5 ส.ค. 2021 เวลา 10:00 • ดนตรี เพลง
เล่าเรื่องเพลง: น้ำตาผ่าเหล้า - แดง จิตกร
เพลงอกหัก(ไม่)ธรรมดา และตำนานป่าล้อมเมืองที่แสนวิเศษ
เมื่อช่วง 2 - 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แอดมินได้ไปดูรายการ "เพชรตัดเพชร" ของช่อง Workpoint ที่เป็นรายการแนวแข่งขันประชันบทเพลงของเหล่าศิลปินที่เป็นผลผลิตจากรายการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งของทางค่าย อาทิ ไมค์ทองคำ ไมค์หมดหนี้ ฯลฯ เพื่อค้นหาผู้ชนะเลิศหนึ่งเดียวในรายการนี้ ซึ่งตอนนี้กำลังออกอากาศใน Season 2 อยู่ และอยู่ในช่วงที่เรียกว่า กำลังเข้มข้นอย่างมาก แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่สถานการณ์ Covid - 19 ยังระบาดอยู่ และการแข่งขันในรอบนี้ต้องแข่งขันแบบไร้ผู้ชมในสตูดิโอ และทำตามมาตรการสาธารณสุขของทางภาครัฐ ในการถ่ายทำรายการ
ซึ่งหลังจากได้ดูการแข่งขันของแต่ละคนแล้ว แอดมินก็ไปสะกิดใจกับผู้เข้าแข่งขันท่านหนึ่ง นามว่า "กบ สุพจน์" ที่เลือกหยิบเพลง "น้ำตาผ่าเหล้า" มาขับร้องในโจทย์เพลงเครื่องไทย ซึ่งคุณกบได้ถ่ายทอดบทเพลงนี้ได้ถึงอารมณ์สุดขีด จนคว้าคะแนนจากคณะกรรมการเต็ม 300 คะแนนทันที แอดมินได้ฟังเพลงนี้แล้วถึงกับทึ่งในความสามารถของคุณกบที่ตีโจทย์เพลงนี้ได้เข้ากันดี และด้วยความที่ว่า เพลงนี้เป็นผลงานเพลงของศิลปินต้นฉบับที่ผู้เขียนชอบมาก จึงถือโอกาสนี้นำเรื่องราวของบทเพลงดังกล่าวมาเล่าให้ผู้อ่านได้ทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น
ก่อนอื่นเราก็ต้องทำความรู้จักกับนักร้องต้นฉบับของเพลงนี้กันสักหน่อย "สมจิตร เกตุภูเขียว" ชายหนุ่มชาวจังหวัดขอนแก่นโดยกำเนิด ด้วยความที่เขาชื่นชอบและหลงใหลในเสียงดนตรี แต่ฐานะของครอบครัวเขาไม่ค่อยร่ำรวยอะไรมากนัก เขาจึงทำได้แค่รับจ้างงานอิสระทั่วไป แต่แล้ว ด้วยความโชคช่วยหรือความบังเอิญอะไรสักอย่าง ที่เขาได้มีโอกาสไปทำงานกับวงดนตรีประจำท้องถิ่น เขาจึงเริ่มต้นทำงานสายดนตรี และเข้าสู่วงการเพลงในเวลาต่อมา ภายใต้ชื่อในวงการเพลงว่า "แดง จิตกร"
แดง จิตกร
แดงได้เปิดตัวอัลบั้มแรกในฐานะศิลปีนเดี่ยวในปี 2537 แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมาก จนกระทั่งในปี 2539 - 2541 อัลบั้มชุดต่อๆมาของ แดง จิตกร ก็เริ่มมีคนรู้จักเขาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปี 2542 แดงได้ออกอัลบั้มลำดับที่ 6 "ลืมใจไว้อีสาน" ซึ่งในชุดนี้ มีบทเพลงหนึ่งที่คนทั้งประเทศในตอนนั้นได้รู้จักและตกหลุมรักผู้ชายคนนี้มากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นปรากฏการณ์ "ป่าล้อมเมือง" ที่สะเทือนวงการณ์เพลงลูกทุ่งอีสาน นั้นก็คือเพลง "น้ำตาผ่าเหล้า" ผลงานการแต่งของ "ครูสลา คุณวุฒิ" ที่กล่าวถึงคนที่ผิดหวังเมื่อรู้ว่าคนที่เขารักกำลังจะแต่งงานกับคนใหม่ ในเมื่อเขาทำอะไรกับเธอไม่ได้ ผลสุดท้ายคือต้องกลับไปร้องไห้ เสียใจ และก็ทำใจ ทั้งๆที่พยายามอยากจะตัดใจจากเธอไป แต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่คิดถึงเรื่องราวในอดีตพร้อมกับน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาไม่หยุด
ในส่วนของการทำเพลง ด้วยความที่อัลบั้มนี้ แดงได้รับหน้าที่เป็น Producer ทั้งอัลบั้ม อีกทั่งได้รับการสนับสนุนจากทีมงานค่ายเพลงเล็กๆ ใน จ.สกลนคร รวมไปถึง C.M.C บริษัทเพลงซึ่งเป็นผู้อุปถัมภ์ในด้านการจัดจำหน่าย อัลบั้มชุดนี้นับว่าเป็นงานที่ท้าทายความสามารถของแดงในฐานะคนเพลงคนหนึ่ง ที่จะถ่ายทอดผลงานเพลงลูกทุ่งคุณภาพออกสู่หูคนฟังโดยตรง อย่างไม่มีเงื่อนไข แน่นอนว่าในอัลบั้มนี้แดงได้จ้างนักเรียบเรียงเพลงอีสานที่โด่งดังมากในยุคนั้นอย่าง "อ.หนุ่ม ภูไท" มารับหน้าที่ทั้งเขียนดนตรีและเรียบเรียงเสียงประสาน พร้อมกันนี้ยังได้คนเพลงเบื้องหลังที่เป็นคนรากหญ้าทางด้านดนตรีอีสานหลายๆคน มาช่วยขับกล่อมเพลงของแดงให้ออกมาดูสละสลวยขึ้น
โดยเฉพาะเสียงซอที่เป็นจุดเด่นในบทเพลงนี้ เป็นเสียงดนตรีที่บรรดาเพลงลูกทุ่งอีสานบางเพลงต้องมีเครื่องดนตรีชนิดนี้ ถ้าไม่มีสิ่งนั้น อาจทำให้เพลงดูไม่ลงตัวก็ได้ การบรรเลงสีซอของ "อ.ทองแดง แพงศรี" (นักดนตรีชาวชัยภูมิ ที่เคยไปออกรายการ Super 60+ ทางช่องเวิร์คพอยท์ เมื่อปี 2561) ถือว่าทำออกมาได้อย่างดี และเข้ากันกับเครื่องดนตรีอื่นๆทั้ง พิณ กลอง เบส และเสียงร้องของเขา ได้อย่างลงตัว
ภาพจาก MV น้ำตาผ่าเหล้า
ในด้านเสียงร้องก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน โดยคุณแดงใช้เทคนิคการร้องที่ไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยาก แม้ว่าเขาจะร้องในระดับ Basic ก็ตาม แต่ก็สามารถถ่ายทอดบทเพลงในระดับ Professional ได้ โดยไม่ต้องไปเปรียบเทียบใคร เทคนิคการร้องเพลงของแดง ไม่จำเป็นจะต้องแน้นเสียงดีเลิศแบบนักร้องคนอื่นๆ แม้ว่าเขาจะใช้แนวทางการร้องจากต้นแบบของคุณสายัณห์ สัญญา ทว่าเขาคงไม่จำเป็นจะยึดไปทั้งหมด เขาเพียงแค่จะถ่ายทอดเสียงในแบบของเขาเอง รวมไปถึงการถ่ายทอดอารมณ์และเนื้อหา ไม่ว่าเพลงของเขาจะออกมารูปแบบใด เขาก็จะถ่ายทอดไปตามเพลงที่กำหนดไว้ อย่างเช่นเพลงนี้เป็นเพลงเศร้า อารมณ์อกหัก คุณแดงก็ต้องถ่ายทอดตามอารมณ์ที่กล่าวไว้ ซึ่งแดงก็ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีมากๆเลยในตอนนั้น
เรื่องของเนื้อเพลง เมื่ออ่านแล้วรู้สึก "กระตุกจิตกระซากใจ" มาก ในแต่ละประโยค อย่างในท่อนวรรคแรกของเพลง "อ้ายยืนซึมเศร้า รู้ข่าวว่าเขามาขอ พรุ่งนี้สิหนอ เขาจะเอาเสาลงหลุม" แสดงให้เห็นว่า อาการอกหักเริ่มต้นจากเหตุการณ์การณ์ที่ไม่คาดคิด และจะนำไปสู่การจมดิ่งกับความเจ็บซ้ำในท่อนต่อๆมา อย่างเช่นท่อนฮุกที่ว่า "อกหักคาที่ อ้ายนี้บ่มีคำเว้า" หรือประโยคในท่อนท้าย "เจ็บปวดเหลือเกิน แรงเงินสู้เขาบ่ได้" ประโยคนี้ชอบมาก สื่อให้รู้ถึงต้นตอว่าทำไมเธอถึงไปแต่งงานกับคนใหม่ เป็นเพราะคนๆนั้นดีกว่าเขา ทั้งเงินตรา วาสนา บรรดารศักดิ์ และอำนาจ (ที่ไม่เกี่ยวกับเผด็จการใดๆนะ มันไม่ใช่การเมือง)
บางประโยคถือว่าฉุดคิดให้เห็นความเป็นไปในอีกรูปแบบ แต่อยู่บริบทเดียวกัน เช่นในวรรคที่สองและสามของท่อนฮุก "น้ำตาผ่าเหล้า เห็นเจ้าควงกันจู๋จี๋ กอดกันเดินกาย ขี่ใส่ใจอ้ายแท้คนดี" ถ้าตามความคิดของผู้เขียน สรุปท่อนฮุกแบบง่ายๆได้ความว่า เห็นคู่รักกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันแล้วมันรู็สึก "อิจฉา" หรือในท่อนท้ายของเพลงที่ผู้เขียนชอบมากที่สุด มันคือการสรุปกับสิ่งต่างๆที่เจอมากับตัวในบทเพลงนั้นด้วยประโยคที่เฉือนหัวใจที่สุด "บ่อยากฮ้องไห้ แต่น้ำมันไหลออกตา" คือไม่อยากจะร้องไห้ออกมาเลย แต่ก็... ทำไม่ได้ ในท่อนนี้ พี่แดงถ่ายทอดอารณ์ได้สุดขีด มาพร้อมกับเทคนิคเสียงสูงเสียงหลบที่บาดลึกถึงขั้วหัวใจมากๆ
ภาพจาก MV น้ำตาผ่าเหล้า
ถ้าสรุปถึงภาครวมทั้งดนตรี เนื้อหา และเสียงร้อง สรุปอย่างไร มันก็ดีไปทุกอย่างเลย แต่สิ่งที่ได้รับฟังมาทั้งหมดแล้วคิดว่ามันใช่และดีที่สุดคือ การถ่ายทอดเนื้อหาที่คุณแดงได้ใส่ความรู้สึกและจิตวิญญาณของคนอกหักมาอยู่ในบทเพลงนี้ แล้วมาผสมกับเสียงซอ มันทำให้เพลงลูกทุ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่ทำออกมาไพเราะได้ โดยไม่จำเป็นต้องใส่อะไรให้มันดูเวอร์วังจนเกินไป มันทำให้เพลงนี้ เหมือนเป็นการระบายความรู้สึกที่ผิดหวังในแบบของตัวเขาเอง จนคนฟังอินในเนื้อหา มันเข้ากับชีวิตคนฟังโดยตรง หรือแม้แต่บางคนที่ติดตามเขาแล้วฟังเพลงนี้เกิดความสงสัยในใจว่า "พี่แดงเคยอกหักกับใครมาหรือเปล่านะ?" หรือถ้าไม่เคยก็อีกหนึ่งข้อสังเกตที่ว่า "พี่แดงคงอิจฉาคนมึความรักมาแน่ๆเลย ถึงต้องมาระบายความในใจ"
และด้วยความที่ชื่อเพลงนั้นไม่ได้แปลว่า การกลายพันธุ์ของน้ำตา ตามคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า "ผ่าเหล่า" นะ แต่คำว่า "ผ่าเหล้า" ที่มีตัวไม้โทสะกด สามารถถอดความหมายได้ด้วยประโยคแบบมีความนัยว่า "น้ำตาไหลหล่นบนแก้วเหล้า ไม่ก็ขวดเหล้า" หมายถึง เวลาเราอกหักช้ำรัก มักจะดื่มเหล้าเพื่อบรรเทาความเจ็บช้ำในใจ ยิ่งดื่มมาก ยิ่งเมา ยิ่งลืมได้ง่าย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของคนอกหักรักคุด แต่การที่เอาน้ำตามาผ่าเหล้าหรือหยดบนน้ำเมา ยิ่งสื่อให้เข้าใจยิ่งขึ้นว่า บางครั้งยิ่งดื่ม ยิ่งเมา ยิ่งลืมไม่ลง บางทีดื่มไปร้องไห้ไปด้วย เป็นเรื่องธรรมดาของคนอกหักมากๆ ที่คุณก็ต้องสัมผัสหรือเคยเจอมาก่อนก็เป็นได้ ถึงแม้ว่าในเนื้อเพลงจะไม่ได้พูดถึงการดื่มเหล้าหรือทำให้เมาก็ตาม แต่ก็ทำให้ความรู้สึกนั้นถูกสัมผัสได้ถึงเนื้อหาและบริบทของเพลงนี้ เมื่อคุณได้ลองฟัง
หน้าปกอัลบั้ม ลืมใจไว้อีสาน
เพลง น้ำตาผ่าเหล้า ได้ถูกปล่อยออกมาสู่สาธารณชนครั้งแรกตามคลื่นวิทยุท้องถิ่น ถ้ายังจำความได้คือคลื่นวิทยุท้องถิ่นแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ที่มีสองพี่น้องตระกูลคุณวุฒิ อย่างครูสลา และคุณปัญญา เป็นผู้จัดรายการ หลังปล่อยเพลงนี้ไปกลายเป็นกระแสในท้องถิ่นอีสาน ที่โด่งดังมาก คนฟังทั่วทั้งภาคในขณะนั้น ถึงกับทึ่งในความสามารถด้านการร้องเพลงของคุณแดง และการเล่าเรื่องจากการแต่งของครูสลา จนไปเตะตานายห้าง "ชัยนาท ลือวิวัฒน์กุล" แห่งบริษัท C.M.C ขอซื้อลิขสิทธิ์เพลงและอัลบั้มนี้จาก "ลาวัลย์เอนเตอร์เทนเมนท์" ค่ายเพลงเล็กๆชื่อดังของ จ.สกลนคร ไปวางจำหน่ายตามภูมิภาคอื่นๆ จนได้รับกระแสนิยมตามมา จากติดซาร์ตในคลื่นท้องถิ่นก็ขยับเข้าสู่ซาร์ตคลื่นวิทยุระดับชาติได้สำเร็จ กลายเป็นบทเพลงสร้างชื่อเสียงเพลงแรกๆของแดง ที่ประสบความสำเร็จด้วยกลยุทธ์เพลงที่กลายมาเป็นที่มาของปรากฎการณ์ "ป่าล้อมเมือง"
หารู้ไม่ว่า กว่าที่บทเพลงน้ำตาผ่าเหล้า จะกลายเป็นเพลงสร้างชื่อของแดงนั้น เดิมทีเพลงนี้ คนที่ทางค่ายจะเลือกมาร้องเพลงนี้เป็นคนแรก ไม่ใช่แดง จิตกร แต่เป็น "เอกชัย ศรีวิชัย" ด้วยความที่ป๋าเอก โด่งดังจากเพลง อกหักจากปักษ์ใต้ นายห้างแห่งลาวัลย์ฯ จึงมองวิสัยทัศน์ของนักร้องคนนั้นว่าเขาควรจะเหมาะกับเพลงอะไรให้มันลงตัวที่สุด ผนวกกับที่ป๋าเอกร้องเพลงลูกทุ่งแนวอกหักทีไรแล้วมันมีเสน่ห์มาก จึงน่าจะเลือกเขามาชวนอัดเพลงนี้ให้ได้ แต่แล้วสุดท้ายป๋าเอกกลับปฏิเสธ ความส้มหล่นจึงตกไปอยู่ที่แดง จิตกร ทำให้เขาต้องมารับหน้าที่อัดเพลงนี้เป็นคนแรกโดยปริยาย ถึงอย่างไรต้องขอบคุณป๋าเอกด้วยที่ไม่ขอรับข้อเสนอ เพราะถ้าป๋าเอกได้รับไปแล้ว เพลง "หมากัด" ก็คงจะไม่ใช่เพลงดังตลอดกาลของป๋าเอก และ แดง จิตกร คงจะไม่มีใครพูดถึงเขาจนทุกวันนี้ อีกเลย
หลังจากที่บทเพลงเศร้าๆเพลงนี้กลายเป็นที่ถูกใจ และกลายเป็นหนึ่งปรากฏการณ์ในวงการเพลงขณะนั้น คุณแดงในตอนนั้นก็กลายเป็นที่ชื่นชอบจากฐานแฟนเพลงของเขาที่เริ่มทยอยเพิ่มขึ้นมาตามกระแส แต่ก็มีอุปสรรคบางประการที่ทำให้แดง จิตกร ตัดสินใจถอนตัวจากค่ายเพลงเล็กๆ ทั้งยอดขายอัลบั้มที่สวนทางกับกระแสของเพลง และปัญหาเกี่ยวสัญญาศิลปินและลิขสิทธิ์เพลงที่ดูซับซ้อน จนสุดท้ายเขาก็ขอฉีกสัญญาแบบเงียบๆ เพื่อไปเริ่มต้นทำผลงานเพลงใหม่ในสังกัดท็อปไลน์มิวสิค ซึ่งเป็นค่ายเพลงที่แดงได้มาโลดแล่นทำเพลงในบ้านหลังใหญ่ของวงการเพลงไทยลูกทุ่ง จนกลายมาเป็น ศิลปินที่มีชื่อเสียงมากของทางค่ายต่อจาก พุ่มพวง ดวงจันทร์ ราชินีลูกทุ่งตลอดกาล
แน่นอนว่าการนำเพลงฮิตเพลงนี้มาอยู่ท็อปไลน์ ก็ต้องถูก Re-arrange ทำนองเพลงขึ้นมาใหม่ และบรรจุอยู่ในอัลบั้มพิเศษ รวมเพลงฮิตของเขา เพื่อเป็นการขอบคุณแฟนเพลงที่ให้การต้อนรับเขามาตลอดและรวมไปถึงคนฟัทุกคนที่ไม่ลืมผลงานป่าล้อมเมืองเพลงนี้ แต่ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันต้นฉบับหรือเวอร์ชัน Re-arrange เพลง น้ำตาผ่าเหล้า ที่ถึงจะเป็นแค่เพลงอกหักธรรมดาๆเพลงหนึ่ง แต่สัมผัสได้ถึงเนื้อหาและดนตรีที่ไพเราะและสละสลวยตามแบบฉบับเพลงลูกทุ่งไทย เป็นเพลงที่ดูเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ ทำให้ได้ความรู้สึกอินไปตามเนื้อหา มันทำให้เพลงเศร้าๆ เพลงนั้นดูวิเศษขึ้นในแบบที่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรให้ดูดีเลิศ ขอเพียงแค่ได้ฟังเพลงนั้น เหมือนได้เล่าเรื่องราวสัก 1 เรื่อง ก็ถือว่าน่าประทับใจแล้ว
ฟังเพลง น้ำตาผ่าเหล้า Re-arrange Version
ขอบคุณแหล่งอ้างอิงจาก https://th.wikipedia.org/
ติดตาม #ยามเฝ้าเพลง ได้ทุกช่องทางที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา