ต้นแบบกลยุทธ์ในการ เปลี่ยนสิ่งที่ลูกค้าใช้กันฟรีๆ เป็นรายได้กว่าพันล้านดอลลาร์ !!!
ผู้คนส่วนใหญ่มักคิดตามๆกันมา ว่า "ของฟรีไม่มีในโลก" ได้อย่างก็ต้องเสียบางอย่างไป
แต่ในทุกวันนี้ ทุกๆท่านจะสังเกตได้ว่า "ของฟรีจำนวนหนึ่ง" ได้กลายมาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่ในโลก ไปเรียบร้อยไปแล้ว จนแทบจะบอกได้เลยว่า "ขาดของฟรีนั้นๆไม่ได้เสียแล้ว"
เรามาลองสังเกตดูนะครับ ว่าPlatform ฟรีๆตัวไหนที่พวกเราใช้กันเป็นประจำจนเหมือนกลายเป็นอวัยวะหนึ่ง ของเราเลยก็ว่าได้
เช่น Google,Facebook,Youtube,Yahoo,IG,Tiktok และอื่นๆอีกมากมายครับ
ตัวอย่างแค่ 6 platform นี้ก็ถือได้ว่ามากพอ ที่จะทำให้พวกเราต้อง พึ่งพา เจ้าของฟรีๆเหล่านี้เป็นอย่างมาก
เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โปรแกรมฟรีเหล่านี้ช่วยสร้างความสะดวกสบายให้พวกเราได้มากมายเหหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น ดูวิดีโอมากมายมหาศาลได้ฟรีๆ ,โทร วิดีโอคอล สนทนา กับผู้คนได้ทั่วโลกไปแบบฟรีๆ
สิ่งที่น่าสนใจไปไม่น้อยกว่าพวก Platform ฟรีๆ เหล่านี้ก็คือแนวคิดของ CEO ที่มีต่อเจ้าของฟรีๆเหล่านี้ เขาคิดอย่างไรถึงได้ทำโปรแกรมฟรีๆออกมาให้ชาวโลกได้ใช้กัน แถมยังสร้างเม็ดเงินได้นับพันล้านดอลลาร์ จากการเปิดให้ใช้โปรแกรมฟรีๆเหล่านั้นได้อีกด้วย
เจอรี่ หยาง
"เจอรี่ หยาง" หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Yahoo.com
โดยเขาเริ่มเปิดให้ใช้บริการแบบ "ฟรีๆ" ตั้งแต่ช่วงกลางๆทศวรรษที่ 90 เขาเป็นคนที่พูดชัดเจนว่า "จะทำอย่างไรให้ของฟรี กลายเป็นของที่มีมูลค่า และสร้างรายได้อย่างมหาศาลด้วย"
จริงๆแล้ว การประกาศอย่างนั้นขอเจอรี่ หยาง ซึ่งเขาได้ละทิ้งการเรียนในระดับป.เอก จากมาวิทยาลัย
มาลุยงานสร้างเว็บไซต์ Yahoo.com พร้อมกับเพื่อนเขาที่ชื่อ เดวิด ไฟโล จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน นั้นถือว่าได้เป็นแนวทางการเปิดตัวของ Google และ Facebook ในเวลาต่อๆมา ซึ่งมีแนวทางคล้ายๆกัน
เจอรี่นั้นมีความคล่องตัวด้านการจัดระบบหนังสือให้เป็นหมวดหมู่ สามารถรวบรวมหนังสือเป็นกลุ่มๆแต่ละชนิด และความอัจฉริยะในด้านวิศวกรรมและคณิตศาสตร์ มาจาการทำงานพิเศษในหอสมุดของมหาวิทยาลัย
สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เขากลายมาเป็นต้นแบบของการรวบรวมกลุ่มข้อมูลต่างๆในโลกได้อย่างเป็นระบบภายใต้โปรแกรม Yahoo.com
นั่นเองเป็นที่มาของการเปิดบริการให้เพื่อนๆและอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ได้เข้าไปค้นหาข้อมูลผ่านทาง Yahoo.com กันแบบ "ฟรีๆ" เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลความรู้ ความบันเทิง และอีกหลายๆอย่างมากมาย
และนั่นคือที่มาของ "ของฟรี ที่มีมูลค่า" ซึ่งมูลค่าที่ว่าก็คือ มีทั้งความรู้ ความบันเทิง ความสนุกนาน และการเปิดโลกทรรศน์ใหม่ๆ บนหน้าจอ โทรศัพท์ รวมไปถึงการติดต่อกับผู้คนต่างๆด้วยจดหมาย E-mail
เมื่อพูดถึง "รายได้มหาศาล" เขาก็ตกผลึกและก็ลงที่ "การโฆษณา" จากลูกค้าที่ต้องการเผยแพร่สินค้าของตนเองในโปรแกรม Yahoo.com ในเวลาต่อมา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เจอรี่ หยาง และ เดวิด ไฟโล มีรายได้เป็นกอบเป็นกำจากค่าโฆษณามากมายขนาดไหน เอาเป็นว่าทั้งสองสามารถมีรายได้ถึงร้อยล้านดอลลาร์ ก่อนจะเพิ่มมูลค่าเป็นหลักพันล้านดอลลาร์ในเวลาต่อมาไม่นานนัก
เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า อย่ามองว่าการให้บริการของฟรี เป็นการเพิ่มภาระในการดูแลลูกค้า แต่ในทางกลับกัน ผู้ให้บริการจะได้ความประทับใจจากลูกค้า และพวกเขาก็อยากที่จะใช้บริการอื่นๆในเว็บที่เป็นมากกว่าบริการฟรี แล้วพวกเขาจะนึกถึง เว็บไซต์โดยไม่ต้องเอ่ยปากชักชวน.
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
