23 ก.ค. 2021 เวลา 14:13 • ปรัชญา
“ทุกสิ่งถือกำเนิดมาจากความว่างเปล่า”
ความคิดนี้ผุดขึ้นมาตอนนั่งคิดหาคำตอบในสิ่งที่พยายามทำความเข้าใจมานาน แต่ก็ไม่อาจเข้าใจได้จริง
จึงเริ่มต้นคิดโดยเริ่มจากความว่างเปล่า ไม่ยึดสิ่งที่เคยศึกษาหรือรับรู้มา ขอแค่ความคิดนั้นตรงตาม Logic แค่นั้นพอ (จุดที่ยากคือจุดนี้ล่ะ เพราะ Logic มนุษย์โดยมาก มันเพี้ยนน่ะสิ แต่ชอบเชื่อว่าตัวเองคิดถูก) จึงต้องชดเชยด้วยการตั้งสมมติฐานเชิงซ้อน เพื่อรอการ Prove จากคำตอบในตอนท้ายสุด
ท้ายที่สุดการนั่งคิดและเขียนความเป็นไปได้ต่างๆนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ตายตัวและแน่นอน ได้รับคำตอบที่เป็นรูปธรรม โดยเริ่มต้นจากความว่างเปล่า
ความว่างเปล่าสร้างความงามบนฟากฟ้า
การเรียนรู้จากคนอื่น หรือจากสื่อการสอนมันก็ดีอยู่แล้ว มันเป็นทางลัดที่สุดแล้ว แต่สิ่งที่ได้มาง่ายๆมักเป็นสารอาหารคุณภาพต่ำ เพราะ โดนย่อยมาแล้ว ผ่านการปรุงสุกมาแล้ว กินได้จริง อร่อยจริง แต่คุณค่าก็ลดลงไปตามกัน
ไม่ต่างจากการเรียนที่ผู้เรียนได้รับสูตร ได้ท่องจำกระบวนการ และเทคนิคต่างๆไว้อย่างช่ำชอง เรียนจบไปด้วยเกรด A+++ แต่ไม่เคยเข้าใจสูตรจริงๆ ว่ามันมาจากไหน มีขึ้นเพื่ออะไร คิดมาอย่างไร กระบวนการดังกล่าวมีตัวแปรสำคัญอะไรบ้าง ผันแปรไปตามสิ่งใด เทคนิคข้างต้นใช้ได้ในกรณีใดบ้าง เพราะอะไร?
คำถามนำมาซึ่งความเข้าใจใหม่ เข้าใจแบบไม่ต้องท่องจำ เข้าใจแบบที่แม้ไม่ต้องเรียนรู้ก็สามารถสร้างสูตรจากความว่างเปล่าได้ นี่เรียกว่า “ความเข้าใจ”
(มันก็ไม่ได้ว่างเปล่าขนาดนั้น อย่างน้อยๆมันก็มี Input และ Experience ในการแยกแยะข้อเท็จจริง รวมถึงการเข้าใจกลไกธรรมชาติล่ะนะ แต่เมื่อมี “ความจริงเป็น Base” ทุกสิ่งก็สามารถถูกสร้างขึ้นมาได้ แม้ปราศจากสารตั้งต้น)
โฆษณา