"ทางลัดไม่มี มีแต่ทางตรง ตรงทางตรงธรรม"
" ... พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ผู้ที่เห็นโลกตามความเป็นจริง
แม้มีชีวิตอยู่เพียงวันหนึ่ง คืนหนึ่ง
ก็ประเสริฐกว่าใช้ชีวิตมาร้อยปี แต่ยังหลับใหลอยู่
ทำไมเป็นอย่างนั้น ?
แล้วที่เราเห็นเนี่ย
มันไม่ใช่เห็นแบบตามความเป็นจริงเหรอ ?
แล้วที่เราตื่นขึ้นมาจากที่นอนในทุก ๆ วัน
ไปทำสิ่งต่าง ๆ ในโลกนี่
มันยังไม่ใช่ชีวิตที่ตื่นเหรอ ?
เราก็ไม่หลับนี่
ที่เราตื่นขึ้นมา ที่เราเข้าใจ เราใช้ชีวิต
ที่เราเห็นทุกอย่าง ประสาทสัมผัสทางโลก
มันเป็นการเห็นภายใต้เมฆหมอกแห่งอวิชชา
มันคือการเห็นแบบสมมุติมายาในโลก
มันคือโลก Matrix
ที่เราติดอยู่ในวงจรแห่งวัฎสงสาร
มันจึงเกิดการยึดมั่นถือมั่นเป็นตัวเป็นตน
ติดอยู่ในวัฎสงสาร โยม
ที่ว่าเราตื่น
ยังเป็นชีวิตที่หลับใหลอยู่ในวัฏสงสารอยู่
เปรียบเหมือนเรานอน เรายังฝันอยู่
มันก็ฝันไปเรื่อย หลงภพหลงภูมิไปเรื่อย
จนกว่าจะได้มีโอกาสพบพระพุทธศาสนา
ได้มีโอกาสก้าวเดินในเส้นทางที่ถูกต้อง
อริยมรรคมีองค์ ๘
จนมีสติมั่นคง มีจิตตั้งมั่น
และสามารถเพิกอวิชชาออกไปจากใจได้
สิ่งที่มันห่อหุ้มตั้งแต่เริ่มแรก
อวิชชาเข้าครอบงำจิตใจ
ที่เราเห็นทุกอย่าง ... เห็นภายใต้ความหลงของอวิชชาทั้งสิ้น
ความมืดของธรรมชาติทั้งสิ้น
จนกว่าจะได้เพิกอวิชชาออกไปจากใจ
การเห็นโลกตามความเป็นจริงจึงเกิดขึ้น
แล้วไว้จะลงรายละเอียดให้ฟังว่า
การเห็นโลกตามความเป็นจริง
สภาวธรรมเป็นอย่างไร ?
แต่เมื่อเกิดการเห็นโลกตามความเป็นจริง
ย่อมเบื่อหน่ายคลายกำหนัด
จิตจึงหลุดพ้นจากการยึดมั่นถือมั่น
สัมมาวิมุตติ การหลุดพ้นที่ถูกต้อง
จึงจะสามารถสลัดคืนสู่ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติได้
ทางนี่จะเดินกันไหม โยม ?
ต่อให้มีขวากหนาม มีอุปสรรคจะเดินไหมโยม ?
เพราะฉะนั้น อย่าท้อ ทางอื่นมันไม่มีโยม
มันมีทางเดียว ทางสายเอก
ทางลัดก็ไม่มีนะโยม
ถ้าโยมแสวงหาทางลัดเมื่อไหร่นะ
ให้เข้าใจไว้เลยว่า มันจะหลุดออกนอกทาง
มันมีแต่ตรงทาง ตรงธรรม
มีแต่ทางตรงโยม ทางลัดไม่มี
ตราบใดถ้าโยมแสวงหาทางลัด
ที่เขาบอกว่า นี่สบาย นี่บรรลุฉับพลัน อันนี้ง่ายโยม
มันจะหลุดออกนอกเส้นทางทันที
โยมจะไปถูกสิ่งที่มันเป็นสิ่งที่ดักลวงไว้
ให้เราติดอยู่ในวัฏสงสาร
มีแต่ทางตรงเท่านั้น ตรงทางตรงธรรม
ตรงต่อการหลุดพ้นจากทุกข์
เราถึงจะสามารถ
หลุดจากเภทภัยในวัฏสงสารทั้งปวงได้ ... "
.
ธรรมบรรยายโดย
พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
