25 ก.ค. 2021 เวลา 08:48 • คริปโทเคอร์เรนซี
Ep. 5 : Defi ความโกลาหลที่งดงาม อินเตอร์เน็ตเลเยอร์ 1 เลเยอร์ 2 อิหยังวะ?
- จากบทความก่อนอย่างที่เรียนให้ทราบว่าอินเตอร์เน็ตที่เราใช้ในโลกปัจจุบัน มันคืออินเตอร์เน็ตเลเยอร์ 1 และในส่วนของ Blockchain คือเลเยอร์ 2
- แล้วไอ้เลเยอร์ 1 กับเลเยอร์ 2 มันมีข้อดีข้อเสียต่างกันยังไงวะ?
- มาๆ ไอ้ผมก็ชาวบ้านไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ที่ไหน เดี๋ยวผมลองพูดให้ฟังคร่าวๆ (เหรอวะ?🤤)
- แยกเป็นสองบทความนะครับ 😅😅
- เมื่อไหร่จะเข้า Defi?
ผมในตอนนี้ (เที่ยวทะเลกันครับ)
ผมขอเรียกอินเตอร์เน็ตที่เราใช้ในปัจจุบัน โดยจะขอเรียกว่า Layer 1
- อินเตอร์เน็ตแบบที่เราใช้ก็อย่างที่เราทราบกันดี ว่ามันสามารถรับ ส่งข้อมูลกันได้อย่างรวดเร็ว สามารถสำเนาข้อมูลต่างๆ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ หรือเพื่อการศึกษา การเงิน บลาๆๆๆ
- ข้อดีหลัก ๆ คือมันสามารถสำเนาข้อมูลได้อย่ารวดเร็ว และสามารถส่งต่อมันออกไปได้โดยไม่จำกัดจำนวน หรือมันก็คือไอ้ที่เราใช้กันบ่อยๆ คือ Copy กับ Paste นั่นแหละครับ ซึ่งมันก็ยังดัดแปลง และแก้ไขได้เรื่อยๆ
- ซึ่งแน่นอนครับ มันเกิดธุรกิจเพิ่มขึ้นมากมาย ทั้งมาดี มาร้าย รวมถึงไอ้พวก แอปที่เราใช้กันอยูุ่วันนี้ หรือจะเกิดธุรกิจออนไลน์ ไลฟ์สดขายของ หรือการยิงแอด ซึ่งก่อให้เกิดธุรกิจตัวหนึ่ง เรียกว่า SEO หรือ Search Engine Optimization
- ซึ่งข้อเสียในอินเตอร์เน็ต Layer 1 คืองานอะไรต่างๆ เช่นงานศิลป์ ภาพถ่าย หรืออะไรที่เราเอาไปลงในเน็ต ด้วยความที่มันส่งต่อได้เรื่อย ๆ ก๊อบกัน มันทำให้ขาดอะไรที่เรียกว่า "มูลค่า" ซึ่งหากไม่มีมูลค่า มันก็ย่อมขาด "คุณค่า"
ยกตัวอย่างเช่นสมมุติผมรังสรรค์ผลงาน ซึ่งผมใช้ความพยายามครีเอทกว่าสองสัปดาห์เพื่อให้งานมันออกมา (หลอก)
ภาพงานอาร์ทก่อนทำ (ขอบคุณเจ้าของแบรนด์ และเจ้าของมือมา ณ ที่นี้)
ภาพงานอาร์ทของกระผมเอง (พิจารณาให้เป็นงานศิลป์ครับ : ผู้เขียน)
อ่าร์.........อย่าว่ากันนะครับ ผมห่วยเรื่องงานอาร์ทและงานตัดต่อมาก (บล็อกเกอร์มันจะเก่งทุกทางเลยก็คงไม่ได้เนอะ🤤🤤🤤)
ทีนี้ ผมอยากให้ผลงานผมถูกเปิดเผยสู่สายตาประชาชน ผมเลยเอาภาพของผมไปลงอินเตอร์เน็ต
ผมที่โชว์งานศิลป์ให้ชาวเน็ตได้พิจารณา
เมื่อมีคนมาเห็น แล้วรู้สึกว่าชอบงานของผม ก็เอาภาพของผมเก็บไว้ หรือส่งต่่อให้กับบุคคลอีกทอดหนึ่ง
ผมที่นิ้วลั่นไปแล้ว......
แล้วก็เกิดการส่งต่อ แก้ไข ไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด
งานผมที่ถูกส่งต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีสิ้นสุด
ซึ่งหากเราจำได้มันมีอะไรที่เราเรียกว่า "ทรัพย์สินทางปัญญา" ซึ่งทางทฤษฎีมันก็สามารถควบคุมการสำเนาซ้ำๆ ได้ระดับหนึ่ง แต่จริง ๆ กฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญาแต่ละประเทศก็แตกต่างกันออกไป และเมื่อต้องหาข้อพิสูจน์บางครั้งมันก็ตอบไม่ได้ว่านั่นคือการ "ละเมิดลิขสิทธิ์" หรือมาจากการได้รับ "แรงบรรดาลใจ" หรือจริงๆ มันก็แค่การขโมยความคิด (PLAGIARISM)
- กฎหมายด้านนี้แต่ละประเทศมันก็มีโทษที่ต่างกันออกไปจริงไหม และเอาจริงๆ ถ้ามันตัดต่อนิดหน่อย ดัดแปลงนิดหน่อย แล้วบอกว่ามันคือ "แรงบรรดาลใจ" มันก็ค่อนข้างจะฟังขึ้นบ้าง ใช่ไหมครับ?
-ทีนี้มันถึงมีระบบ Blockchain เกิดขึ้นมา นอกจากธุรกรรมที่รวดเร็วและปลอดภัยกว่า (เดี๋ยวผมอธิบายเรื่องนี้ในบทความต่อไป) มันยังมีระบบที่ปลอดภัยมาก (เดี๋ยวผมอธิบายเช่นกัน)
- ถึงมันจะดูด้อยค่าในเรื่องดังกล่าว แต่อย่าลืมว่า Layer 1 มันก็มีข้อดีคือมันสืบค้นข้อมูลได้ สามารถหาข้อมูลเชิงลึกในเรื่องที่เรากำลังศึกษาหรือวิจัย รวมทั้งการเข้าถึงสินค้าและบริการ ซึ่งแน่นอนครับมันเกิดธุรกิจตัวหนึ่ง คือ SEO
SEO ที่เค้าทำกันเยอะสุดน่าจะที่นี่แหล่ะครับ
SEO หรือ Search Engine Optimization (จากนี้จะเรียก SEO) เป็นหนึ่งในสิ่งที่หากคุณใช้ Google คุณควรทราบภาพรวมบ้าง แต่!!!!! ถ้าคุณค้าขายออนไลน์ "คุณต้องรู้!!!" และควรที่จะเจาะลึกกับมันแบบสุดใจหากอยากที่จะประสบความสำเร็จกับธุรกิจออนไลน์ ซึ่งผมก็รู้ไม่ลึกเช่นกัน เนื่องจากผมไม่ใช่โปรแกรมเมอร์แต่อย่างใด
- SEO หรือง่ายๆ มันคือการที่คุณเซิร์จหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเนี่ยแหล่ะ
- ซึ่งการที่คุณเซิร์จจะหาอะไร คุณก็ต้องพิมพ์คำที่คุณต้องการ ซึ่งเราเรียกมันว่า "Key Word"
- ทีนี้ไอ้คนขี้เกียจแบบผม มันก็คงเลื่อนดูแต่หน้าแรกๆ ถูกไหม ? และถ้าจะซื้ออะไรก็คงเปรียบเทียบราคานิดหน่อย และก็คงเลือกซื้อจากสินค้าในหน้าแรกไม่กี่เจ้า ใช่ไหม?
- ตรงนี้แหล่ะครับ ที่หากคุณเป็นผู้ขายสินค้าและบริการ และคุณไม่รู้จัก SEO คุณจะไม่อยู่ในรายชื่อการเปรียบเทียบราคานิดหน่อยของผมเลย แม้ว่าสินค้าหรือบริการคุณจะดีกว่าหรือถูกกว่า เนื่องจาก "ผมไม่เห็นคุณ"
ส่วนอันนี้ผมที่ชอบแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นคุณ 🤫🤔
สมมุติผมที่นอนไม่ค่อยจะพอในแต่ละวัน ตื่นมาพร้อมกับเช้าเหงาๆ เหมือนกับโลกที่มีฟิลเตอร์สีเทา เป็นเช้าที่ผมต้องตาโหลและอิดโรยเช่นเดิม ให้ตายเถอะ ผมที่เพิ่งตื่นเริ่มจะคอแห้งแบบสุดๆ อยากได้น้ำอะไรที่มีรสชาติลงคอสักหน่อย แต่ไอ้น้ำดำปราศจากน้ำตาลเจ้ากรรมของผมก็ดันหมดซะนี่ อ้อใช่ ผมเพิ่่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานผมไปทำงานใช้แรงงาน และเพิ่งได้ค่าจ้างเป็นน้ำผลไม้สกัดเย็นหนึ่งขวดนี่
1
- ว่าแล้วผมก็สาดน้ำผลไม้ลงคอรวดเดียวหมด
- อร่อยหรือ? อ๋อป่าวครับ ขวดมันเล็ก แต่ก็พอจะสดชื่น และทำให้เช้าเหงาๆ ฟิลเตอร์สีเทาของผม พอจะมองเห็นแสงสว่างได้บ้าง
- อ่าร์.....ว่าแล้ว สงสัยต้องจัดเพิ่มอีกสักสิบขวด (หลอก)
- ที่ขวดมี QR Code นี่ สแกนซิ.........
- ไอ้ Well ทำไมสแกนไม่ขึ้นวะ ? เดี๋ยว!!! หรือเพราะขวดยังมีคราบน้ำติดอยู่ เช็ดหน่อย อืมมมมม ไม่ขึ้น จ่อๆ ไม่ขึ้น ไกลๆ ไม่ขึ้น ใกล้ๆ #@#$#@$%😡😡
- อ่ออออออ ผมลืมไปว่าเจ้าของแบรนด์มันบอกผมว่ามันยังไม่ได้แก้ QR Code มันเลยสแกนไม่ติด
หน้าผมที่พยายามสแกน QR Code บนขวด
- เอาวะ ในเมื่อผมอยากกินจริงๆ ผมก็ต้องได้กินจริงไหม?
- ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์ บรรจงกรีดนิ้วลงบนจอทัชสกรีนอย่างแผ่วเบา เปิดอากู๋ขึ้นมาและพิมพ์ อะไรนะ? ตะกี้กูกินอะไรเข้าไปวะ? อ๋อออออ น้ำผลไม้สกัดเย็น
- ผมก็เลยพิมพ์ลงไปว่า "น้ำผลไม้สกัดเย็น"
พิมพ์คำว่า "ซื้อ" เพื่อจะได้เจอครับ
- ไม่มีแฮะ......อืม ไหนผมดูที่ขวดหน่อย ว่าผมจะติดต่อช่องทางไหนได้บ้าง
- ไลน์ ไม่ได้ ทำไมวะ? นั่นดิ!!! ลองพิมชื่อแบรนด์หน่อยละกัน ต่อท้ายน่าจะเจอร้าน ผมก็เลยพิมพ์เข้าไปว่า "น้ำผลไม้สกัดเย็น d juice"
คีย์เวิร์ดในช่องครับ เจอสองร้าน
- เจอแฮะ....แต่คนละเจ้า ไม่ใช่เจ้านี้นี่
- ลองพิมพ์ เพิ่มอีกสักหน่อย มีข้อมูลอะไรให้บ้างนอกกระดาษขาว ชื่อแบรนด์ และ QR code ที่แสกนไม่ติดบ้างนะ........โอเค ผมเจอแล้ว เค้ามีคำว่า Natural
- ดังนั้นผมเลยพิมพ์เพิ่มไปอีกหน่อย เป็น "น้ำผลไม้สกัดเย็น d juice natural"
ลองเพิ่มคีย์เวิร์ดคำที่สาม (แต่จริงๆ 1 ตัวอักษร คือ 1 คีย์เวิร์ดครับ)
- ผมเจออะไรบ้าง อ่อ เครื่องสกัดน้ำผลไม้ ปัดๆๆๆๆๆ ไม่มีในร้านค้าออนไลน์สักที่เลยแฮะ ลงมาอีก อืม.... ผมเจอวิดีโอ รูปภาพ 11 ร้านขายน้ำสกัดเย็น และอ่าาาาาา
- และ
- และ และผมเจอแล้ว🙏🙏!!!! ผมเจอร้านน้ำผลไม้ที่ผมต้องการในการค้นหาของผม จากคีย์เวิร์ด "น้ำผลไม้สกัดเย็น d juice natural" จากการค้นหา 3 ครั้ง และสามคีย์เวิร์ดจาก Google
- .................
ผมเจอแล้ว!!!
ข้อน่าสังเกตุ : เนื่องจากผมเซ็นเซอร์ แต่ร้านน้ำที่ชื่อแบรนด์ "ใกล้เคียงกัน" ก็อยู่ในลำดับถัดจากร้านที่ผมต้องการซื้อ และขึ้นเป็นลำดับแรกๆ ตั้งแต่ผมใช้คีย์เวิร์ด "น้ำผลไม้สกัดเย็น" ดังนั้น มันก็เป็นโอกาสสูงที่แบรนด์ดังกล่าวจะเป็นข้อเปรียบเทียบกับน้ำผลไม้ที่ผมทาน ดังนั้น มีสิทธิ์ที่ร้านน้ำผลไม้ดังกล่าวจะเป็นคู่แข็งกับร้านที่ผมทาน
- ใช่ครับมันอาจจะยังไม่ชัดนะครับ เนื่องจากบนขวดน้ำผลไม้มี IG ซึ่งจริงๆ มันค้นหาใน Ig มันก็ขึ้น แต่ความจริงในการขายของบนโลกออนไลน์ คนขี้เกียจแบบผมมันก็เยอะ ที่จะเลือกตัดสินใจจากสินค้าไม่เกินสองหรือสามตัว (กรณีผมเป็นผู้บริโภคลำดับสุดท้ายของปลายน้ำอ่ะนะ)
- เครครับ มาดูบนไอจีกันบ้าง
ไอจีจ้ะ
จะเห็นได้ว่าถ้าผมค้นหา D juice มันขึ้นอันดับ1 เนื่องจากผมกดติดตามเพจดังกล่าวไว้ แต่ก็มีเพจมีการพูดถึง D juice อีกระดับหนึ่ง และมีข้อสังเกตคือมีการใช้ #ในหมวดดังกล่าวกว่า 1000 โพส
-ดังนั้น ในกรณีน้ำผลไม้สกัดเย็นดังกล่าว เราจึงเห็นได้ว่า ถ้าผมเป็นลูกค้าในลักษณะออนไลน์นั้น มันมีโอกาสน้อยมากที่ผมจะเจอน้ำผลไม้แบรนด์นี้ ถ้าผมไม่ได้เห็นหรือเคยทดลอง "โปรดักส์" ดังกล่าว ซึ่งข้อมูลที่ผมนำมาใช้ในการค้นหาที่ผมกล่าวมาข้างต้น มันอยู่บน "โปรดักส์"
- ซึ่งมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่ผมจะหาช่องทางการติดต่อกับเจ้าของสินค้า หากผมค้นหาในหมวด "น้ำผลไม้สกัดเย็น"
ผมที่กำลังพยายามคิดว่าทำไมไม่แก้ให้ไลน์บนขวดให้มันใช้ได้วะ?
ดังนั้น หากคุณค้าขายออนไลน์ คุณควรจะหาทุกช่องทางที่ทำให้โปรไฟล์ หรือธุรกิจของคุณ อยู่ในลำดับต้น ๆ ของการค้นหา เพื่อคุณจะได้เปรียบหลักๆ คือการได้สื่อสารกับลูกค้า และลูกค้าก็เห็นคุณมาก และบ่อยขึ้น
- ในส่วนของวิธีการทำให้โปรไฟล์ออนไลน์ของคุณได้ขึ้นเป็นลำดับ 1 นั้น มันก็มีหลายทาง แต่หลักๆ มันเหมือน Blockdit เนี่ยแหล่ะครับ คือจำนวนคลิ๊ก จำนวนการมีส่วนร่วม ระยะเวลาที่อยู่ในร้าน ฯลฯ (อันนี้ไม่แน่ใจนะครับ เนื่องจากผมเคยทำ SEO เมื่อนานมาแล้ว และก็ไม่ได้ทำเงินกับมันเท่าไหร่)
- ซึ่งหากเป็นสมัยก่อน เค้าใช้วิธีการโปรโมทผ่านการ "แปะ" ลิ้งเพื่อโปรโมทนะครับ โดยอาจเข้าไปมีส่วนร่วมในชุมชนออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้สินค้า หรือเมื่อก่อนมันก็อาจจะเป็นเวปไซต์ส่วนตัว เพื่อโปรโมทสินค้านั้น
- สมัยนี้มันง่ายกว่านั้น มันมีทั้งยิงแอด และแอปดีๆ อีกมากมายที่จะทำให้สินค้าหรือบริการของคุณถึงมือลูกค้า และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ส่วนตัวผู้เขียนเชื่อว่าเรื่อง "จับเสือมือเปล่า" ไม่มีอยู่จริง เพราะต่อให้คุณไม่ใช้เงินทุน คุณยังมีสิ่งอื่นที่เสียไป ซึ่งคือ "เวลา" และ "โอกาส" ลองนับดูว่าเสีย "เวลา" และ "โอกาส" ไปเท่าใด ในช่วงที่มัวแต่หลงระเริงว่าไม่ได้ใช้ "เงิน" เลยสักบาท เพราะหากยอมลงทุนสักหน่อย ก็อาจจะไม่เสียต้นทุนด้าน "เวลา" ที่มันมักจะมาพร้อม "โอกาส" ถูกไหมครับ?
อนึ่ง เรื่อง SEO ก็ยังมีการทำอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะยังไงคนสมัยนี้ก็ไถ Facebook, IG ฯลฯ มากกว่าเปิดโทรทัศน์ ซึ่งไอ้ช่องทางการโปรโมททาง SEO เอาจริง ๆ มันก็ค่อนข้างจะประหยัดทรัพยากรมากกว่าการจะไปทำโฆษณาสักตัว หรือไปขึ้นป้ายบิลบอร์ดใหญ่ๆ จริงไหม?
สิ่งที่ผู้อ่านคิด : ผม:
ปล.ผมมิได้ทำการค้าสินค้าใดทางออนไลน์ทั้งสิ้นครับ ที่ว่ามาเป็นการยกตัวอย่างเท่านั้น
จากที่กล่าวมา ท่านคงเห็นได้ว่าอินเตอร์เน็ต Layer 1 นั้นทำงานอย่างไร และมีความปลอดภัยน้อยกว่า Blockchain อย่างไร จะมาตอบทุกท่านในบทความต่อไป
(ผมพาออกทะเลอีกแล้วครับ)
เวิ้งว้างงงง
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ฝากซีรี่ Critical Thinking : Defi ความโกลาหลที่งดงาม ด้วยครับ
ฝากกดติดตามด้วยครับ (เดี๋ยวผมมีไรจะเล่าให้ฟัง🤔🤫)🙏🙏🙏
และ และ และ เช่นเดิม
🤫🤫

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา