คุณหมอคะ รบกวนสอบถามน่ะคะ ลูกสาว 5 ขวบอยู่อนุบาล 2 แล้วค่ะลูกสาวเรียนอยู่โรงเรียนของรัฐใกล้ๆบ้านค่ะแต่ก่อนอนุบาล1น้องเรียนอยู่โรงเรียนเอกชนน่ะคะยอมรับว่าโรงเรียนเอกชนนี้ดูแลดีพอสมควรค่ะ ประเด็นคือ เริ่มเรียนอนุบาล 2 มา น้องเริ่ม มีคำหยาบ มาคุยให้แม่ฟัง ที่สำคัญคือล่าสุดน้องบอกแม่ว่า เพื่อนผู้ชายแอบจับจิ่มหนู แม่ตกใจมากไม่รู้จะเริ่มต้นสอนน้องยังไง คุณพ่อเขาค่อนข้างไม่พอใจอย่างมาก แม่เลยจะไปปรึกษาครูประจำชั้นให้ช่วยดูแลเด็กให้ใกล้ชิดกว่านี้ พ่อเขาก็เลยว่าอยากย้ายโรงเรียนลูก แต่แม่ก็คิดว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือเปล่า เลยอยากรบกวนคุณหมอว่าเราจะมีวิธีสอนลูกยังไงดีคะ ให้รู้จักปกป้องตนเองจากเรื่องนี้ ที่จริงน้องยังเด็กแต่แม่ก็แอบกังวลมากเลยค่ะ รบกวนคุณหมอแนะนำทีค่ะ
เรื่องนี้ซีเรียสนะคะคุณแม่
1. อวัยวะเพศไม่ว่าจิ๋มหรือจู๋ ห้ามไม่ให้ใครจับเด็ดขาด เราต้องสอนลูกแบบนี้นะคะ และมียกเว้นไว้สำหรับ แม่และพ่อสามารถจับได้ตอนทำความสะอาด
.
2. สีหน้าท่าทางในการสอนของเรา หน้าตาจริงจัง ไม่ตื่นเต้น, ไม่โกรธ, ไม่ดุ เพื่อให้ลูกไม่กลัวเกินไป และไม่ชิลเกินไป
.
3. เราสามารถสอนได้ตั้งแต่ลูกอายุ 2 -3 ปีขึ้นไป สอนเหมือนเป็นอวัยวะหนึ่งในร่างกาย เช่น ตอนสอนว่า ขามีไว้เดิน มือมีไว้จับสิ่งของ..... จิ๋มหรือจู่ก็มีไว้ฉี่และให้ลงท้ายด้วยหน้าตาจริงจังว่า จู๋และจิ๋มห้ามคนอื่นเห็นและจับเด็ดขาด เราถึงต้องใส่กางเกง 2 ชั้นไง มีกางเกงชั้นนอกและกางเกงชั้นใน
.
4. พ่อแม่ต้องให้ลูกแต่งตัวครบ หมายถึงมีกางเกงในด้วย หรืออย่างน้อยก็ต้องใส่กางเกงสักตัวเวลาออกจากห้องน้ำ อย่าให้เดินโป๊ไปมาในบ้าน เพราะเด็กจะเข้าใจคำว่าพื้นที่ส่วนตัวง่ายขึ้น ถ้าพ่อแม่จริงจังกับการห้ามโป๊นอกห้องน้ำ
.
5. สอนลูกว่าพื้นที่ส่วนตัว อย่าให้ใครยุ่ง #ไม่ให้ใครเปิดกางเกงหรือกระโปรง #ไม่ให้ใครดู #ไม่ให้ใครจับ ถ้ามีใครเปิดหรือดู หรือจับ ถึงจะเป็นเพื่อนก็ต้องไม่ยอมเด็ดขาด และให้เดินออกมาบอกครูหรือพ่อแม่
.
6. สุดท้ายนะคะ สิ่งที่เราสอนจะเป็นข้อมูลให้ลูกจดจำ และหวังว่าลูกจะแก้ปัญหาได้ แต่ความเป็นจริงมันไม่ได้ง่ายแบบนี้ค่ะ เด็กยังต้องการให้ผู้ใหญ่หน้างานช่วยดู, ช่วยแก้ไข ซึ่งก็หมายความว่า ครูต้องดูใกล้ชิดเด็ก และเรา #ต้องคาดหวังครูในเรื่องนี้... ตามพัฒนาการสมอง เด็กอนุบาลไม่สามารถประเมินเหตุการณ์ได้ว่า แบบนี้คือมีปัญหาแล้ว หรือแค่เล่นกัน หรือพูดง่ายๆว่า เด็กยังแยกแยะไม่ได้ว่าตรงไหนเล่นตรงไหนซีเรียส ต้องอาศัยครูหน้างานบอกค่ะ
.
7.เคสแบบนี้ โรงเรียนที่ต่างประเทศหลายแห่ง เขาจะให้ครูจับตาดูเด็กผู้ชาย คอยดูลักษณะการเล่น เพื่อประเมินว่าการเล่นแบบนี้มาจากไหน มีประเด็นของผู้ใหญ่มาเกี่ยวด้วยมั้ย และจะแจ้งให้ผู้ปกครองของเด็กชายช่วยประเมินดูลูกที่บ้าน และจะต้องไม่ระบุชื่อเด็กผู้หญิง เพราะเป้าหมายคือ ครูต้องการช่วยเด็ก ไม่ต้องการจับผิดใคร ไม่ต้องการให้พ่อแม่บาดหมาง เพราะเด็กอาจรู้เท่าไม่ถึงการและเราสอนได้
พ่อแม่ของเด็กผู้ชายอาจเผลอเปิดหนังผู้ใหญ่ แล้วลูกเห็นจึงเกิดการเลียนแบบ ก็ต้องปิดภาพเหล่านั้นเลย พฤติกรรมของลูกชายก็ดีขึ้น หรือถ้ามีเรื่องของการล่วงละเมิดทางเพศในบ้าน ก็ต้องดำเนินการต่อไป เป็นต้น
.
ในประเด็นที่คุณแม่ถามว่า “พ่ออยากย้ายโรงเรียนลูก แต่แม่คิดว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือเปล่า” หมอตอบว่า “ไม่ใช่”.. เพราะเด็กไม่สามารถปกป้องตนเองได้ ถ้าครูไม่ช่วย .... และหากครูไม่ช่วยสังเกตใกล้ชิด ไม่คอยประเมินและสอนเด็กชาย และสอนลูกเราด้วย โอกาสที่ลูกเราจะได้เรียนรู้คงเกิดขึ้นยากกก น่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดีค่ะ
.
จำไว้ว่า เรื่องเกี่ยวกับอวัยวะเพศ ซีเรียสค่ะ อย่าชะล่าใจ อย่าคิดว่าแค่เด็กเล่นกัน มีวิธีเล่นเป็นร้อยเป็นพัน และการจับจิ๋มไม่ใช่เรื่องที่จะมาเล่น ... รีบประเมิน, รีบแก้ไขดีที่สุด ลูกจะเห็นว่าเรื่องนี้ซีเรียสจริง ตามที่พ่อแม่สอนไว้ด้วย
ถ้าไม่มีอะไรก็ดีไป.. แต่ถ้ามีอะไรหรือเลยเถิดไปเรื่อยๆ ไม่คุ้มเลยค่ะ!
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
