24 ก.ค. 2021 เวลา 08:29 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รายงานหนังทำเงินอเมริกาเหนือ 16-18 กรกฎาคม 2021: หนังภาคต่อ ‘Space Jam: A New Legacy’ สร้างเซอร์ไพรส์ เขี่ย ‘Black Widow’ ลงจากอันดับ 1
รายงานหนังทำเงินอเมริกาเหนือ 16-18 กรกฎาคม 2021 จากวาไรตี มีเซอร์ไพรส์ เมื่อหนังไฮบริด คนแสดง – แอนิเมชัน ‘Space Jam: A New Legacy’ ซึ่งนักบาสระดับซูเปอร์สตาร์ เลอบรอน เจมส์ ประกบกับทีมตัวการ์ตูนจาก ‘Looney Tunes’ ยึดอันดับ 1 ด้วยรายได้ 31.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
หนังเป็นภาคต่อของ ‘Space Jam’ เมื่อปี 1996 และทำเงินได้เกินที่คาดกันไว้ ซึ่งอยู่ราว ๆ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยใช้เวลาเพียงสามวันแรกเท่านั้น แล้วถึงบนเว็บมะเขือเน่า ‘Space Jam: A New Legacy’ จะได้ค่าความสดแค่ 31% แต่ผู้ชมก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี เมื่อได้คะแนน A- จากซีนีมาสกอร์ โดยหนังเปิดฉายในอเมริกาเหนือร 3,965 จอพร้อมๆ กับให้ชมกันทางเอชบีโอแม็กซ์
“การทำการตลาดของหนังเรื่องนี้ดูสนุก และช่วยกระตุ้นผู้ชมได้ดี” เจฟฟ์ โกลด์สไตน์ ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายในประเทศของวอร์เนอร์ บราเธอร์ส กล่าว
รายได้ที่เกินคาดของ ‘Space Jam 2’ ยังมากพอที่จะเขี่ยแชมป์สัปดาห์ก่อนหน้า ‘Black Widow’ หนังดิสนีย์/ มาร์เวล ตกจากบัลลังก์ โดยหนังทำรายได้ในสัปดาห์ที่สองอีก 26.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตกจากสัปดาห์เปิดตัวถึง 67% แต่เมื่อนับถึงตอนนี้ ‘Black Widow’ ทำรายได้รวมในอเมริกาเหนือไปแล้ว 131 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 264 ล้านเหรียญทั่วโลก หลังออกตัวได้อย่างหวือหวา ไป ๆ มา ๆ หนังที่ใช้ทุนสร้างถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ต้องเจอกับอุปสรรคครั้งใหญ่ ถึงกระนั้นก็ยังพออุ่นใจได้ว่า ในตลาดดิจิทัลหนังที่มีให้ชมทางดิสนีย์พลัส โดยสมาชิกต้องจ่ายค่าชมเพิ่มอีก 30 เหรียญสหรัฐ น่าจะชดเชยบาดแผลที่เกิดขึ้นได้บ้าง แต่หลังจากรายงานตัวเลขในสัปดาห์เปิดตัวว่า หนังทำเงินจากดิสนีย์พลัสถึง 60 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์เปิดตัว ดิสนีย์กลับเลือกที่จะไม่รายงานตัวเลขในสัปดาห์ที่สองออกมา แต่อย่างน้อย ก็ยังพอมีด้านบวกให้มองอยู่บ้าง เมื่อหนังยังไม่เปิดตัวในจีน ตลาดสำคัญของหนังในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล
ท่ามกลางสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงของไวรัสสายพันธุ์เดลตา และการเปิดตัวพร้อมกับเอชบีโอแม็กซ์ รายได้ของ ‘Space Jam: A New Legacy’ ถือว่าเป็นการเปิดตัวด้วยรายได้มากที่สุดของหนังครอบครัวในยุคโควิด-19 ในช่วงแรก ๆ ของการระบาด หนังที่พุ่งเป้าไปยังกลุ่มผู้ชมเด็ก ๆ เช่น ‘The Croods: A New Age’ และ ‘Tom and Jerry’ เป็นหนังที่ทำเงินทำทอง แต่พอช่วงหน้าร้อนมาถึง หนังอย่าง ‘The Boss Baby: Family Business’, ‘Peter Rabbit 2: The Runaway’ และ ‘Spirit Untamed’ กลับไม่ได้ใจผู้ชมกลุ่มครอบครัวนัก ซึ่ง ‘Space Jam 2’ ที่เป็นหนังครอบครัวเรื่องแรกหลังในช่วงนี้ สามารถเสนอสิ่งที่ผู้ชมเด็ก ๆ ต้องการได้ โดยผู้ชม 53% เป็นเพศชาย และ 52% มีอายุต่ำกว่า 25 ปี
“ด้านบวกของสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ ผู้ชมกลุ่มครอบครัวกลับมามีชีวิตชีว นอกจาก ‘Space Jam 2’ จะดึงผู้ชมครอบครัวได้แล้ว ยังทำให้โรงหนังกลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง” เดวิด เอ. กรอสส์ ผู้บริหารของแฟรนไชส์ เอนเตอร์เทนเมนต์ รีเสิร์ช บริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจภาพยนตร์กล่าว
สำหรับตลาดต่างประเทศ ‘Space Jam: A New Legacy’ เก็บรายได้ไป 23 ล้านเหรียญสหรัฐจาก 64 ตลาด รายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 54.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หนังเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างไป 150 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนั่นหมายความว่า ยังต้องการเงินอีกเยอะมาก เพื่อจะทำให้หนังได้กำไร แต่ในกรณีนี้ ทางวอร์เนอร์ฯ อาจไม่ได้มองความสำเร็จของหนังอยู่ที่เรื่องรายได้ เพราะวอร์เนอร์มีเดีย บริษัทแม่ของวอร์เนอร์ฯ หวังว่าหนังอย่าง ‘Space Jam: A New Legacy’ และงานที่จะออกตามมาในปี 2021 ซึ่งจะเปิดตัวในโรงพร้อม ๆ กับสตรีมมิง จะทำให้มีผู้สมัครใช้บริการเอชบีโอแม็กซ์ เพิ่มมากขึ้น
อันดับ 3 เป็นหนังโซนี ’Escape Room: Tournament of Champions’ ที่เปิดตัวในวงกว้าว 2,815 จอ ทำรายได้ตามมาห่าง ๆ 8.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอยู่ในระดับที่คาดกันไว้ แต่มื่อเทียบกับรายได้ 3 วันแรกของหนังภาคแรก ‘Escape’s Room’ เมื่อปี 2019 ถือว่ายังห่างกันเยอะ เมื่อหนังต้นฉบับทำรายได้ถึง 18 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนจะเก็บเงินไปทั้งหมด 57 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับตลาดต่างประเทศ หนังทำเงินไป 3.4 ล้านเหรียญสหรัฐจาก 18 ตลาด ทำให้รายได้นอกอเมริกาขยับเป็น 4.5 ลเานเหรียญสหรัฐ สำหรับทุนสร้างของหนังภาคนี้อยู่ที่ 15 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มจากภาคแรกที่ลงทุนไปแค่ 9 ล้านเหรียญสหรัฐ
อันดับ 4 เป็นหนังยูนิเวอร์แซล ภาคต่อของ ‘Fast and Furious’ – ‘F9’ ที่ได้เงินมาอีก 7.6 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์ที่สี่ของการฉาย รายได้รวมในอเมริกาเหนือเพิ่มเปิ็น 154 ล้านเหรียญสหรัฐ และหนังน่าจะทำรายได้รวมทั่วโลกผ่าน 600 ล้านเหรียญสหรัฐได้ในเร็ว ๆ นี้ โดยตอนนี้หนังทำเงินรวมทั้งหมดถึง 591 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่แอนิเมชันของยูนิเวอร์แซล ‘The Boss Baby: Family Business’ ตามมาในอันดับ 5 โดยทำเงินไป 4.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ตอนนี้หนังภาคต่อของ ‘Boss Baby’ เมื่อปี 2017 ทำเงินไปแล้ว 44 ล้านเหรียญสหรัฐจากการฉายสามสัปดาห์ในโรง และหนังมีให้ชมทางสตรีมมิงเจ้าใหม่ พีค็อก กันแล้ว
ในกลุ่มงานที่เปิดตัวแบบพิเศษ หนังสารคดีของโฟกัส ฟีเฌอร์ส ‘Roadrunner: A Film About Anthony Bourdain’ ที่ฉาย 925 จอ สามารถทำรายได้ 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2,050 เหรียญสหรัฐต่อโรง ซึ่งถือว่ามากพอดูและแรงพอจะดึงให้หนังเข้ามาติดอันดับ 8 และกลายเป็นหนังอินดีที่เปิดตัว และหนังสารคดีเปิดตัวรายได้มากสุดของปีนี้ โดยหนังสร้างข้อถกเถียงให้เกิดขึ้นไม่น้อยในโลกโซเชียล หลังมอร์แกน เนวิลล์ ผู้กำกับ ออกมาเผยว่า คำพูดสามประโยคของแอนโธนี บัวร์เดน ที่จากไปเพราะฆ่าตัวตายในปี 2018 ถูกสร้างขึ้นโดยปัญญาประดิษฐ์​ แต่ท้ายที่สุดมันก็กลายเป็นการกระตุ้นผู้ชม หนังได้ค่าความสดจากเว็บมะเขือเน่าถึง 95% โดยหลังจากฉายในโรงภาพยนตร์ ‘Roadrunner’ จะปล่อยให้ชมทางซีเอ็นเอ็น และทางเอชบีโอ แม็กซ์ต่อไป
อันดับ 10 เป็นหนังระทึกขวัญจากค่ายนีออน ‘Pig’ ที่นำแสดงโดยนิโคลาส เคจ หนังทำเงิน 954,000 เหรียญสหรัฐจาก 552 จอ หรือ 1,712 เหรียญต่อจอ และการแสดงของเคจในบทนักเก็บเห็ดที่หมูสุดรักหายตัวไป ได้รับคำชมอย่างมาก และกลายเป็นหนึ่งการแสดงของเขาในรอบหลายปี ที่ได้รับคำชมขนาดนี้
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos และ www.blockdit.com/sadaos
#MovieStory: 12 ฉากซิ่งที่ต้องจำ จากหนังชุด Fast & Furious อ่านเรื่องราวพร้อมชมคลิป ของหนังที่กลายเป็นเจ้าของสถิติใหม่เพียบในยุคโรคระบาด กันได้ที่นี่ >> https://bit.ly/3gGw6Q0 #Fast9 #F9 #sadaos #fastandfurious

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา