26 ก.ค. 2021 เวลา 04:29 • การศึกษา
รู้อนาคตตัวเองได้ไม่ยากเลย
มาดูกันว่าเราจะเริ่มกำหนดชะตากรรมของเราอย่างไร ซึ่งต้องบอกก่อนนะครับว่าแม่น 100% เพียงแต่ระยะเวลาของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางครั้งก็ได้รับผลลัพธ์ตั้งแต่อายุน้อยๆ บางคนก็เคยได้แล้วก็หลุดไปต้องกับมาเริ่มต้นใหม่ (อันนี้ของตัวเองเลย) แต่ไม่เคยมีใครไม่ได้ผลลัพธ์ของการปรับปรุงวิธีคิดใหม่เลย
พื้นฐานวิธีคิดหลักๆของ “ยุคใหม่ฯ” มาจากหนังสือ 2 เล่มหลัก นั่นคือ 7 อุปนิสัย สำหรับผู้ทรงประสิทธิผลยิ่ง The 7 Habits of Highly Effective People - Stephen R. Covey (ดร. สตีเฟน อาร์. โควี) ซึ่งท่านเสียชีวิตไปแล้ว เป็นเล่มที่เปลี่ยนประเทศเกาหลีใต้ทั้งประเทศกลายเป็นประเทศที่มั่งคั่ง อีกเล่มก็คือ “ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน Secrets Of the Millionaire Mind” ของ T. Harv Eker (ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่)
ทั้ง 2 เล่มเปลี่ยนแปลงวิธีคิดของ “ยุคใหม่ฯ” ไปตลอดกาล การมองคนมองโลกเปลี่ยนไป จากที่เป็นคนใจร้อนตอนนี้ก็ใจร้อน แต่กลายเป็นคนที่แสดงอารมณ์น้อยลง (แต่ยังไม่หมดไปนะครับ) รับฟังอีกฝ่ายมากขึ้นเข้าใจเขามากขึ้น ซึ่งจะขอสรุปแบบสั้นๆเท่าที่จะสั้นได้แต่ยังคงอยู่ในแกนดังนี้
เริ่มต้นจากการเป็น Proactive เป็นคนที่มีสติทันต่อความคิดและมองไกลมองกว้าง มีสติในการเลือกตอบสนองสิ่งที่ดีที่สุดต่อตนเองและผู้อื่น ที่สำคัญคือพร้อมที่จะรับผิดชอบผลจากการตัดสินใจนั้นด้วย ซึ่งไม่ได้หมายถึงคนที่ปล่อยพลังออกมาอย่างล้นเหลือ แต่เป็นคนที่ไม่ให้สถานการณ์มากำหนดตัวเราได้ สามารถสร้างบรรยากาศของตัวเองได้
ที่มา: 7 อุปนิสัยเพื่อพัฒนาตนเองไปสู่ความสำเร็จ - มูลนิธิยุวพัฒน์
เริ่มต้นที่จุดหมายในใจซึ่งต้องไม่ใช่จุดหมายนอกใจนะ (อันนี้เสริมเอาฮา) นั่นหมายถึงว่า ต้องเป็นคนที่มองไปที่ผลลัพธ์ก่อนเสมอ ต้องตั้งเป้าก่อนที่จะโก่งคันธนู ไม่ใช่ทำอะไรแบบไร้เป้าหมาย
2
เรื่องนี้คืออีกเรื่องที่สำคัญที่สามารถกำหนดผลลัพธ์ในชีวิตได้อย่างชัดเจน และสร้างประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี นั่นคือเรื่อง “ทำสิ่งที่สำคัญก่อน” ที่ประกอบไปด้วย สำคัญ/เร่งด่วน สำคัญ/ไม่เร่งด่วน ไม่สำคัญ/เร่งด่วน และไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน
1
การใช้ชีวิตของคนส่วนมากจะอยู่ในพื้นที่สำคัญ/เร่งด่วน และไม่เร่งด่วน/ไม่สำคัญ รองลงมาคือพื้นที่ เร่งด่วน/ไม่สำคัญ นั่นหมายถึงว่าจะต้องทำงานแบบไฟลนก้นอยู่ตลอด แต่พื้นที่ ๆต้องทำก่อนและสำคัญที่สุดคือ สำคัญ/ไม่เร่งด่วน อย่างเช่นอ่านหนังสือ ลงเรียนเพิ่มความรู้ ออกกำลังกาย แต่เราก็ไม่สามารถเพิ่มพื้นที่นี้ได้หากต้องทำเรื่องสำคัญเร่งด่วน อย่างเช่น ต้องไปจ่ายค่าไฟวันนี้เดี๋ยวจะโดนตัด หรือต้องไปหาเตียงรักษาโควิด ซึ่งเราสามารถเตรียมการลดความเสี่ยงเรื่องนี้ได้ก่อนที่จะเกิดขึ้น
ที่มา  Never Surrender - ผู้หญิงไม่ยอมแพ้ เปลี่ยนชีวิตวุ่นๆ ก่อนร่างพัง! เทคนิคพิชิต ชีวิตดีดี
เราจะลดพื้นที่สำคัญ/เร่งด่วน และเพิ่มพื้นที่สำคัญ/ไม่เร่งด่วน ได้ก็ต่อเมื่อเราลดพื้นที่ ไม่สำคัญ/เร่งด่วน และ ไม่สำคัญ/ไม่เร่งด่วน เช่น รีบรับโทรศัพท์ รีบตอบไลน์ ทั้งที่กำลังคุยธุระอยู่ หรือไปตอบเฟซบุ๊ค ตอบแชทต่างๆ ดู Tiktok เป็นต้น แล้วเราก็จะลดพื้นที่วิกฤติ คือพื้นที่สำคัญ/เร่งด่วนลงได้ แล้วเราก็จะสามารถเพิ่มพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้คือสำคัญ/ไม่เร่งด่วน
เรื่องนี้คือสิ่งที่สำคัญมากๆนั่นก็คือการตัดสินแบบชนะ/ชนะ ซึ่งพื้นที่นี้ประกอบไปด้วยวิธีคิดแบบ ชนะ/ชนะ, ชนะ/แพ้, แพ้/ชนะ และ แพ้/แพ้ ซึ่งพื้นที่ๆไม่ใช่ ชนะ/ชนะ สุดท้ายก็จะกลายเป็นแพ้/แพ้เสมอ วิธีคิดแบบชนะ/ชนะ เป็นวิธีที่จัดการง่ายที่สุด คือทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน แต่จะไม่สามารถคิดแบบนี้ได้ถ้ายังไม่สามารถผ่าน เรื่องของ Proactive เริ่มต้นที่จุดหมายในใจ และทำสิ่งที่สำคัญก่อน
1
ที่มา: https://www.slideshare.net/amthow/7-habits-19-52554
เรื่องต่อมาก็คือเข้าใจผู้อื่นก่อนให้เขาเข้าใจเรา นั่นคือเราต้องรับฟังผู้อื่นอย่างไม่ตัดสิน ไม่ว่าในยุคสมัยไหนก็จะมีเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ คนส่วนมากมักอยากให้คนอื่นเข้าใจตนเอง เราจึงเห็นความเห็นที่ต่างคนต่างบอกว่าตัวเองถูกฝ่าตรงข้ามผิด แท้ที่จริงแล้วไม่มีใครถูกและผิดทั้งหมด หากเรารับฟังผู้อื่นก่อนแล้วลดการตัดสินปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างในปัจจุบัน
หลังจากที่ผ่าน 5 อุปนิสัยได้แล้วได้แล้ว เราจะสามารถทำการผนึกพลังผสานความต่าง สร้างความร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์ ยอมรับในคุณค่าของตนเองและคุณค่าของผู้อื่น สำคัญมากคือตัวเราต้องเปิดใจ เพราะทุกคนมีความแตกต่างกัน
สุดท้ายคือลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ นั่นคือการฝึกฝนให้มีความพร้อมอยู่เสมอ พัฒนาตัวเองในเรื่องของความคิด
อารมณ์ สุขภาพและสังคม การลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากอุปนิสัยทั้ง 7 แล้ว เรื่องเราจะต้องทำก็คือค่าเฉลี่ยของคนที่เราคุยด้วย ซึ่งอาจจะเป็นคนหรือไม่ก็ได้ อย่างเช่นสื่อที่เราเสพ หนังสือหรือเกมส์ที่เราเล่น เป็นต้น แม้เราจะทำอุปนิสัยทั้ง 7 แต่สิ่งแวดล้อมเป็น Reactive หรือคิดลบ ยังไงก็ดึงเราไปสู่สิ่งแวดล้อมนั้นในที่สุด
Dan Peña on Twitter: ""Show me your friends and I will show you your future." - Dan Peña @tedxyouth024… "
Show me your friends; I'll show you your future. เป็นวลีอมตะ ที่หมายถึงบอกผมมาว่าเพื่อนคุณคือใครบ้างแล้วผมจะบอกว่าอนาคตคุณจะเป็นอย่างไร
สุดท้ายแล้วหากคุณพบว่าคนหมดแรงไร้แรงบันดาลใจ ให้คุณหันกลับมาดูสิว่าสิ่งที่คุณทำ ทำเพื่อตัวเองหรือทำเพื่อผู้อื่น เพราะหากทำเพื่อตัวเองคุณอาจจะหมดแรงได้ หากคุณทำเพื่อผู้อื่นคุณจะพบว่าคุณจะไม่หมดพลังเลย เรื่องนี้ยืนยันด้วยตัวเองที่มองว่าเขียนอย่างไรให้ได้ดาว แล้วเปลี่ยนมาเป็นเขียนอย่างไรให้คนอื่นได้ประโยชน์มากที่สุด ผลลัพธ์คือไม่มีวันไหนเลยที่ไม่อยากลงบทความ
หากทำเรื่องเหล่านี้ได้ไม่ยากเลยที่เราจะกำหนดอนาคตตัวเองได้
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernizationmarketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
ท่านที่สนใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ ที่สามารถขายแฟรนไชส์และมีรายได้จากการขยาย
สามารถสร้างรายได้ทั้งรายวันและรายสัปดาห์และรายเดือนได้
ติดต่อได้ที่
โฆษณา