คนเราเกิดมาจากภพภูมิที่มีความแตกต่างกัน เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ สิ่งที่ติดตามมาก็บังคับจิตผู้มีกรรม ที่ติดเป็นนิสัย สันดานไว้กับธาตุทั้งสี่ เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ นิสัยสันดานที่ธาตุทั้งสี่ก่อขึ้นมาด้วยธาตุของกรรมที่ตนเอง เคยใช้เคยกระทำไว้ ก็ไหลออก เคยเป็นคนป่าคนดง เป็นมิลักขะ คนเถื่อนไร้ซึ่งอารยะ ไหว้ผี ไหว้สางเซ่นผี ไหว้ไอ้โน้นไอ้นี้ เวทมนต์ คาถาอาคม(แล้วรู้มั้ยว่า ไอ้ที่ท่องคาถาอาคมเวทมนต์นั้นมันมาอย่างไร ใครส่งให้ มีพิมพ์จำหน่ายจ่ายแจกเต็มบ้านเต็มเมือง ทำให้เกิดเป็นพิษเป็นภัย ทำลายตัวเองและผู้อื่น มันเป็นอย่างไร ไม่เคยรับรู้ ว่านั่นเวรกรรมที่จะพาลงนรก ก็ไม่เคยศึกษา ทำความเข้าใจ คำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สอนชำระล้างให้จิตบริสุทธิ์ หนีกรรม เค้าทำกันอย่างไร ผู้ที่ทำได้ เสียงสาธุการของนามธรรมที่สูงๆ ทำไมแซ่ซ้องก้องจักรวาล) ทรงเจ้า เป็นหมดดู (แต่ไม่เคยดูตัวเอง จะเจ็บจะตายตอนไหน แล้วจะแก้ไขอย่างไร) เข้าผี เสกไอ้นั้นดีไอ้นี้ดี ทำไมไม่เสกตัวเองให้จิตพ้นจิตอันธพาลให้ใจดีบ้าง ทำไมไม่เสกให้พ้นเกิดแก่เจ็บตาย มีเสกวัตถุอุปโลกน์ว่าขลัง มันต้องเสกตัวเองให้ไม่เจ็บไม่ป่วยไม่ตาย ทำได้มั้ย ทำไม่ได้ก็มีเรื่องราวของสัจจธรรมให้ศึกษา เรื่องราวที่ว่าก็มีให้เราได้พบเห็น ไม่ใช่เกิดมาในเมืองพุทธ แล้วจะไม่ถอยกลับไปสู่รอยเดิม รอยมิลักขะ ที่ติดมาในสันดานที่อยู่กับแม่ทั้งสี่ เมื่อจิตที่เป็นหรือมาจากมิลักขะ กระทบกับเรื่องราวเหล่านี้ สิ่งที่เคยสะสมมา เคยยึดถือมาก็ไหลออก เกิดเป็นอารมณ์ความรู้สึกนึกคิด ให้จิตไปยึดไปนิยมชมชอบ