เหรียญแรกกับเหรียญล่าสุด
โดย มิสมาต้า
มอนทรีออลเกมส์ ปี 1976
พเยาว์ พูนธรัตน์ วัย 19 ปี เป็น 1 ใน 42 นักกีฬาโอลิมปิกของไทยที่เดินทางไปชิงชัยเหรียญทองจากกีฬาโอลิมปิกที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา
แน่นอนว่ามวยไทยคือมรดกไทยมรดกโลก แฟนกีฬาชาวไทยจึงคาดหวังเหรียญรางวัลจาก 5 นักชกมวยสากลสมัครเล่นของไทยเอาไว้มาก แต่กีฬาที่โอลิมปิกแห่งประเทศไทย และสื่อยกให้เป็นความหวังในการคว้าเหรียญรางวัลในตอนนั้นกลับเป็น กีฬาอย่างว่ายน้ำ, ยิงปืน และในกีฬาประเภทลู่อย่างกรีฑามากกว่าชนิดอื่น
สำหรับสมาคมมวยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยได้ตั้งความหวังไว้กับ พเยาว์ พูนธรัตน์ อดีตนักมวยไทยที่ไปไม่ได้ดีในการใช้หมัด เท้า เข่า และ ศอก บนสังเวียนเวทีมวยไทย
จนต้องหันมาเอาดีทางมวยสากลสมัครเล่นเพราะเทรนเนอร์เห็นว่ามีแววดีที่หมัด ซึ่งพเยาว์ใช้เวลาเพียงปีกว่าๆ ก็เอาดีทางมวยสากลสมัครเล่นได้
เริ่มต้นในรายการชิงแชมป์เอเชียเมื่อปี 1975 พเยาว์สามารถไปไกลถึงขั้นคว้าเหรียญเงินในรุ่นฟลายเวตได้ อันเป็นการเปิดฉากได้อย่างมีความหวัง
จากนั้นได้ลดน้ำหนักมาต่อยในรุ่นไลท์ฟลายเวท หรือรุ่น 105 ปอนด์แทน โดยประเดิมต่อยในมวยสากลสมัครเล่นชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ปี 1976 สมัยที่ยังเป็นรายการสากลสมัครเล่นระดับโลก จนได้เหรียญเงินมาครอง
ทำให้พเยาว์ไปโอลิมปิก 1976 ที่มอนทรีออลในอีก 4 เดือนต่อมาในฐานะตัวความหวังของสมาคม
ในการชกมวยสากลสมัครเล่น นอกจากฝีมือของนักชกแล้ว ดวงในการจับติ้วก็ต้องมีด้วย ซึ่งนักชกบางคนมี แต่พเยาว์ไม่มี
ในรอบ 32 คน เรมุส คอสมา ยอดฝีมือจากโรมาเนียคือตัวเต็งในรุ่น ซึ่งเกมการชกก็เป็นไปในทรงนั้นที่พเยาว์ดูเป็นรอง และเกิดแผลที่คิ้วจากอุบัติเหตุในยกที่สอง จนทำให้พเยาว์ต้องสู้ตายในยกที่สามแบบเลือดเข้าตา สุดท้ายเขาทำได้
แต่แผลที่คิ้วของเขาคือจุดอ่อนที่คู่ชกในรอบต่อไปหมายตาเอาไว้
อเล็กซานเดอร์ เตเชนโก จากสหภาพโซเวียตคือเหยื่อของพเยาว์ในรอบ 16 คน
ในรอบ 8 คนสุดท้าย กีออรี เกโด เจ้าของเหรียญทองเมื่อ 4 ปีที่แล้วคือด่านอันตราย ถ้าพเยาว์ชนะได้จะกลายเป็นไฟต์หยุดโลกในรุ่นนี้ทันที ซึ่งเขาชนะไปได้ไม่ยาก แม้แชมป์เก่าจะพยายามต่อยที่แผลเพื่อเปิดปากแผลเรียกให้กรรมการจับแพ้ก็ตาม
พเยาว์หอบสังขารที่พร้อมถูกจับแพ้ทุกเมื่อเข้าถึงรอบ 4 คนจนได้ คนไทยทุกคนมองข้ามไปที่เหรียญทองแล้ว
ลี บยอง กุก แห่งเกาหลีเหนือคือด่านที่ไม่น่ามีปัญหา แต่นักชกรายนี้กลับใช้แผนต่อยให้แผลแหกแล้วแหวกให้เลือดเปรอะ ด้วยการใช้หมัดแยปจิ้มไปที่แผลของพเยาว์ตั้งแต่วินาทีแรก จนแผลที่ยังสดของพเยาว์ปริออก แต่คราวนี้แผลใหญ่เกินไปจนกรรมการยุติการชกตามกฎ
พเยาว์จึงจบเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์บนสังเวียนสมัครเล่นเอาไว้เพียงเท่านี้ แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาคือวีรบุรุษของประเทศ
กำพล วัชรพล เจ้าของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้ส่งรถเปิดประทุนยี่ห้อเชฟโรเลตรุ่นอิมพาลาคันดังไปต้อนรับถึงปากประตูท่าอากาศยานดอนเมือง
ซึ่งเป็นรถคันที่เคยใช้ไปต้อนรับยามคนดังต่างชาติมาเยือน รวมทั้งเคยได้ให้ อาภัสรา หงสกุล คนสวยระดับจักรวาลได้นั่งโบกมือทักทายประชาชน
แต่วีรบุรุษคนแรกกลับโชคร้ายที่ดังในช่วงยุควุ่นวายของประเทศ (2516) เขาจึงมีเพียงเงินรางวัลเล็กๆ , เหรียญทองแดง และ คำชม ที่เรียกว่ากล่องเป็นรางวัลปลอบใจ
ซึ่งต่างไปจากวีรบุรุษรุ่นน้อง รุ่นลูก ยันรุ่นหลาน ที่ได้รับทั้งกล่องทั้งเงินจนชีวิตสุขสบาย
แม้ว่า ทวี อัมพรมหา วีรบุรุษคนที่สองจะเคยออกมารำพึงด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจว่า เขาอิจฉาของสมนาคุณที่คนรุ่นใหม่ได้รับมากๆ เพราะแค่เหรียญรางวัลระดับเอเชียนเกมส์ยังสร้างคนให้เป็นเศรษฐีได้ภายในชั่วเวลาข้ามคืน
วงเล็บว่าถ้านิสัยดี มีคาแรกเตอร์ และ บริหารเงินเป็น
น้องเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาววัย 23 ปี ที่คว้าเหรียญทองเทควันโดรุ่น 49 กิโลกรัม คือตัวอย่างของความโชคดีในการจับติ้ว ก็คงจะเป็นหนึ่งในเศรษฐีใหม่ที่น่าจะได้รับการอัดฉีดจากภาครัฐ และเอกชนรวมกันในระดับเลขแปดหลัก
ปี 2564 โอลิมปิก 2020 น้องเทนนิสได้เหรียญทอง และกำลังจะได้รับเงินอัดฉีด เธอประกาศขอกินของอร่อยทุกอย่างที่ขวางหน้า เพื่อให้สมกับที่ต้องคุมน้ำหนักไม่ให้เกิน 49 กิโลกรัมมานาน
อนาคตของเธอยังมีโอลิมปิก 2024 ให้ไปป้องกันเหรียญทองที่ปารีสเกมส์ รวมทั้งยังรอสร้างตำนาน 3 เหรียญจากโอลิมปิก 3 สมัยให้ได้ดีใจกันต่อ ซึ่งคงจะเป็นในรุ่นเดิมที่น้ำหนัก 49 กิโลกรัม
แต่สำหรับคุณน้าจ้อนผู้จากไป ที่เขาเดินทางจากบ้านเกิดเมืองนอนมาฝึกชกมวยที่พัทยา และหาเลี้ยงปากท้องในช่วงไม่มีการชกด้วยการขายพวงมาลัย
คุณน้าจ้อนเคยได้เหรียญทองแดงด้วยน้ำหนัก 48 กิโลกรัมเมื่อปี 1976 แล้วยังเคยมีความหวังจะไปสืบสานเหรียญทองในโอลิมปิกปี 1980 ที่รัฐบาลประกาศบอยคอตตามสหรัฐอเมริกาลูกพี่ใหญ่
พเยาว์ พูนธรัตน์ จึงพลาดการแก้มือ จนต้องหันเหชีวิตมาสู่มวยสากลอาชีพในปี 1981 แล้วได้เป็นแชมเปี้ยนโลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท สถาบัน WBC ในปี 1983
จนสร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำสำหรับใช้ในการดำเนินชีวิตหลังจากนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาควรจะได้รับเมื่อมองจากความสำเร็จที่ต้องทุ่มเททั้งหมดของชีวิตนักมวยหนึ่งคนพึงจะได้รับ
ความเป็นวีรบุรุษสร้างได้ด้วยสองมือ สองเท้า และหนึ่งดวงใจ
คลื่นลูกเก่าจากไปด้วยการถูกคลื่นลูกใหม่โหมซัดเข้ามา แต่ความทรงจำของคนแต่ละรุ่นจะจดจำพวกเขาได้เสมอ
วาสนาของคนเราบางครั้งมาในรูปแบบกิโลกรัม จำนวนการแข่งขัน และ ช่วงเวลา น้องเทนนิสที่น้ำหนักมากกว่าเพียง 1 กิโลกรัม และ ชนะมากกว่าเพียง 2 แมตช์ แต่ต่างช่วงเวลากันนาน 45 ปี เงิน ทอง และ โอกาสก็เลยแตกต่างกัน
แต่สำหรับผู้เขียน วีรบุรุษ - วีรสตรีของพวกเราทุกเหรียญรางวัลคือ My hero
#PlayNowThailand #khelnow #เทนนิส #Olympic
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
