🔵 การเติบโตของ DeFi 📈
.
หนึ่งในความเคลื่อนไหวที่สำคัญในอุตสาหกรรม Digital Asset ก็คือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ DeFi ที่ได้ดึงดูดนักลงทุนมากมายและมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นถึง 2,100% จากปี 2020 อีกทั้งยังมีการเติบโตของ Total Value Locked (TVL) จาก 2.52 พันล้านดอลลาร์ ขึ้นมาที่ 101.6 พันล้านดอลลาร์ ภายใน 1 ปี จากวันที่ 23 กรกฎาคม 2020 เพราะเมื่อ Cryptocurency ได้รับการยอมรับมากขึ้นในหลายอุตสาหกรรม การเติบโตของแพลตฟอร์ม DeFi ไม่ว่าจะเป็น AAVE, CURVE, และ COMPOUND ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของ DeFi ในปีนี้ และอนาคตของ DeFi จะมุ่งไปในทิศทางไหน
1. Cross-chain technology
ปัจจัยอย่างแรกที่สนับสนุนการเติบโตของ DeFi ก็คือเทคโนโลยี cross-chain ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่างบล็อกเชนต่างๆ ผ่านการดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูล ธุรกรรม และการโต้ตอบได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถช่วยลดค่าธรรมเนียมน้ำมันสำหรับผู้ใช้อีกด้วย
.
2. Crypto Launchpad
Crypto launchpad หรือที่เรียกกันว่า IEO (Initial Exchange Offering) เป็นวิธีการระดมทุนสำหรับโครงการ DeFi ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการขายโทเค็นได้ก่อนใคร อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีความปลอดภัยและสามารถสร้าง passive income ผ่านการเข้าถึงโทเค็นใหม่ได้ทันที
.
3. Staking Opportunities
ความนิยมในการ Staking เป็นปัจจัยสำคัญของการเติบโตของ DeFi ในช่วงปี 2020-2021 จากการที่มีสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับ staking เพิ่มขึ้น ทำให้อุปสงค์ของการ staking และผู้ใช้งาน DeFi เพิ่มขึ้นไปด้วย อีกทั้งยังมีการคาดการณ์ว่าในปี 2021 DeFi blockchains จำนวนมากจะนำการ staking มาใช้ในระดับต่างๆ
.
4. Automated Market Maker (AMM)
AMM เป็นการแลกเปลี่ยน cryptocurrency แบบกระจายศูนย์ที่เป็นตัวกระตุ้นการเติบโตของ DeFi เพราะสามารถช่วยสร้างสภาพคล่องให้แก่ตลาดการซื้อขายที่ไร้ตัวกลาง (DEX) โดยผู้ใช้งานสามารถนำเหรียญที่มูลค่าเท่ากันเป็นคู่เทรดไปใส่ใน Pool และคนที่มาเพิ่มสภาพคล่องจะได้รับค่าธรรมเนียมที่เกิดจากการเทรดในคู่เหรียญนั้นไปเลย ตัวอย่างของแพลทฟอร์มแบบ AMM ที่เป็นที่นิยมได้แก่ Uniswap, Balancer, และ Curve
.
5. Stablecoins และ non-fungible tokens (NFTs)
การได้รับความนิยมของ stablecoins และ non-fungible tokens (NFTs) เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของ DeFi เพราะด้วยความผันผวนของ Cryptocurrency ทำให้นักลงทุนหันมาใช้ stablecoin เพื่อบริหารความเสี่ยงในการ Yield Farming นอกจากนี้ non-fungible tokens (NFTs) ก็เป็นที่นิยมมากขึ้นจากการที่เหรียญเหล่านี้ทำให้ผู้คนได้เป็นเจ้าของศิลปะดิจิทัล ของสะสม ไอเท็มในเกม และที่ดินออนไลน์ ทำให้ผู้คนอาจนำ NFT tokens เหล่านี้มาใช้ใน DeFi มากขึ้น อย่างเช่นการนำมาเป็นหลักประกันเงินกู้
.
6. Layer 2 solutions
Layer 2 สามารถช่วยแก้ปัญหาที่ขัดขวางการเติบโตของ DeFi อย่างเช่นเรื่องค่าธรรมเนียมที่สูงและความแออัดของเครือข่าย ผ่านการส่งข้อมูลที่มีอยู่ไปยังช่องทางการประมวลผลหลายช่องทาง ทำให้สามารถประมวลผลธุรกรรมและจัดส่งได้เร็วขึ้น รวมถึงช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม
ถึงแม้ DeFi จะมีโอกาสการเติบโตมากมาย แต่การที่นำ DeFi มาใช้เป็นเทคโนยี mainstream ยังมีความเสี่ยงอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นในด้านความปลอดภัย ความสามารถในการรองรับการขยายตัว และความเป็นส่วนตัวทางการเงิน อย่างไรก็ตาม DeFi ก็ยังมีฐานผู้ใช้งานจำนวนมากและมีสถาบันทางการเงินและธุรกิจต่างๆได้เริ่มทดลองใช้ DeFi ในการดำเนินการแล้ว เพราะฉะนั้นต้องมาติดตามดูกันว่าในอนาคต DeFi จะสามารถ disrupt เทคโนโลยี mainstream ได้หรือไม่
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
