26 ก.ค. 2021 เวลา 09:08 • ประวัติศาสตร์
ยุทธการโคตรแปลก 'The Battle For Castle Itter' เมื่อทหารสหรัฐจับมือทหารเยอรมันรบกับนาซี!!
3
ยุทธการยึดปราสาทอิทเทอร์ (The Battle For Castle Itter) คือยุทธการที่แปลกประหลาดที่สุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อฝ่ายสัมพันธมิตรที่นำโดยกองทัพสหรัฐฯ ได้ร่วมมือกับกองทัพแวร์มัคของเยอรมนี ที่เป็นศัตรูตัวฉกาจในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ทั้งสองฝ่ายถือเป็นคู่อริกันโดยตรง
ต้องบอกก่อนนะครับว่าปราสาทอิทเทอร์เนี่ย เป็นปราสาทขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนเนินเขาในหมู่บ้านอิทเทอร์ ของประเทศออสเตรีย รัฐบาลเยอรมันเป็นผู้เช่าปราสาทแห่งนี้ ต่อมาก็โดนพวก SS ยึด ตามคำสั่งของ ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์ มือขวาคนสนิทของท่านผู้นำฮิตเลอร์ ที่ต่อมาได้ดัดแปลงปราสาทแห่งนี้เป็นคุกเอาไว้จองจำนักโทษที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสมากมาย
1
ยุทธการแปลกครั้งนี้ เริ่มต้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ.1945 กองทัพสหรัฐฯ ที่นำโดย ร้อยเอก จอห์น ซี. ลี แห่งกรมทหารราบที่ 21 (XXI Corps) ได้ร่วมมือกับกลุ่มทหารเยอรมนีที่แปรพักตร์ นำโดย พันเอก โจเซฟ กันเกอร์ นายทหารชั้นสัญญาบัตรแห่งกองทัพบกเยอรมนี (Wehrmacht) และผู้นำกลุ่มต่อต้านใต้ดินชาวออสเตรีย
2
ร้อยเอก จอห์น ซี. ลี แห่งกรมทหารราบที่ 21 (XXI Corps) กองทัพสหรัฐฯ
สาเหตุที่ผู้พันกันเกอร์และพรรคพวกตัดสินใจแปรพักตร์เพราะผู้นำของพวกเขาอย่าง อดอลฟ์ ฮิตเลอร์ ได้ปลิดชีวิตตัวเอง ณ บังเกอร์ในกรุงเบอร์ลินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพวกเขามองว่าไม่มีเหตุผลที่จะต่อต้านกองทัพสหรัฐฯ อีกต่อไป จึงตัดสินใจมาช่วยนักโทษที่ปราสาทอิทเทอร์ เพื่อหวังจะเอาตัวรอดจากคดี
อาชญากรสงคราม โดยภายในปราสาทแห่งนี้ มีนักโทษทางการเมืองชาวฝรั่งเศสคนสำคัญ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น พอล เรย์โนลด์ อดีตนายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศส แม็คซีม เวย์แกนด์ เสนาธิการทหารฝรั่งเศส ฌอง โบโรทรา นักเทนนิสชื่อดังดีกรีแชมป์เปี้ยนชาวฝรั่งเศส มารี แอคเนส ไคลู พี่สาวของ ชาร์ล เดอ โกลล์ ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส แล้วก็ยังมีสมาชิกกลุ่มต่อต้านชาวฝรั่งเศสที่ทำการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านการยึดครองของกองทัพนาซีเยอรมันอีกหลายคนถูกจับกุมตัวอยู่ที่ปราสาทอิทเทอร์อีกหลายคน ซึ่งพอเห็นรายชื่อนักโทษบางสวนที่ถูกจำคุกอยู่ที่นี่แล้ว ก็ต้องบอกว่าเป็นนักโทษระดับวีไอพีทั้งนั้นครับ
1
ฌอง โบโรทรา นักเทนนิสชื่อดังดีกรีแชมป์เปี้ยนชาวฝรั่งเศส
ด้วยความร่วมมือของทหารสหรัฐฯ และทหารแวร์มัคของเยอรมนี ได้บุกเข้าไปในปราสาทอิทเทอร์และช่วยเหลือนักโทษชาวฝรั่งเศสที่ถูกจองจำในปราสาทแห่งนี้ได้เป็นผลสำเร็จ ทว่าต่อมาไม่นาน กองทัพนาซีที่ยังจงรักภักดีในตัวท่านผู้นำ ได้บุกเข้ามาโจมตีปราสาทอิทเทอร์แห่งนี้เป็นการล้างแค้น พอสถานการณ์เป็นแบบนี้ เหล่าบรรดานักโทษชาวฝรั่งเศสก็เลยต้องหยิบอาวุธขึ้นมาสู้เคียงบ่าเคียงไหลทหารสหรัฐฯ และทหารแวร์มัคของเยอรมนีเพื่อเอาตัวรอดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ต้องบอกก่อนว่าทหารสหรัฐฯ ทหารแวร์มัค และนักโทษชาวฝรั่งเศสมีจำนวนรวมกันเพียงแค่ 36 คน ในขณะที่ฝ่ายนาซีเยอรมันที่ยังภักดีต่อท่านผู้นำมีจำนวนราว 150 – 200 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่แตกต่างกันมาก แถมฝ่ายนาซียังมีอาวุธหนักอย่าง Flak Gun ถึงสี่กระบอก เพื่อถล่มปราสาทอิทเทอร์ที่มั่นของฝ่ายสัมพันธมิตรให้ราบเป็นหน้ากลองด้วย
พันเอก โจเซฟ กันเกอร์ แห่งกองทัพแวร์มัค (ทหารบกเยอรมนี) ผู้แปรพักตร์
แต่ก็ต้องบอกว่าฝ่ายสัมพันธมิตรยังโชคดี เพราะพวกเขามีรถถัง Sherman มาช่วยสนับสนุนถึง 4 คัน เพราะไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะเสียเปรียบอย่างหนักแน่ สุดท้ายทหารนาซีที่ยังภักดีในตัวท่านผู้นำก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ผู้กอง จอหน์ ซี. ลี ได้รับเหรียญสดุดี Distinguished Service Cross จากภารกิจช่วยเหลือตัวประกันในครั้งนี้ แต่พันเอก โจเซฟ กันเกอร์ ผู้นำทหารแวร์มัคเยอรมนีเสียชีวิตจากการถูกลอบยิงระหว่างทำการอารักขา พอล เรย์โนลด์ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งฝรั่งเศส ส่วนผู้พันกันเกอร์ ก็ได้รับการเชิดชูเกียรติจากกลุ่มปลดแอกชาวออสเตรีย ที่ได้ยกย่องให้เขาเป็นวีรบุรุษในเวลาต่อมา ซึ่งผู้พันกันเกอร์คนนี้ เป็นผู้เสียชีวิตเพียงคนเดียวของฝ่ายสัมพันธมิตรที่เสียชีวิตในครั้งนี้ ส่วนผู้บาดเจ็บมี 4 คน และรถถังถูกทำลายไปหนึ่งคัน ส่วนฝ่ายนาซีเยอรมันเสียหายนัก ไม่ทราบจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บแน่ชัด แต่ถูกจับเป็นเชลยราว 100 คน
1
ยุทธการครั้งนี้เป็นยุทธการที่แปลกประหลาดที่สุดในช่วงสงครามโลกเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นการร่วมมือกันระหว่างทหารสหรัฐฯ ทหารแวร์มัคของเยอรมนี และนักโทษฝรั่งเศส ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ทั้งสามฝ่ายร่วมมือกัน
ข้อมูลจาก : WIKIPEDIA
โฆษณา