22 ก.ค. 2021 เวลา 17:32 • ความคิดเห็น
😱OMG ในวันที่ฉันค้นหาตัวตน❗
ทำไมมันยากอย่างนี้😭
ใครที่กำลังค้นหาตัวตนอยู่ ลองอ่านบทความนี้เพื่อแชร์เป็นไอเดียนะคะ
เคยมีหลายคนพูดไว้ ว่าการค้นหาตัวตนให้เริ่มจากสิ่งที่รักและสิ่งที่ถนัดก่อน แล้ว list มันออกมา...........Minkyก็เป็นคนนึงที่พยายามค้นหาตัวเองมาทั้งชีวิต ว่าเราเก่งอะไร ถนัดอะไร ชอบอะไร และทำอะไรได้ดี
ค้นหาตัวเองแทบตาย สุดท้ายเส้นผมบังภูเขา😌
หลังจากที่ list ออกมาได้จะรอช้าอยู่ไย ก็ทำสิคะ ทำทันที เพราะคิดมากไปก็จะไม่เคยได้ทำมันสักที มัวแต่เสียเวลานั่งคิด นอนคิด มโนมันอยู่นั่นจนเผลอๆ ก็คิดเข้าข้างตัวเองไปด้วยซ้ำ จินตนาการสะโลกสวยเกิ๊นนน เผลอแปปเดวค่าใช้จ่ายเป็นหางว่าว เพราะมัวแต่คิดว่ามันต้องที่ไอนั่นสิ ไอนี่สิ..........โอ้ยยยยยยยย
เอาใหม่ๆ กลับมาตั้งหลักใหม่ คิดด้านลบเผื่อใจไว้บ้าง ก็สติแตกอีกคร้าาา หาก worst case ที่สุดจะเป็นยังงัย มาแล้วๆๆความกลัวในจิต กลัวจนไม่ทำอะไรดีกว่าไม่รู้จะหาเรื่องเจ็บตัวทำไม กลัวว่าจะล้มเหลว กลัวต้องเป็นหนี้เพิ่ม กลัวต้องทำให้พ่อแม่ผิดหวัง กลัวจะดูโง่... บลา ๆๆๆ
แต่แล้วก็เลือกทำมันนะ เลือกที่จะทำธุรกิจอสังหาเพราะมันเป็น Passion สุดๆ ไม่รู้จะด้วยโชคชะตาวาสนาหรือเวรกรรมอะไรแล้วแต่ สุดท้ายปังมากกกแม่........ปังปินาศ!!!
เอาใหม่ๆ ให้กำลังใจตัวเองว่าล้มแล้วต้องลุก ท้อได้แต่อย่าถอย....ฮึบบบ! มาแล้วไอเดียบรรเจิดต้องอันนี้สิ ฉันน่ะเก่งมากเลยนะ ทำธุรกิจอาหารดีกว่ามันคือ DNA เลยนะ ซึ่งตอนนั้นจะเป็นช่วงโควิดรอบแรกพอดี ใครจะไปคิดว่าทำอาหารจิงๆ มันโครตจะเหนื่อย เพราะต้องทำเองคนเดียวตั้งแต่ไปตลาดซื้อของ เตรียมวัตถุดิบ ปรุงอาหาร เก็บล้าง แพ็คของ ส่งของ
โอ้ววว.........แม่เจ้า! ไหนจะเจอปัญหาต่างๆ นานา สุดค่ะบอกเลย
อะๆๆ ไม่เป็นไรนะ Minky เค้าบอกว่ายิ่งล้มเหลวยิ่งสำเร็จ กอดตัวเองไปพรางพร้อมกับพูดให้กำลังใจตัวเองพราง แสดงว่าฉันต้องสำเร็จแน่ๆเลย ลองปรับเปลี่ยนใหม่ดู ทำขนมเบเกอรี่ขายแทนดีกว่า มันไม่น่าจะยุ่งยากเหมือนอาหาร begin again ค่ะ คราวนี้หนักเลยทำเบเกอรี่ราคาวัตถุดิบสูงกว่าอาหารอิ๊กกกก เงินที่เก็บมาก็ใช้ไปหมดล่ะ ดันเจอปัญหาที่ไม่น่าจะเจอ เช่น เตาอบใช้เวลาเดิมไม่ได้หลังจากที่มีการเปิดเตาใช้งานไปแล้ว ขนมจะไหม้ หรือสุกไม่ทั่วอิ๊ก ถ้ามัวแต่มายืนเฝ้าคงไม่ได้การอันใดพอดี สุดท้ายก็เจ๊งคร้าาา เพราะขนมไม่ได้มาตรฐานก็จำต้องทิ้งไป เข้าเนื้อจนเลือดซิบๆ แล้ว เอาไงละทีนี้......???
มันเหมือนภูเขาหล่นทับ จนรู้สึกว่าไม่มีเรี่ยวแรงจะไปต่อ บอกตัวเองว่าอย่าคิดมากแต่มันก็ห้ามไม่คิดไม่ได้ เก็บตัวไม่อยากเจอใคร ไม่อยากพูดกับใคร มันเหมือนมีดกรีดกลางใจ เข้าใจเลยว่าเครียดจิตตกจนนำไปสู่โรคซึมเศร้านั้นมันเป็นยังไง
แต่แล้วโชคชะตาฟ้าลิขิตหรืออย่างไร ที่มีคนๆ นึงมา บอกให้ไปเรียนทำเล็บสิ ไหนๆก็ชอบทำเล็บอยู่แล้วไม่ใช่หรอ แถมประหยัดเงินด้วยนะถ้าเราทำให้ตัวเองได้ ถามว่า ณ ตอนนั้น ที่มันเจออะไรมากมาย มันก็ไม่ได้อยากแต่งตัว ไม่อยากออกไปไหนอยู่แล้ว แล้วศิลปะก็เป็นที่ไม่ชอบเลย หรือจะใช้คำว่าเกลียดก็ได้ ไม่เคยคิดอยู่ในหัวด้วยซ้ำ จนถูกผลักไสให้ไปทำในสิ่งที่ไม่ชอบนั่นแหละ อย่างน้อยก็เป็นการเอาความทุกข์ออกจากจิตผ่านปลายพู่กันก็ยังดี ฟังดูไม่ make senseเอาสะเลย มันจะเป็นไปได้ยังงัย
ไหนๆ ก็ไม่มีอะไรจะเสีย ในใจนั้นคิดดังออกมา..........จึงเริ่มไปนั่งเรียนงานศิลปะเพลินไป ฆ่าเวลาไป มันไม่มีแผนการใดๆ ในหัวทั้งสิ้น
แต่สิ่งแรกกลับค้นพบอะไรบางอย่าง จากที่ไม่รู้จักรอยยิ้มและเสียงหัวเราะมานาน มันกลับยิ้มขึ้นมาได้ รู้สึกสมองโปร่งโล่งสบายขึ้น นอนหลับสนิท เห้ยยยย......อัศจรรย์บังเกิด อะไรกันนี่แค่มาระบายสี มันเปลี่ยนสภาพกายและใจของเราได้ขนาดนี้เลยหรอ!!!!
ในที่สุดสิ่งที่เราควาญหามาทั้งชีวิต ว่าเราจะทำอะไรดี จะไปในชีวิตยังไง สุดท้ายก็มาจบที่เส้นผมบังภูเขานี่เอง สิ่งที่เราคิดว่ามันไม่ได้เรื่องเลย หรือคิดว่าเรื่องศิลปะมันไกลตัว ไม่มีหัวครีเอทสร้างสรรค์งานมันได้หรอก และมองว่ามันยากมากสำหรับเรา แต่เรากลับทำมันออกมาได้ดี และกลับมีความสุขมากกว่าสิ่งที่เราให้ความสำคัญเสียอีก
สุดท้ายนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังค้นหาตัวเองอยู่ ลองมองในสิ่งที่เราเกลียดดูบ้าง หรือสิ่งที่คนอื่นเค้ามองกลับมาเป็นกระจกให้เราว่าน่าจะทำอะไรได้ดี เพราะบางทีเราอาจจะไม่เคยเห็นตัวเองและรู้จักตัวเองจิงๆ ก็ได้
พอเท่านี้ก่อน ยาวไปกว่าอาจจะหลับกันได้
ขอบคุณสำหรับผู้ที่อ่านมาจนบรรทัดสุดท้ายนี้นะคะ นั่นแสดงว่า 👉คุณเป็นคนรักการอ่าน😊 ขอแสดงความยินดีด้วย👏👏👏
โฆษณา