## เมื่อไม่มี “วัคซีนที่ดี” ถึงเวลาตามรอย ‘อู่ฮั่นโมเดล’ แล้วหรือยัง? ##
ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่า ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 “ขั้นเลวร้ายที่สุด” ที่เคยเจอมา ยอดผู้ติดเชื้อหลักหมื่น ผู้เสียชีวิตทำนิวไฮท์ทุกๆ วัน บุคลากรทางการแพทย์ทยอยติดเชื้อ โรงพยาบาลปิดรับผู้ป่วย คลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา ผู้ที่จากไปแล้วนอนไร้ลมหายใจอยู่ริมถนน
ก่อนที่ความรุนแรงจะทวีมากขึ้น ทาง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขอาจพิจารณาใช้แนวทาง ‘อู่ฮั่นโมเดล’ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดแบบที่ทำในเมืองอู่ฮั่น เมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว ซึ่งสามารถยับยั้งการระบาดได้อย่างเห็นผลในเวลาเพียง 76 วัน!
‘อู่ฮั่นโมเดล’ คืออะไร? นับตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด-19 เกิดขึ้น หลายเมืองหรือประเทศบนโลกมีมาตรการ “ล็อกดาวน์” ในระดับที่แตกต่างกันไป แต่การล็อกดาวน์ที่เข้มข้นที่สุดที่เคยเกิดขึ้นคือ ‘อู่ฮั่นโมเดล’ ซึ่งเป็นมาตรการที่สามารถคุมการระบาดได้จริง เพราะหลังจากออกมาตรการ ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ของอู่ฮั่นเริ่มทรงตัวภายใน 1 เดือน และลดเหลือ “0” ภายใน 2 เดือน
โดยแนวทางดำเนินมาตรการล็อกดาวน์แบบ ‘อู่ฮั่นโมเดล’ แบ่งเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ ดังนี้
1. ด้านการเดินทาง-คมนาคมขนส่ง
• เริ่มด้วยมีการส่งข้อความ SMS แจ้งเตือนประชาชนผ่านทางสมาร์ทโฟน ในเวลา 02.00 น. ก่อนประกาศปิดให้บริการสนามบิน สถานีรถไฟ สถานีรถโดยสาร ภายในเวลา 10.00 น. ของวันเดียวกัน ทำให้เมืองถูกปิดในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และประชาชนไม่สามารถ ‘ออก’ จากพื้นที่ได้
• ระงับให้บริการระบบขนส่งสาธารณะส่วนใหญ่ ทั้งเครื่องบิน รถไฟใต้ดิน เรือโดยสาร
• ประกาศปิดถนนหลวงสายหลักทั่วเมือง ห้ามประชาชนเดินทางเข้าออกเมืองโดยไม่มีข้อยกเว้น แม้แต่กรณีฉุกเฉินส่วนบุคคลและทางการแพทย์
• ห้ามรถยนต์และยานพาหนะส่วนบุคคลทุกชนิดแล่นบนถนน ยกเว้น รถพยาบาลและรถของทางการที่อยู่บนถนน
• อนุญาตให้สมาชิกในครอบครัวเพียง 1 คน ออกจากบ้านไปซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็นได้ในทุกๆ 2 วัน แต่ต้องสวมหน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่างอย่างเข้มงวด
2. ด้านสาธารณสุข การรักษาและดูแลประชาชน
• ทางการเร่งสร้างโรงพยาบาลสนามขนาดใหญ่ เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ พร้อมระดมทีมแพทย์และพยาบาลจากทั่วประเทศเข้าช่วยรับมือและดูแลผู้ป่วย เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดของโรงพยาบาลต่างๆ ที่เผชิญภาวะผู้ป่วยล้นเตียง
• เจ้าหน้าที่เคาะประตูตรวจสุขภาพประชาชนทุกๆ บ้าน เพื่อตรวจเชิงรุกให้ครอบคลุมทั้งเมือง และบังคับนำตัวผู้มีอาการป่วยทุกคนไปกักตัว
• มีการร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยี เช่น Alibaba, Tencent พัฒนาแอปพลิเคชัน โดยภายในแอปฯ ผู้ใช้จะต้องตอบแบบสอบถามถึงอาการทางร่างกาย เช่น มีไข้ เจ็บคอ หรือไม่ และกรอกประวัติการเดินทางเพื่อเช็กความเสี่ยง จากนั้นผู้ใช้จะได้รับ QR Code ระบุว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงระดับสีใด (แดง-เหลือง-เขียว) หากเป็นสีแดงจะต้องกักตัว 14 วัน สีเหลืองกักตัว 7 วัน โดยร้านค้าที่ยังเปิดอยู่จะตรวจสอบ QR Code นี้ก่อนลูกค้าเข้าร้าน หากเป็นกลุ่มสีแดงหรือเหลืองจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า
• ระดมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครช่วยกระจายอาหาร ยา และอุปกรณ์ตรวจเชื้อไวรัสตามบ้าน หากคนในบ้านเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้
• ผู้เสียชีวิตจากโรค COVID-19 จะถูกส่งจากโรงพยาบาลตรงไปยังศูนย์จัดฌาปนกิจทันที ไม่อนุญาตให้จัดงานศพ ญาติผู้เสียชีวิตจะได้รับแจ้งให้มารับเถ้ากระดูกเพื่อประกอบพิธีได้ในภายหลัง
3. ด้านเศรษฐกิจ
• สั่งปิดสถานประกอบธุรกิจ โรงงาน และร้านค้าทั้งหมดที่ไม่จำเป็น ยกเว้นร้านขายอาหารและยา
• ขยายเวลาปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยไม่มีกำหนด
4. ด้านความปลอดภัย
• อาคารพักอาศัยแทบทุกหลังภายในเมืองมีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเฝ้าระวังและตรวจวัดอุณหภูมิผู้ที่เข้าออกอาคาร
• ใช้เทคโนโลยี เช่น โดรนหรือกล้องวงจรปิดตรวจจับความเคลื่อนไหว คอยเตือนประชาชนในเมืองที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยเวลาอยู่นอกบ้าน และระบุตัวผู้ที่ฝ่าฝืนกฎห้ามออกจากบ้าน
ผลจากมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดเหล่านี้ ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อในอู่ฮั่นลดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อกลับสู่สถานการณ์ปกติอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม หากประเทศไทยจะนำ ‘อู่ฮั่นโมเดล’ มาใช้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่สามารถเลียนแบบได้ 100% ด้วยข้อจำกัดบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน อาทิเช่น ระดับวินัย ความเปราะบางของจิตใจของประชาชน ความเข้มงวดในการดำเนินการของภาครัฐ มาตรการเยียวยาที่จะออกมาเพื่อช่วยประชาชน ความพร้อมของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร รวมไปถึงงบประมาณในการจัดการ นอกจากนั้น จะต้องมีคำตอบที่ “ยอมรับได้” ของคำถาม หากมีการนำ ‘อู่ฮั่นโมเดล’ มาใช้จริงๆ ว่า “สายไปแล้วหรือไม่”
ทั้งนี้ หากมองว่า การจัดการการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเหลือ “0” ในเวลาไม่กี่สัปดาห์เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้ ก็ต้องมีการเตรียมการรับมือกับความสูญเสียที่จะตามมา โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับรัฐบาลว่า จะแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นอย่างไร เพื่อให้สถานการณ์ของ “ประเทศไทย” กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
╔═══════════╗
ZERO COVID THAILAND เพจสำหรับแชร์ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อช่วยยุติการแพร่กระจายของโควิด-19ในไทย
╚═══════════╝
เพื่อรับแนวทางป้องกันโควิด-19 อย่างทันท่วงที งานวิจัย และ ข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์แบบเข้มข้น ติดตามเราได้ที่
Twitter : twitter.com/zerocovidthai
Website : www.zerocovidthai.org/
Facebook : www.facebook.com/zerocovidthailand
Blockdit : www.blockdit.com/zerocovidthai
อ้างอิง:
Opinion: Wuhan’s freedom brings allure to lockdown brutality
A simple model to assess Wuhan lock-down effect and region efforts during COVID-19
epidemic in China Mainland
China’s Response to the COVID-19 Outbreak: A Model for Epidemic Preparedness and Management
เผยแพร่ความรู้ หยุดแพร่ไวรัส
ย้อนรอย “อู่ฮั่นโมเดล” รัฐบาลจีนจัดการอย่างไรบ้างเพื่อคุมการระบาด?
ย้อนรอย “อู่ฮั่นโมเดล” ปิดเมือง 76 วัน รัฐบาลจีนทำอย่างไร
- 61
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
