22 ก.ค. 2021 เวลา 14:42 • การตลาด
#เทคนิคเลือกซื้อทีวี กรกฎาคม 2564 (2021)
 
สวัสดีครับเพื่อนๆ ในยุค โควิด 19 ระบาดอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อนอย่างนี้ การ Work form home เป็นสิ่งที่เราต้องทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจึงต้องแปลงบ้าน คอนโด เป็นที่ทำงาน ที่พัก ที่นอน ที่พักผ่อนหย่อนใจ ด้วยในเวลาเดียวกัน
1
การดูทีวีเป็นการผักผ่อนหย่อนใจอย่างหนึ่งที่ทำให้หายเครียดได้จากการทำงาน #แอนดรอย์ทีวีหรือ#สมาร์ทีวี เป็นสิ่งอำนวยความสะดวก ที่เป็นที่ต้องการมาก โดยเฉพาะยุคนี้ ซึ่งจำเป็นในการบาลานซ์ งาน และชีวิตส่วนตัว ให้มีความสะดวก สบาย ผ่อนคลาย จากการทำงาน
ปัจจุบัน สมาท์ทีวี โดยเฉพาะแอนดรอย์ทีวี มีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง มีการแข่งขันกันอย่างสูง แต่ราคากลับแข่งขันกันถูกลงอย่างไม่น่าเชื่อ มีบริษัทชั้นนำหลายแบรนด์ ส่งแอนดรอย์ทีวี รุ่นต่าง ๆ เข้าสู่ตลาด ลงมาแข่งกับ บริษัทค่ายใหม่ต่างๆ ที่เพิ่งลงสนามช่วงชิงยอดขายกับแบรนด์ชั้นนำอย่างคู่คี่สูสี เรียกได้ว่า เราจะเลือกซื้อแต่ละเครื่อง เปิดสินค้านั้นสลับกับสินค้านี้ เปรียบเทียบกันยากมาก เพราะมีรายละเอียดแตกต่างกันเล็กๆน้อยๆ
ผมเองก็ได้ตัดสินใจซื้อแอนดรอย์ทีวี 50 นิ้ว มาเครื่องหนี่ง เรียกว่าเป็นแอนดรอย์ทีวีเครื่องแรกในชีวิตเลย ซึ่งทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นมาก เพราะแต่ก่อนดูหนังจากคอมฯเผลอเมื่อไหร่อิเมลล์หรือไลน์เรื่องงานเด้งมา เรียกได้เลยว่า ตัดไม่ขาดจากเรื่องงานซักที แต่ตอนนี้พอมีทีวีจอใหญ่ๆ ในคอนโดติดผนังได้ CUT OUT เรื่องงานออกไปจากสมองหลังเวลางาน รู้สึกคุณภาพชีวิตดีขึ้นเยอะเลย รู้งี้ซื้อนานแล้ว
พอได้ซื้อและลองใช้ทีวีใหม่แล้ว ก็ซื้อ Mi tv stick ให้ทีวีเก่าซัมซุงบ้านแม่เลย แม่กับพ่อชอบมาก ดูยูทูป ดูหนัง ผ่าน Wifi เลย เรียกว่าลืมจานดำไปเลยทีเดียว
เกริ่นมานาน ผมเลยอยากแบ่งปันประสบการณ์จากการเลือกซื้อและใช้ทีวี (ตามความเห็นของผมเอง) ให้กับคนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อ ได้พิจารณาตัดสินใจกันตามอัธยาศัย นะครับ
วิธีเลือกซื้อทีวี
1. ทำความเข้าใจ สมาร์ทีวี และแอนดรอย์ทีวี ต่างกันอย่างไร
แอนดรอย์ทีวี นั้นมันก็คือ Smart TV รูปแบบหนึ่ง แต่จะมีข้อแตกต่างจาก Smart TV ทั่วไปตรงที่ แอนดรอย์ทีวี นั้นคือ TV ที่ทำงานบนระบบของ Android หรือพูดได้ง่ายๆ ว่าเปรียบเสมือนมือถือ สามารถใช้งานแอปฯ ต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น และยังมีการอัพเดทระบบปฏิบัติการให้ดีขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย
ส่วน Smart TV ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีระบบปฏิบัติการณ์เป็นของตัวเอง และถึงจะมีแอปฯ มาให้แล้วบ้างในตัว แต่ก็ไม่ได้หลากหลายเท่ากัน
แต่สำหรับผมแล้ว ซื้อ Android TV เพราะแม้ข้อเสียตอนแรกจะตั้งค่ายุ่งยากหน่อย แต่พอตั้งค่าแล้ว ก็ใช้เหมือนมือถือเครื่องนึงเลยครับเพียงแต่จอใหญ่กว่า และพอมาประกอบกับข้อดีอื่นๆ ที่เหนือกว่าทั้ง
-ดูหนัง Netflix, iFlix, Youtube ได้
-รองรับภาษาไทย ได้
-Chromecast ได้ทันที
-การอัพเดท OS อัพเดทเสมอ
-Google Assistant มี
-สั่งเปิด-ปิดจากGoogle Home ได้
-เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้
เรียกได้ว่า Android TV ดูจะมีแต้มต่อกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนนะครับ เพราะบางคนอาจจะไม่อยากตั้งค่า แค่ซื้อมาดู หนัง Netflix, iFlix, Youtube ได้ก็พอแล้วก็อาจใช้ Smart TV ทั่วๆไป อันนี้เพื่อนๆลองพิจารณาตามอัธยาศัยนะครับ
2.หลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อ
1)ขนาดของหน้าจอ
อันนี้ผมให้เป็นข้อแรกเลยครับ เพราะถ้าซื้อผิดขนาด จอใหญ่เกินดูใกล้ไปก็อาจจะไม่สบายตา จอเล็กเกินดูไกลไปก็ไม่ลำบาก เอาเป็นว่าถ้าเลือกผิด ต้องเพ่งทั้งใกล้หรือไกล พาลจะเครียดไม่อยากดูเอาครับ
แต่ละบ้านของแต่ละคน ย่อมมีความแตกต่างกันในเรื่อง ขนาดของพื้นที่ห้อง ดังนั้นครับ เมื่อจะเลือกซื้อสมาร์ททีวี เราก็ต้องดูขนาดของทีวีให้เหมาะกับขนาดของห้องด้วย โดยพิจารณาจากรูปแบบ และระยะห่างของทีวีสำหรับการนั่งดูที่สะดวกที่สุด ผมค้นคว้ามา พยายามหาเอกสารทางวิชาการหรือText book แต่ไม่มี เลยต้องเทียบเคียงหลายๆเว็บ มีข้อมูลใกล้เคียงกัน โดยการวัดเป็นการวัดขนาดจอตามขวางนะครับ สรุปเป็น Range ได้ดังนี้ครับ
ขนาด 56 นิ้ว ควรให้มีระยะห่างอยู่ที่ 3 – 5 เมตร
ขนาด 46 – 55 นิ้ว ระยะห่าง 2.5 - 3 เมตร
ขนาด 40 – 45 นิ้ว ควรมีระยะห่าง 2 – 2.5 เมตร
ขนาด 32 นิ้ว ควรมีระยะห่างอยู่ประมาณ 1.5 เมตร
ขนาด 32 – 39 นิ้ว ระยะห่าง 15 – 2 เมตร
ขนาดต่ำกว่า 32 นิ้ว ลงมา ระยะห่างควรอยู่ที่ 1.5 เมตร หรือน้อยกว่านั้น
สำหรับผมวัดระยะแล้ว จุดชมทีวีห่างจากผนังที่จะติดทีวี 2.6 เมตรโดยประมาณ เลยเลือกทีวี 50 นิ้วครับ แต่พอมาใช้จริงๆ ในทางทฤษฎีเขาว่ายังงั้น แต่ลืมไปว่าสายตาสั้น 50 (ซึ่งถือว่าไม่สั้นและไม่ได้ใส่แว่นเลยลืมนึกไป) เลยต้องยืดขาทีวีติดผนังออกมาอีกประมาณ 1 ฟุตครับ ซึ่งก็ได้ผลเลยทีเดียวดูสบายตาต่างกันครับ ดังนั้น อย่าลืมคำนวนสายตาตัวเองด้วยนะครับ
2)การรองรับสัญญาณอินเตอร์เน็ตของสมาร์ททีวี
มีทั้ง เชื่อมต่อผ่านทางสัญญาณ WiFi Built – in หรือ WiFi Adapter หรือ สาย LAN ตรงนี้ก็ต้องพิจารณาด้วยครับ ความเห็นส่วนตัวผมว่าเดี๋ยวนี้ WiFi แต่ละบ้านนั้น ถ้าสัก 25 MB/s ก็แรงพอให้ไม่ต้องเสียบสายแล้วครับ ดังนั้น ถ้าสเปค ทีวี 2 เครื่องเท่ากัน แต่ราคาต่างกันเพราะมีช่อง สาย LAN อาจจะพิจารณาเลือกเครื่องที่ไม่ต้องมีช่องสาย LAN ก็อาจจะประหยัดงบไปได้เยอะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อนๆลองตัดสินใจดูนะครับ
3)ความละเอียดของภาพสมาร์ททีวี
ความละเอียดของภาพนั้น สามารถแบ่งออกมาได้เป็น 3 รูปแบบด้วยกันนะครับ คือ สมาร์ททีวีระดับ HD, ระดับ Full HD และ ระดับ UHD ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้ครับ
HD:ความละเอียดภาพ 720p (1,280 x 720 พิกเซล - พิกเซลทั้งหมดประมาณ 1 ล้านพิกเซล)ซึ่งจะเป็นมาตรฐานของความละเอียดทั่วไปของทีวีสมัยใหม่นี้ครับ
Full HD:ความละเอียดของภาพ 1080p (1,920 x 1,080 พิกเซล - พิกเซลทั้งหมดประมาณ 2 ล้านพิกเซล)ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน
Ultra HD:ความละเอียดของภาพ 4K (3,840 x 2,160 พิกเซล - พิกเซลทั้งหมดประมาณ 8 ล้านพิกเซล) 4k จะมีความเสมือนจริง เรียกว่าเห็นถึงรูขุมขนใบหน้านักแสดงเลยทีเดียวครับ
ในความเห็นของผม ตอนแรกนึกว่า ยังไงก็ต้องเลือก Ultra HD แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้ว หนังบางเรื่อง ยังไม่ได้ทำให้อยู่ในรูป Ultra HD เลยดูได้แค่ Full HD และบางแพคเกจของ Netflix ถ้าอยากดู Ultra HD ก็ต้องเสียเงินเพิ่มด้วย โดยความเร็ว 25 MB/s สำหรับดูแบบ Ultra HD , ความเร็ว 5 MB/s สำหรับดูแบบ HD ,ความเร็ว 3 MB/s สำหรับดูแบบ SD
ส่วน Youtube ถ้าตั้งความละเอียดอัตโนมัติไว้ ก็ขึ้นอยู่กับความเร็วเน็ตของเรานะครับว่าจะดูได้ระดับใดหนึ่งในสามระดับดังกล่าว ดังนั้น ถ้าราคาเท่ากัน เอา Ultra HD ก็ดีครับ แต่ถ้าราคาแตกต่างกัน เลือก Full HD ก็อาจประหยัดงบได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม หนังใหม่ๆมีแนวโน้มที่จะทำในรูป Ultra HD มากขึ้นเรื่อยๆ อันนี้ตัดสินใจเอานะครับ ข้อนี้เลือกอยากอยู่ครับ
4)เทคโนโลยีจอภาพของสมาร์ททีวี
ตอนนี้ทีวีจะมีให้เลือกซื้อหลายแบบมาก ๆ ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ คือ เทคโนโลยีจอภาพ LED กับ OLED TV
LED (Light-Emitting Diode) ใช้เทคโนโลยีพื้นฐานเช่นเดียวกับ LCD (Liquid Crystal Display) โดยมีการวางคริสตัลเหลวไว้ระหว่างกระจกโพลาไรซ์สองชั้น และสามารถเปิดรับแสงให้ผ่านเข้ามาหรือปิดกั้นแสง
OLED หรือ Organic Light-Emitting Diode มีอิทธิพลอย่างมากต่อเทคโนโลยีทีวีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สารประกอบอินทรีย์เหล่านี้สามารถผลิตให้มีขนาดเล็ก บาง และยืดหยุ่นมากจนสามารถนำมาใช้เป็นพิกเซลแต่ละพิกเซลบนหน้าจอทีวีของคุณ ปัจจุบันไม่มีเทคโนโลยีใดในปัจจุบันที่สามารถให้ “สีดำสนิท” ที่ดีไปกว่าทีวี OLED อีกแล้ว (ถ้าพัฒนาไปจนมีแล้วทักเฟสมาบอกด้วยนะครับ)
หลังจากซื้อทีวีของผมเอง ผมลองไปดูตามห้างก่อนช่วง Lock down พบว่าถ้าห้องมีแสงไฟสว่างเพียงพอ LED กับ OLED ผมว่าไม่ต่างกันเลยครับ แต่ถ้าใครมีงบสูงๆ ก็เลือก OLED ก็ได้ครับ
5) การเชื่อมต่อ Port
ในส่วนของ พอร์ตสำหรับการเชื่อมต่อสมาร์ททีวีนั้นนะครับ มี พอร์ต S – Video, Audio, HDMI, AV หรือ USB เป็นต้น
ข้อนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหามากเท่าใด เพราะผู้คนส่วนใหญ่ซื้อทีวีมาไม่ค่อยได้ใช้อยู่แล้ว เพราะดูผ่านอินเตอร์เน็ตทั้งนั้น แต่ถ้าราคาเท่ากันก็เลือกที่มีพอร์ทหลากหลาย และถ้าหลากหลายเท่ากันก็เลือกหลายช่องมากกว่าช่องเดียวจะเป็นการคุ้มค่า แต่ถ้าเอาแบบประหยัด ปัจจุบันทุกแบรนด์มีเหมือนๆกัน คือ HDMI หรือ USB แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ ทั้งนี้ USB จะต่อเมาส์ได้ถ้าเป็นแอนดรอยด์ทีวี แก้ปัญกาคนพิมพ์ด้วยรีโมทไม่เก่ง แต่ถ้าสมาร์ททีวีก็ต้องดูแต่ละแบรนด์นะครับ
 
6)คุณภาพเสียงของสมาร์ททีวี
ข้อนี้ผมเอาไว้สุดท้าย เพราะเสียงในทีวีหลายๆ ตัวปัจจุบันก็มักจะทำขึ้นมาดีเพียงพอให้รับชมรายการข่าว หรือละครช่วงหัวค่ำได้อย่างมีอรรถรส และถ้าไม่ได้ต้องการเชื่อมต่อกับโฮมเธียเตอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณามาก แต่จะไม่พูดถึงก็ไม่ได้ เพราะ หลายบ้านซื้อ Smart TV ไปแล้ว ยังนำไปเชื่อมต่อกับโฮมเธียเตอร์
การเชื่อมต่อกับโฮมเธียเตอร์ ก็จะมี ระบบ DTS:X และ ระบบ Dolby Atmos ทั้งสองระบบมีหลักการทำงานคล้ายกันแต่ก็มีข้อแตกต่างกันอยู่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างในการนำไปใช้งาน แต่ที่ทั้งสองมีเหมือนกันก็คือ พลังเสียงสุดอลังการ ความสมจริง เสียงที่คมชัด
การเชื่อมต่อลำโพงกับสมาร์ททีวีนั้นขึ้นอยู่กับความชอบ ซึ่งถ้าไม่ได้ใช้งานมากมายก็คงจะไม่จำเป็นพราะแค่ลำโพงที่มากับทีวีก็คงจะเพียงพอในการดูหนังต่างๆใน Netflix, iFlix, Youtube
7)การรับประกัน
ทีวีแต่ละค่ายก็รับประกัน อยู่ที่ 1 ถึง 3 ปี ก่อนเลือกซื้อก็ต้องดูศูนย์บริการใกล้บ้านโดยเช็คกับเว็บไซต์ก่อนนะครับ
8)ราคาและการผ่อนชำระ ของสมาร์ททีวี
ข้อนี้แล้วแต่ความชอบเลยครับ ถ้าซื้อจาก Lazada ผ่อนยาวๆ 10 เดือน มีร่วมรายการมากเลยครับ ส่วน App อื่น อย่าง Shopee หรือ JD ไม่ค่อยได้ใช้ครับ
สำหรับผมนะครับ เลือกซื้อ TCL แบบ 50 นิ้ว LED 4K UHD Android 9.0 Wifi Smart TV (รุ่น 50T6) 8,590 บาท ราคา ณ 28/10/2020 ปัจจุบันสินค้าหมดครับ และยังไม่มีด้วย แต่การรันตีว่าแบรนด์นี้ ผมใช้มาเกือบปี ไม่มีปัญหาอะไรครับ
🔥 9 อันดับทีวีขายดีในLazada (เรียงราคาน้อยไปมาก) อัพเดท ก.ค.64 🔥
1 ANDROID TV 40 FHD HOT ITEMS l TCL TV 40 inches Smart TV LED Wifi Full HD 1080P Android TV (Model 40S6500)-HDMI-USB-DTS-google assistant & Netflix &Youtube- 1.5G RAM+8GROM Voice Search
2 SHARP ANDROID 9.0 TV FULL HD ขนาด 50 นิ้ว รุ่น 2T-C50BG1X
3 Aconatic Smart TV 4K สมาร์ททีวี 55 นิ้ว Android 9.0 UHD รุ่น 55US532AN รุ่นใหม่ (รับประกันศูนย์3ปี)
4 4K BEST SELLER NEW! TCL ทีวี 50 นิ้ว LED 4K UHD Android TV Wifi Smart TV OS (รุ่น 50T5000A) Google assistant & Netflix & Youtube-2G RAM+16G ROM, One Remote with Voice search
5 Samsung [Lazada Exclusive] SMART Curve TV 55" Crystal UHD 4K รุ่น 55TU8300 (NEW 2020) (ทีวี 55 นิ้ว จอโค้ง Smart TV)
6 4K BEST SELLER [ผ่อน 0% นาน 10 เดือน] NEW! TCL ทีวี 55 นิ้ว LED 4K UHD Android TV Wifi Smart TV OS (รุ่น 55T5000A) Google assistant & Netflix & Youtube-2G RAM+16G ROM, One Remote with Voice search
7 [ผ่อน 0%] Mi TV 55 นิ้ว Android TV ทีวี จอ 4K UHD สมาร์ททีวี รองรับ YouTube / Netflix ประกันศูนย์ไทย Smart TV
8 SAMSUNG สมาร์ททีวี UHD 4K 2021 รุ่น UA55AU7700KXXT ขนาดจอ (นิ้ว):55 RESOLUTION : 3840 x 2160 RESPONSE TIME(MS): 100
9 【ทีวีจอใหญ่ 75 นิ้ว ที่คุณต้องมี】TCL ทีวี 75 นิ้ว LED 4K UHD Android TV Wifi Smart TV OS (รุ่น 75LINETV) Google assistant & Netflix & Youtube-2G RAM+16G ROM, Hands-Free Voice Control
เข้าไปดูภาพสินค้าและรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/104160478619306/posts/111431447892209/
โฆษณา