24 ก.ค. 2021 เวลา 00:55 • ธุรกิจ
Mindset เก็บเงินล้านแรก 💭
ในสถานการณ์แบบนี้ แค่คิดจะเก็บเงิน มีเงินเหลือเพียงพอให้ออมได้ ก็เก่งมากแล้ว 👍
อ้อลองย้อนมองอดีต เมื่อตัวเองเก็บเงินล้านแรกได้ ตอนอายุ 24 ปี อ้ออยากจะมาแชร์ความคิด ณ ตอนนั้น ว่าเราคิดยังไง มีทัศนคติแบบไหน อะไรที่ทำให้ถึงเป้าหมายได้
เผื่อว่าจะเป็นกำลังใจให้หลายๆคน ที่กำลังต่อสู้กับวิกฤต ข้ามผ่าน แล้วสามารถเก็บล้านแรกได้ตามเป้าหมายจริงๆ
1. ลองทำหลายๆอย่าง ที่ไม่ต้องมีต้นทุน
เราจะไม่รู้เลยว่าเราเก่งอะไร จนกว่าจะได้ลองทำ
นี่คือสิ่งแรกที่อยากแนะนำ คือการ “ลองทำหลายๆอย่าง”
เหมือนการที่เราบอกได้ว่า ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ต้ม อันไหนอร่อยที่สุด คือเราต้องลองมาหมดแล้ว (ถ้ายังไม่ลอง = ยังตัดสินไม่ได้) ถามคน 100 คน ก็ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องที่สุด เพราะแต่ละคนชอบกินไม่เหมือนกัน
และการเริ่มต้น ก็เริ่มลองแบบที่ไม่ใช้ต้นทุน หรือถ้าจะใช้ ก็ใช้น้อยมากๆ มันมีวิธีค่ะ เป็นลูกจ้างเขาก่อน / เป็นตัวแทนที่ไม่สต๊อคของ / ขายการบริการไม่ใช่สินค้า / รับพรีออเดอร์ เก็บเงินมาก่อน ฯลฯ พอเรารู้แล้วว่าสิ่งนี้เราถนัด เราทำได้ ค่อยเริ่มใส่เงินทุนเข้าไปถ้าจำเป็น
จะได้ไม่ Waste time, Waste money
2. มีโอกาส คว้าไว้ก่อน ไม่ต้องกลัวว่าจะทำไม่ได้
เวลาใครให้โอกาสทำอะไร อ้อทำหมดเลย ก็มีทั้งที่ประสบความสำเร็จ ก็ทำต่อไป อะไรที่ทำแล้วไม่เวิร์ค (มีเยอะนะคะ รู้ไหมอ้อเคยเปิดร้านขายเค้กออนไลน์ เคยเป็นตัวแทนขายเสื้อผ้าด้วย คนเราไม่ได้เก่งทุกอย่าง) ก็จบไป รู้และ ว่าแบบนี้ไม่ถนัด
แต่ต่อให้ล้มเลิกไปเราก็ไม่ได้เสียอะไร แต่ถ้าปังขึ้นมา อาจจะสร้างรายได้มหาศาลให้เรา
ทำ 10 อย่าง ปังแค่ 2 อย่าง ก็คุ้มแล้วค่ะ
เหมือนหุ้นอ่ะ เลือกมา 5 ตัว ขาดทุนไป 3 ตัว แต่อีก 2 ตัวกำไร 10 เด้ง คุ้มจนไม่รู้จะคุ้มยังไง
3. อ่านเป้าหมายตัวเองทุกวัน
ตอนนั้นคืออ่านทุกวันจริงๆ เขียนเอาไว้ในสมุด Planner ว่าต้องมี 1 ล้านก่อนเรียนจบให้ได้
อ่านวนไปวนมา มองเห็น 1,000,000 อยู่ทุกวัน รู้สึกเลยว่าต้องทำได้ๆๆ
เป็นวิธีการที่ทำให้เราจดจ่อขึ้น เหมือนเป็นภารกิจ ถ้าสมมติเราหลุดออกไปจากเป้าหมาย (พอเห็นเงินเริ่มเยอะ ก็เอาไปใช้จ่ายเรื่อยเปื่อย หรือเหลิงขึ้นมา เอาไปซื้อของแพงๆที่ไม่มีประโยชน์) พออ่านเป้าหมาย เราก็จะรู้ตัวแล้วดึงกลับมาอย่างรวดเร็ว
4. หาหนทางใหม่ๆ
ถ้าวิธีการเดิม ยังไม่ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ อย่าคิดว่าทุกอย่างจะดีขึ้นมาเอง ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ลองหาวิธีการใหม่ๆดูค่ะ เช่น
1. เราเคยขายแอร์ แต่แจกใบปลิว เอาใบปลิวไปวางไว้ตามที่ต่างๆ แล้วไม่ได้ผล เราเลยศึกษาข้อมูลแอร์ทุกยี่ห้อ รู้จักทุกรุ่น ทุก BTU หาหอพักเปิดใหม่ แล้วยื่นประกวดราคา ทำให้ขายได้เยอะในครั้งเดียว
2. เราเคยขาย Macbook คู่แข่งคือ iStudio ตัวเราไม่มีเครดิตให้ใครเชื่อถือ
แต่ตอนนั้นคนเริ่มใช้อินเตอร์เน็ทเยอะ เราเลยหาตลาดว่าคนที่ชอบ Macbook เขาอยู่ที่ไหนกัน เสริชไปเจอเว็ป Getapple เราให้ส่วนลดนิดหน่อยแลกกับการรีวิว การตลาดออนไลน์ ณ เวลานั้นเป็นเรื่องใหม่มากๆ ผลคือ 3 เดือน เฉพาะ Macbook ขายได้ 200 กว่าเครื่องค่ะ
5. อย่าด้อยค่า Active income
Passive income มีก็ดี ไม่มีก็ได้
เราเชื่อนะว่าถ้ามี Asset แบบนี้ ข้อดีคือเป็นเครื่องมือช่วยผ่อนแรง อยู่เฉยๆก็ได้เงิน ไม่ต้องเหนื่อย..
แต่ถ้า Active income ทำรายได้ให้เราพอใจ มีเงินออม อยู่ได้ แล้วมันไม่ได้เหนื่อยเกินไป ก็ไม่ต้องไปจริงจังกับการหา Passive income มากก็ได้ ก็เราพอใจแล้วอ่ะ
พูดง่ายๆ ขยันทำงานไปเถอะ 100% ของล้านแรกของเรา ก็มาจากการทำงานนี่แหละ ไม่ต้องกลัวว่าถ้ามีแต่ Active แล้วจะรวยอย่างเค้าไม่ได้
6. หาเหตุผลที่ตัวเองอยากมีล้านแรก (และเหตุผลนั้นทำให้ใจฟู)
อย่างอ้อเอง ก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่า #เราต้องรวย
เหตุผลที่ต้องรวย ก็เพราะ เราอยากให้ตัวเราและครอบครัวมีความสุข และอยากเปลี่ยนแปลงให้โลกนี้ดีขึ้น
ถ้ารวย จะได้นำเงินมายกระดับคุณภาพชีวิตคนในครอบครัว รวมถึงพ่อแม่ ลูก จะได้ไม่เกิดปัญหากับสังคมต่อไป
สังคมนี้มีคนที่ขาดแคลน รอรับความช่วยเหลือ หรือแม้แต่คนที่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน เยอะเกินไปแล้ว ถ้าอ้อรวยพอ อ้อน่าจะช่วยเขาได้
นอกจากจะทำให้สังคมนี้ดีขึ้นแล้ว ยังลดกิเลส ลดโลภะ ทำให้จิตใจสงบสบาย
7. ความสำเร็จไม่ใช่การอ่าน แต่คือการลงมือทำจริง
หนังสือ how to เยอะแยะ รวมทั้งบทความนี้ อ่านจบสัก 10 รอบแต่ไม่ได้ลงมือทำอะไร ก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา
หรือถ้าใครแค่เอาส่วนหนึ่งไปตั้ง status เท่ๆ สุดท้ายบทความนี้ก็จะสูญเปล่า ต้องค้นหาตัวเองและปฏิบัติจริงๆ ด้วยนะคะ 😊
อ้อ
โฆษณา