น้ำไหว..ลมไหว..ฤาใจที่สั่นไหว
ภาพโดยผู้เขียน
เพื่อน ๆ คงเคยได้ยิน นิทานเซน เรื่องลมพัด หรือธงไหว
เรื่องมีอยู่ว่า มีพระสองรูป กำลังเถียงกันอย่างคร่ำเคร่ง เรื่องลม และธง พระรูปนึง บอกว่า "ธง กำลังปลิวไสว" พระอีกรูปนึง เถียงว่า "เป็นลมต่างหากที่เคลื่อนไหว" หากไม่มีลม ธงจะไหวได้อย่างไร
พระทั้งสองรูป ต่างเถียงกันว่าเหตุผลของตนเองนั้นถูกต้อง
ในที่สุด พระอาจารย์ ฮุ่ยเหนิง (เว่ยหล่าง) ที่นั่งฟังอยู่ ก็ได้กล่าวขึ้นมาว่า "มิใช่ลมไหว และ มิใช่ธงไหว แต่เป็นใจของพวกท่านต่างหาก ที่ไหว" นิทานก็จบเท่านั้น
ในตอนนั้น ผู้เขียนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนิทานสักเท่าไร แต่ก็ยังจำนิทานเรื่องนี้ได้ดี
ทำให้นึกถึงเรื่องเล่าของหลวงพ่อชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ที่พอจะอธิบายเรื่องราวของนิทานเซนเรื่องนี้ได้ชัดขึ้น
เรื่องมีอยู่ว่า คราวหนึ่ง สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ได้รับเชิญให้ไปแสดงธรรม ที่ประเทศอังกฤษ และเจ้าภาพก็ให้ท่านพำนักที่วิหารกลางกรุงลอนดอน ซึ่งแวดล้อมไปด้วยผับ บาร์ ต่าง ๆ มากมาย
ตอนกลางคืนก็จะมีเสียงดนตรี เสียงร้องเพลง ดังเข้ามาในศาลา ในขณะที่ท่านพาพระ และโยมนั่งสมาธิ ก็มีเสียงดังมาก จนทำให้พระ และโยมหลายคน ก็นั่งสมาธิกันอย่างไม่เป็นสุข ในขณะที่หลวงพ่อชาท่านนั่งอย่างสงบ เหมือนไม่มีเสียงใด ๆเลย
พอนั่งสมาธิเสร็จ เจ้าภาพก็เข้ามาขอโทษ ที่เสียงดนตรีเข้ามารบกวนการนั่งสมาธิ
หลวงพ่อชาท่านยิ้ม และตอบไปว่า "โยมไปคิดว่าเสียงดนตรีมารบกวนเรา อันที่จริงเราต่างหากที่ไปรบกวนเสียงดนตรี"
ท่านกำลังจะบอกเราว่า เพราะใจเรานี่แหละ ที่กำลังไปรบกับเสียงดนตรี เราจึงทุกข์ สิ่งที่ทำได้คือเราต้องปรับใจเราเอง ที่วางไว้ไม่ถูกที่ถูกทาง ทำให้นำมาซึ่งความทุกข์ ทุกข์เพราะใจเราเอง ไม่ใช่ใครอื่นเลย
การเจริญ"สติ" จึงเป็นสิ่งสำคัญภายใน ที่บอกเราว่า เราไม่จำเป็นต้องทุกข์เลย แค่มองเห็นได้ รู้กาย รู้ใจ ก็เป็นสุข ได้แล้ว
ในภาวะที่เกิดความวุ่นวายบนโลกใบนี้ ผู้เขียนคิดว่า เรื่องราว เรื่องเล่าวันนี้ จะทำให้คนที่ผ่านมา เห็นภาพสวย ๆ และได้อ่านบทความขนาดสั้น นี้แล้ว จะมีความสุขเล็ก ๆ เกิดขึ้นในหัวใจได้บ้าง ❤
....
อันที่จริง ที่ใต้น้ำนั่น มีปลาตัวใหญ่มาก ที่ทำให้เกิดคลื่น แบบที่เห็น ในภาพ ใช่ หรือไม่ ถามใจเธอดู ^^
แล้วพบกันใหม่
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
