Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
TCM for life สุขภาพดีไปกับแพทย์จีน
•
ติดตาม
26 ก.ค. 2021 เวลา 00:30 • สุขภาพ
ขิง ยาดีสำหรับมนุษย์ห้องแอร์ EP.1
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เข้าหน้าฝน ฝนตกพรำๆ ทำให้มีความชื้นในอากาศมาก ทำให้หลายๆคนหรือรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว รู้สึกตัวหนักและไม่สบายตัว โดยเฉพาะคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน อาจจะป่วยและเป็นหวัดได้ง่าย
ในช่วงสถาณการณ์โควิด-19 ระบาด การมีไข้ ไอ มีน้ำมูกมักทำให้หลายๆคนนึกกังวลว่าตัวเองจะเป็นโควิด-19 รึป่าว
วันนี้TCM for life จึงอยากมาแนะนำอาหารที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานและป้องกันโรค รวมถึงวิธีการกินให้เข้ากับช่วงเวลาและตัวบุคคลค่ะ
เพราะอาหารคือยา ตอน…ขิง…ยาดีสำหรับมนุษย์ห้องแอร์
ในที่นี้จะขอพูดถึงขิงสดที่หาได้ตามท้องตลาดกันก่อนนะคะ
ขิง มีรส เผ็ด อุ่นเล็กน้อย เข้าเส้นลมปราณ ปอด ม้าม และกระเพาะอาหาร มีสรรพคุณ ขับลมเย็น อบอุ่นม้ามและกะเพราะอาหาร แก้ไอ ขับเสมหะ และแก้พิษอาหารทะเล ในแพทย์จีนจึงใช้ขิงในการรักษาอาการหวัดจากลมเย็น อาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียอันสาเหตุมาจากม้ามและกะเพราะอาหารเย็น อาการไอมีเสมหะ ไอเรื้อรัง อาการปวดประจำเดือน และแก้พิษอาหารทะเล ซึ่งอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆดังนี้
1. รักษาอาการหวัดจากลมเย็น
-ขิง มีรส เผ็ด ฤทธิ์อุ่นเล็กน้อย มีคุณสมบัติ กระจาย จึงช่วยขับลมหนาวและขับเหงื่อ แต่ประสิทธิภาพไม่แรงเท่าไหร่ จึงนิยมใช้ในการป้องกันหวัด และอาการหวัดจากลมเย็นในเบื้องต้น
>>---วิธีทาน นำขิงหันเป็นแว่น 3-5แว่น ปอกเปลือกออก นำมาต้มเป็นชา หรือต้มกับต้นหอม โดยไม่ควรต้มนานเพราะจะทำให้คุณสมบัติในการขับลมเย็นและขับเหงื่อหมดไป หลังต้มน้ำเดือดแล้วจึงใส่ขิงสดแล้วปิดฝาต้มต่อแค่3-5 นาทีแล้วยกออก
2. รักษาอาการอันมีสาเหตุจากม้ามและกระเพาะอาหารเย็น
ด้วยฤทธิ์เผ็ด อุ่นน้อยของขิง จึงมีคุณสมบัติให้ความอบอุ่นจงเจียว(ม้ามและกระเพาะอาหาร) ม้ามและกระเพาะอาหารเป็นหัวใจสำคัญในระบบย่อยอาหารของเรา โดยจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาวะอุ่นและไร้ความชื้น ถ้ามีความเย็นหรือชื้นเกิดขึ้น มักเกิดอาการรู้สึกเย็นและปวดบริเวณท้อง บรรเทาลงเมื่อดื่มน้ำอุ่นหรือประคบอุ่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสียเมื่อทานอาหารเย็น ซึ่งขิงมีคุณสมบัติในการรักษาอาการเหล่านี้และช่วยฟื้นฟูระบบย่อยอาหาร
>>--- วิธีทาน นำขิงมาปอกเปลือก ต้มเป็นชา ปรุงอาหาร หรือของหวาน เช่นไก่ผัดขิง เต้าฮวยน้ำขิง บัวลอยน้ำขิง เป็นต้น
3. อาการขึ้นไส้อาเจียนจากกระเพาะเย็น
ขิงถูกยกให้เป็น “ยาวิเศษแก้อาเจียน” อีกตัวนึง โดยแก้คลื่นไส้อาเจียนอันเกิดจากกระเพาะเย็น ทำให้ชี่ของกระเพาะตีขึ้น โดยสมัยก่อนนิยมใช้เป็นยาฉุกเฉินในการรักษาอาการอาเจียนรุนแรง และอาเจียนจนทานอาหารไม่ได้
>>--- วิธีทาน ใช้ขิงสดคั้นน้ำขิงให้ผู้ป่วยดื่ม และหั่นขิงเป็นแผ่นอมไว้ในปากแก้อาการคลื่นไส้และวิงเวียนศรีษะ
4. อาการไอกันที่มีสาเหตุจากเสมหะ และอาการไอเรื้อรัง
การไอไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องเลวร้าย แต่เป็นอีกกลไกที่ร่างกายใช้ในการขับของเสียเช่นเสมหะ
ด้วยขิงมีมีคุณสมบัติ เผ็ด อุ่นน้อย เข้าเส้นสมปราณปอด จึงช่วยขับเสมหะ และบรรเทาอาการไอ ใช้แก้ไอ และขับเสมหะได้ดีในกลุ่มอาการไอจากลมเย็นหรือเสมหะเย็น และในกลุ่มที่ไอจากความเย็นภายในปอด เช่นอาการไอเรื้อรังในผู้สูงอายุที่มีเสมหะ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ในผู้ป่วยไอแห้ง
>>--- วิธีทาน ต้มเป็นชาจิบระหว่างวัน ควรดื่มระหว่างยังอุ่นอยู่
5. บรรเทาอาการปวดประจำเดือน อันมีสาเหตุมาจากความเย็น
ในสตรีปวดประจำเดือนอันมีสาเหตุมาจากความเย็น สังเกตได้จาก มีอาการรู้สึกเย็นบริเวณท้องน้อย รู้สึกดีขึ้นเมื่อทานของอุ่นหรือประคบอุ่น ประจำเดือนสีเข้ม มีลิ่มเลือดจำนวนมาก หรือประจำเดือนมีปริมาณน้อย เหล่านี้มีสาเหตุมาจากมีพิษเย็นในมดลูก ในกลุ่มอาการนี้ นิยมต้มน้ำขิงใส่น้ำตาลอ้อย เนื่องจากมีสรรพคุณช่วยบำรุงเลือดและขับความเย็น และช่วยป้องกันไข้ทับระดูได้ นอกจากนี้น้ำตาลอ้อยมีสรรพคุณบำรุงเลือด และความหวานในน้ำตาลอ้อยยังช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ด้วย
>>---วิธีทาน ใช้ขิงแก่หรือขิงแห้ง ปอกเปลือกออก ใส่ทุกอย่างลงไปในหม้อ ใช้ไฟแรงต้มจนน้ำเดือด จากนั้นใช้ไฟอ่อนต้มต่อ 20-30นาที อัตราส่วนที่นิยมใช้คือ ขิงแก่ 30 กรัม(3-5แว่น): น้ำตาลอ้อย 50กรัม : น้ำเปล่า1000 กรัม ซึ่งรสชาติจำหวานและเข้มข้นนิดนึง สามารถเติมน้ำเพิ่มได้ถ้ารู้สึกว่าหวานเกินไป
6. แก้พิษจากอาหารทะเล
ขิงมีคุณสมบัติแก้พิษเย็นของอาหารทะเลในผู้ป่วยที่ภาวะอาหารเป็นพิษ คลื่นไส้ อาเจียน และถ่ายท้อง เราจึงมักเห็นคนจีนใช้ขิงในการปรุงอาหารทะเล เช่นเมนูปลาผัดขิง หรือการทานปูกับน้ำจิ้มที่มีขิงสับ หรือการดื่มน้ำขิงหลังทานปู ซึ่งในประเทศไทยไม่นิยมนัก เพราะเราจะใช้วิธีอื่นเช่นการใส่เครื่องเทศ หรือทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ดแทน
>>เปลือกขิงควรปอกออกมั้ย????
ถึงแม้ว่าขิงจะมีรสเผ็ด และอุ่นน้อย แต่เปลือกของนั้นมีรสเผ็ด ฤทธิ์เย็น มีคุณสมบัติ ปรับสมดุลม้าม ขับปัสสาวะและลดอาการบวมน้ำได้ ในผู้ที่มีภาวะบวมน้ำอันเกิดจากม้ามพร่อง สามารถต้มน้ำขิงโดยไม่ต้องปอกเปลือก ดังนั้นถ้าใช้ในกลุ่มอาการเย็น เช่นในการรักษาอาการหวัดก็แนะนำให้ปอกเปลือกออกเพราะเปลือกขิงมีฤทธิ์เย็น และต้านการขับเหงื่อ
ถึงแม้ขิงจะมีสรรพคุณเยอะและดีมาก แต่การทานขิงนั้นก็ไม่ควรทานเยอะ และเลือกเวลาทานให้ถูกต้อง
บทนี้เนื้อหาค่อนข้างเยอะและหนักสำหรับผู้อ่านนิดนึง ในบทหน้าเราก็จะมาพูดถึงเรื่องการป้องกันและรักษาสุขภาพด้วยขิงกันต่อ ด้วยเวลาที่เหมาะสมในการทานขิง ปริมาณที่เหมาะสม และเรื่องเล่าของนักปราชญ์จีนขงจื้อในการทานขิงเพื่อส่งเสริมสุขภาพ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
ท้ายที่สุด การป้องกันโรคโควิด-19 ที่ได้ผลอย่ายั่งยืนก็ยังคงหนีไม่พ้น “4อ” อารมณ์ อากาศ อาหาร และออกกำลังกาย
และอย่าลืม กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และใส่แมสกันนะคะ
ด้วยความปรารถนาดีจาก TCM for life สุขภาพดีไปกับแพทย์จีน
โดย: พจ. วชิราภรณ์ ผดุงเกียรติวงษ์
บทความเกี่ยวข้อง #ทำไมความชื้นถึงทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย