉพาะก็คือ ถ้าหุ้นตกลงมาอย่างหนักจนถึงระดับ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยที่คุณมั่นใจว่าพื้นฐานของหุ้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก คุณจะยังสามารถถือมันไว้ ไม่รีบขายไปเสียก่อนได้หรือไม่ ถ้าคำตอบคือ "ไม่" เพราะคุณกลัวว่ามันจะตกลงต่อไปอีก ถ้าเป็นแบบนี้ คุณก็ไม่ควรจะลงทุนในตลาดหุ้น เหตุผลก็เพราะว่าคุณจะพลาดและเสียหายหนัก เมื่อพบในภายหลังว่าหุ้นตัวนั้นก็จะปรับตัวกลับขึ้นมาตามพื้นฐานที่ควรจะเป็นของมัน
ดังนั้น สำหรับบัฟเฟตต์แล้ว การที่หุ้นตกโดยที่วิเคราะห์ชัดเจนแล้วว่าพื้นฐานของกิจการไม่ได้เปลี่ยน เราก็ไม่ควรที่จะขายหุ้น ทางที่ดีก็คือ ไม่ต้องไปทำอะไร หรือทางที่อาจจะดีกว่าก็คือ เข้าไปซื้อหุ้นที่ตกลงมามากๆ นั้น แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่ "คิดง่ายแต่ทำยาก" สำหรับคนส่วนใหญ่ที่มีพฤติกรรม "หนีตาย" เวลาอยู่ใน "อันตรายร้ายแรง" ในยีนของทุกคน
แต่ในมุมของนักลงทุนระยะยาวที่เน้นที่พื้นฐานและราคาของกิจการ โดยเฉพาะที่เป็น VI "พันธุ์แท้" นั้น เหตุการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่แล้วให้บทเรียนอะไรบ้าง
ข้อแรกก็คือ สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ "ไม่ได้ทำอะไรเลย" เพราะเห็นว่าพื้นฐานของตลาด และหุ้นตนเองถืออยู่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป พวกเขาก็อาจจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับความผันผวนนี้มากนัก
อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่ได้ซื้อผมเองเป็นคนที่ไม่ชอบ "รีบซื้อหุ้น" ผมไม่ชอบต้องรีบซื้อหุ้นเพราะคิดว่ามันจะ "เด้ง" หุ้นที่ผมซื้อนั้น ผมมักจะรอให้มัน "นิ่ง" สักระยะหนึ่งมากกว่าการซื้อหุ้นเพราะคิดว่ามันจะ "เด้ง" นั้น ผมคิดว่ามันเป็นวิธีการแบบ "เก็งกำไร" ซึ่งผมไม่อยากทำ ในความรู้สึกของผม มันเป็นเรื่องที่คล้ายๆ กับการ "ผิดศีล" ในฐานะของการเป็น VI อีกอย่างหนึ่ง ผมไม่อยากที่จะพบว่า ซื้อแล้วมันกลับลงไปอีก ซึ่งมันเกิดขึ้นได้เสมอ ผมไม่อยาก "เจ็บ" การ "พลาด" เพราะไม่ได้ซื้อนั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผม ผมพลาดมาตลอด แต่ผลการลงทุนระยะยาวของผมก็ยังคงดีอยู่ โดยการลงทุนในหุ้นธรรมดาๆ ในภาวะตลาดหุ้นที่ "ธรรมดาๆ"
บทเรียนข้อสองก็คือ นักลงทุนสถาบันที่ได้ชื่อว่ามีความรู้และความสามารถในการลงทุนมากกว่าคนทั่วไป รวมทั้งน่าจะเป็นคนที่น่าจะมีอารมณ์หรือ EQ ที่มั่นคงกว่านักลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา การซื้อขายหุ้นของนักลงทุนสถาบัน ดูเหมือนจะเป็นแนว "ตามๆ กันไป" ไม่ได้มีลักษณะที่เป็นอิสระ หรือเป็นตัวของตัวเองอย่างที่ "มืออาชีพ" ควรเป็น
บทเรียนสุดท้าย สำหรับคนที่ได้กำไรจากความผันผวนรอบนี้ก็คืออย่าคิดว่าตนเองเก่ง หรือมีความสามารถและ "กล้าหาญ" ในการลงทุนมันอาจจะเป็นเรื่องของโชคที่ไม่สามารถนำไปใช้กับเหตุการณ์อื่น ว่าที่จริงการทำกำไรได้ อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราติดใจและติดนิสัยในการเก็งกำไรซึ่งไม่เป็นผลดีในระยะยาวก็ได้
เขียน ณ วันที่ 15/10/2559
หากเห็นว่าหนังสือเล่มนี้เป็นประโยชน์กับคุณ อย่าลืมซื้อ เพื่อเป็นการสนับสนุน ผู้เขียนด้วยนะ
หาซื้อได้ที่ ร้านหนังสือ Se-Ed Book Center หรือร้านจำหน่ายหนังสือใกล้บ้านคุณ ราคา 220 บาท
สามารถกดติดตาม กดไลค์ กดแชร์ เพื่อรับบทความดีๆจาก เพจคลังปัญญา ได้ในทุกวันเวลา 06.30 น. สามารถติชม แนะนำ
ในทางสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาเพจในทางที่ดีขึ้นได้นะ ขอขอบคุณผู้ติดตามทุกท่านมานะที่นี้
โฆษณา