Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Play Now Thailand
•
ติดตาม
28 ก.ค. 2021 เวลา 02:00 • กีฬา
#โอลิมปิกสัมพันธ์
โดย มิสมาต้า
1
ขีดเส้นใต้เอาไว้ที่ปาฏิหาริย์
ดร.แอนนา คีเซนฮอฟเฟอร์ คือ Ph.D คณิตศาสตร์ และเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยโลซานน์
เธอเป็นเพียงคนที่รักในการขี่จักรยานในระดับคลั่งไคล้เหมือนนักปั่นสมัครเล่นอีกหลายล้านคนเท่านั้นเอง
แต่เธอกลับช็อคคอชาวจักรยานทั้งโลกด้วยการปั่นเข้าเส้นชัยในการแข่งประเภทถนน (Road race) เป็นคนแรกชนิดไม่มีใครคาดคิด
ดร.แอนนา คีเซนฮอฟเฟอร์ ไม่ใช่นักกีฬาอาชีพ และมาแข่งโอลิมปิกที่โตเกียวชนิดข้ามาคนเดียว คือไม่มีโค้ช และไม่มีเพื่อนร่วมทีมเลยแม้แต่คนเดียว
เธอจึงเป็นเช่นม้านอกสายตาของทั้งคนดู และคู่แข่งระดับนานาชาติที่เป็นนักปั่นมืออาชีพ
ระยะทาง 137 กิโลเมตรสำหรับคนที่ไม่ได้แข่งจนเป็นอาชีพจึงถือว่าหินมากๆ เพราะเอาแค่ปั่นเพื่อชนะใจตัวเองเฉกเช่นการวิ่งมาราธอนให้ถึงจุดหมายก็ต้องถือว่าสุดยอดแล้ว
เพราะการจะปั่นระยะทางระดับนี้ได้ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะต้องมีสมรรถภาพทางร่างกายที่แข็งแกร่งมากกว่าการปั่นแบบกินลมชมวิวหลายพันเปอร์เซนต์ รวมทั้งจะต้องมีจิตใจที่แกร่งยิ่งกว่าร่างกาย
สำหรับนักปั่นอย่างอาจารย์แอนนา การเอาชนะใจตัวเองว่ายอดเยี่ยมแล้ว การเอาชนะนักกีฬาอาชีพที่มีความพร้อมทั้งกาย และใจ ได้ภายใต้เงื่อนไขแห่งเวลา จึงต้องเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบที่สุด
นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมอาจารย์แอนนาถึงเป็นม้านอกสายตาที่แทบไม่มีใครนำเอาการมีอยู่ของเธอมาใส่ใจ
ผู้ชมทั้งโลกจึงได้เห็น แอนน์มีค ฟาน ฟลูเทน นักปั่นเจ้าของแชมป์โลกปีล่าสุดชูมือแสดงความดีใจเมื่อเข้าเส้นชัยก่อน อลิสา ลองโก โบชินี นักปั่นอิตาเลียนที่ตามมาอยู่ 14 วินาที ซึ่งถือว่าเยอะแล้วสำหรับกีฬาประเภทนี้
สีหน้าของนักปั่นทีมชาติเนเธอร์แลนด์จึงแสดงความดีใจอย่างสุดๆ เมื่อคิดว่าตนเองเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก
ตลอดเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง แอนน์มีค ฟาน ฟลูเทน ไม่เคยเห็นอาจารย์แอนนาอยู่ในสายตา จึงไม่แปลกที่เธอจะเลือกตามเก็บนักปั่นดังๆ ตามแผนที่เธอวางเอาไว้ นี่คือแผนการใช้แรง ออมแรง และ ค่อยๆ เกาะกลุ่มไปเรื่อยๆ ก่อน
เธอจึงไม่ทันได้เห็นว่าในช่วงออกสตาร์ท ดร.แอนนา คีเซนฮอฟเฟอร์ กับนักปั่นจากบางชาติได้ปั่นชนิดซอยแบบลืมตายเพื่อนำพาตัวเองให้ออกนำไปก่อน อันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของนักปั่นทั่วๆ ไป
แต่สำหรับพวกนักปั่นระดับโปร แผนการซ้อมที่วางเอาไว้ กับคู่แข่งมีชื่อเท่านั้นที่ควรจะใส่ใจ
พวกบ้าพลังที่ปั่นออกนำไปก่อนในช่วงแรกค่อยๆ หมดแรงไปทีละคนสองคน จะมีอยู่สามคนที่ไม่ได้หมดพลังยังคงก้มหน้าปั่นต่อไป
แต่ก็ค่อยๆ ออกอาการล้าจนถูกกลุ่มตัวเต็งแชมป์ไล่แซงในช่วงไม่ถึง 40 กิโลเมตรสุดท้าย ซึ่งทุกคนก็คิดว่าตามเก็บได้หมดแล้ว
ตัวเต็งทุกคนจึงยังใช้แผนเดิมๆ ในการปั่น ซึ่งก็คงเป็นแพลนเอ แพลนบี และ แพลนซี แต่ไม่มีใครฉุกใจคิดว่าควรจะต้องมีแพลนเจเอาไว้ในช่วงท้ายๆ ก่อนจะถึงเส้นชัย
ด้วยเพราะในการแข่งขันจะไม่อนุญาตให้ใช้อุปกรณ์สื่อสารใดๆ นักปั่นทุกคนจึงเห็นแค่ระยะโฟกัสด้วยสายตาของตนเองเท่านั้น
จึงไม่มีใครในตัวเทพกลุ่มนี้สังเกตว่าพวกเธอยังตามเก็บไม่หมด
หรือถ้าจะมีคนมาแอบกระซิบว่ามียายบ้าที่ไหนก็ไม่รู้ขี่ผ่านมาทางนี้มาก่อนเกือบ 2 นาที (หรือ นำอยู่เกิน 1 กิโลเมตร) พวกตัวเต็งที่ว่าก็คงจะได้แค่สงสัยว่าพวกปั่นขั้นเทพก็ยังเกาะในกลุ่มมากันครบนี่นา คนที่บอกมันต้องอำแน่ๆ
สุดท้าย อาจารย์แอนนาที่เคยลงแข่งครั้งแรกในระยะทาง 10 ไมล์ และเข้าเส้นชัยในฐานะบ๊วยเมื่อปี 2012 รวมทั้งยังเคยพักการปั่นในช่วงปี 2017-2019 เพราะต้องหางานประจำทำเพื่อเลี้ยงชีพของตนเองให้ได้เสียก่อน
เธอจึงกลายเป็นนักปั่นโนเนมที่คนดู ณ จุดเส้นชัยพากันงงว่า นักปั่นออสเตรียคนนี้เป็นใคร และมาถึงจุดนี้เป็นคนแรกแบบนำโด่งมาได้อย่างไร
อาจารย์แห่งมหาวิทยาลัยโลซานได้เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยการใช้เวลา 3 ชั่วโมง 52 นาที 45 วินาที หรือ ถึงก่อนอันดับสองอยู่ถึง 1 นาที 15 วินาที เธอจึงมีเวลาลงไปนอนดีใจอย่างบ้าคลั่งอยู่บนพื้นถนนนั้นอยู่นาน
ซึ่งมันยังนานพอจนทำให้ แอนน์มีค ฟาน ฟลูเทน ไม่ทันสังเกตเห็นว่าเธอไม่ใช่คนแรกที่มาถึงที่นี่
และแม้จะมีคนดูพยายามเตือนตอนที่เธอชูมืออย่างลิงโลดใจเพราะเข้าใจว่าตัวเองคือผู้ชนะ แต่เธอก็ไม่ทันได้สังเกต ซึ่งรวมทั้งนักปั่นคนอื่นๆ ที่ทยอยกันเข้าเส้นชัยก็เข้าใจว่าแชมป์โลกคนล่าสุดคือผู้ชนะเช่นกัน
จนมีการประกาศรายชื่อผู้ชนะอย่างเป็นทางการ นักปั่นทุกคนจึงได้รู้ว่ามีใครคนนึงซึ่งพวกเราไม่รู้จักมาถึงที่นี่แบบที่พวกเธอไม่รู้อยู่ก่อนแล้ว
ซึ่ง ดร.แอนนา คีเซนฮอฟเฟอร์ คือคนๆ นั้น และ ไม่มีใครกล้าที่จะไม่รู้จักเธออีกแล้ว
::
"บนหน้ากระดาษฉันคือมือสมัครเล่น แต่จักรยานกับฉันใช้เวลาร่วมกันมากมาย ฉันแทบไม่ได้เงินจากการปั่นจักรยานอย่างเป็นกอบเป็นกำ รายได้หลักของฉันมาจากอาชีพสอนมหาวิทยาลัยมากกว่า
แต่สมองของฉันไม่เคยหยุดคิดถึงเรื่องการขี่จักรยาน ยิ่งได้รู้ว่าตัวเองได้โควต้าโอลิมปิก ช่วงหนึ่งปีครึ่งของฉันก่อนโอลิมปิกจะเริ่ม ฉันจึงเฝ้ารอวันแข่งจริงอยู่ตลอดเวลา"
เธอคืออาจารย์สอนคณิตศาสตร์ ผู้เขียนจึงคิดว่าเธออาจที่จะสามารถคำนวณได้ว่าควรใช้พลังเท่าไหร่ในแต่ละกิโลเมตร เธอจึงจะได้เป็นผู้ชนะ
รวมทั้งการออกตัวแบบบ้าคลั่งก็คืออีกหนึ่งกลเม็ดเด็ดของเธอที่ลวงตาพวกตัวเต็งทั้งหลายให้ไม่ทันระวัง
แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้น ระยะทาง 137 กิโลเมตร กับการทดแรงให้ได้อยู่ตลอดเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง
คำว่าปาฏิหาริย์ด้านบนสุดอาจจะกลายเป็นด้อยค่าเธอมากเกินไป เพราะในเมื่อเธอแสดงให้ได้เห็นแล้วว่าคณิตศาสตร์ช่วยด้านคำนวณ วิทยาศาสตร์ช่วยทางร่างกาย และใช้ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา เข้ามาช่วยในเรื่องของการวางแผนงาน
ปาฏิหาริย์ดังกล่าวจึงเป็นเพียงสายลมเล็กๆ ที่พัดโชยความเย็นให้เธอได้ชื่นใจในบางเวลาเท่านั้น
ไม่ว่าในอนาคตเธอจะยังปั่นต่อ หรือพอแค่นี้ แต่ที่แน่ๆ แผนนี้จะใช้ไม่ได้อีกต่อไป เพราะในวันนี้เธอคือม้าตัวเต็งที่อยู่ในสายตาคนทั้งโลกไปแล้ว
#PlayNowThailand #khelnow #OlympicGames2020
4 บันทึก
25
4
6
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โอลิมปิกสัมพันธ์
4
25
4
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย