Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Dr.X
•
ติดตาม
29 ก.ค. 2021 เวลา 03:45 • ความคิดเห็น
บทเรียนสอนลูกจาก‘เทนนิส-อาเดรียนา’
...
ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังหนักหนาสาหัสอยู่ทั้งในบ้านเราและทั่วโลก ก็มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แทรกเข้ามา ทำให้ผู้คนมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้บ้าง
ในช่วงที่เก็บตัวอยู่บ้านเลยมีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการทำกิจกรรมให้กระชุ่มกระชวยจิตใจขึ้นได้ไม่มากก็น้อย แถมยังได้เห็นคุณประโยชน์ของการตัดสินใจจัดงานโตเกียวโอลิมปิกที่เจ้าภาพต้องเลื่อนมาจากปีที่แล้วเพราะหวังว่าสถานการณ์โควิด-19 จะดีขึ้น แต่กลายเป็นว่าสุดท้ายก็ยังไม่ดีขึ้น ท่ามกลางมุมมองของผู้คนจำนวนมากทั่วโลกที่ยังไม่เห็นด้วยกับการจัดกีฬาโอลิมปิก แม้แต่คนญี่ปุ่นเอง แต่สุดท้ายก็กลายเป็นช่วงเหตุการณ์ที่สร้างความสุขให้กับผู้คนท่ามกลางความทุกข์และความเครียดอย่างมาก
โดยเฉพาะบ้านเราที่มีแมตช์หยุดประเทศที่สร้างความสุขให้กับผู้คนยิ่งนักสำหรับการแข่งขันกีฬาเทควันโด เมื่อวันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยรอบชิงชนะเลิศรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง ที่ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย เป็นฝ่ายแซงเอาชนะอาเดรียน่า เซเรโซ อิเกลเซียส นักกีฬาดาวรุ่งชาวสเปน ไปได้แบบหวุดหวิดในช่วง 7 วินาทีสุดท้ายด้วยคะแนน 11-10 ถือเป็นเกมการแข่งขันที่ได้รับการพูดถึงไปทั่วโลก
เป็นแมตช์ขนลุกที่ทำให้เราได้บทเรียนอะไรเยอะมาก
ที่มาจาก 2 สาวนักกีฬาชาวไทยและชาวสเปน
“เทนนิส” เคยให้สัมภาษณ์กับ The Cloud เมื่อปี 2562 ว่าครั้งหนึ่งเธอเคยเข้าร่วมมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ที่ริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล มาแล้ว และคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้ ตอนนั้นความฝันของเธอจึงอยู่ที่โอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่โตเกียว
เทนนิสเป็นเด็กสาวจากสุราษฎร์ธานีเติบโตมาในครอบครัวนักกีฬา
“พ่อกับแม่เป็นเลือดนักสู้ เป็นนักกีฬาอยู่แล้ว ท่านปลูกฝังตั้งแต่ชื่อเล่นแล้ว พี่ชายหนูชื่อเบสบอล พี่สาวหนูชื่อโบว์ลิง แล้วหนูก็ชื่อเทนนิส พ่อเองก็ชอบเล่นกีฬามาก เป็นครูสอนว่ายน้ำ ส่วนแม่เป็นผู้นำเต้นแอโรบิกแล้วก็เป็นนักว่ายน้ำด้วย”
“เราเป็นครอบครัวนักกีฬาทั้งบ้านเลย แล้วตั้งแต่เด็ก ๆ พ่อจะปลุกหนูไปวิ่งทุกเช้า แม้วันเสาร์-อาทิตย์เขาก็จะตื่น 8 โมง ไปวิ่งถนนที่เป็นชนบท แบบร้อน ๆ แดดเปรี้ยง ๆ หนูก็วิ่งไปเรื่อย ๆ ไปดูนั่นดูนี่ ดูทุ่งนา ดูโรงถ่าน ดูอะไรแบบนี้ หรือบางวันพ่อก็จะพาไปวิ่งที่สนามกีฬา แล้วมันจะมีวันที่ประตูรั้วมันปิด เราก็ดีใจ ว้าย ประตูรั้วมันปิด จะได้ไม่ต้องวิ่ง แต่สักพักพ่อก็จะขับไปที่อื่นต่อ สุดท้ายก็ไม่หยุด ทุกวันต้องออกกำลังกาย”
คุณแม่ของเทนนิสเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตอนเธออายุ 7 ขวบ ทำให้เมื่อตอนที่เธอได้เหรียญทองแดงโอลิมปิกเมื่อ 5 ปีก่อน เธอจึงเอาเหรียญนั้นไปคล้องที่กรอบรูปของคุณแม่
และเมื่อได้เหรียญทองเมื่อไม่กี่วันมานี้ เธอก็จะทำแบบเดียวกัน
“อย่างน้อยหนูก็ทำให้พ่อกับครอบครัวภูมิใจที่สุดแล้ว เขาฝันอยากให้ลูก ๆ ติดทีมชาติ แล้วตอนนี้ฝันก็เป็นจริงแล้ว หนูดีใจที่ทำให้พ่อสำเร็จ ช่วยพ่อหาเงิน เลี้ยงตัวเองและเลี้ยงพ่อได้ แล้วก็ได้มิตรภาพต่าง ๆ จากที่นี่ ได้ความรักจากโค้ช มันเหนื่อย แต่ก็คุ้มกับทุกอย่างที่เราทำไป”
เทนนิสเข้าใจดีกับคำว่า ‘No pain No gain’เธอเคยบอกว่า
“เข้าใจว่าถ้าเราไม่พยายาม ไม่แลกด้วยความเจ็บปวด ก็ไม่เจอความสำเร็จ”
ประเด็นที่น่าสนใจอีกประการคือกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ที่ริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล วันนั้นเธอพ่ายคิม โซ-ฮุย ในสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับอาเดรียน่าที่พ่ายเธอในวันนี้ จนทำให้เธอสามารถทำความฝันได้สำเร็จ ตอกย้ำว่าภายใต้ความสำเร็จของเธอนอกจากโค้ชเช ขวัญใจชาวไทยแล้ว ก็ยังมีคุณพ่อที่คอยเป็นกองหลังและกองหนุนให้เธอมาตลอด
ในขณะที่อีกฟากฝั่งของประเทศสเปน ก็ลุ้นหนักมากกับนักเทควันโดสาวอาเดรียน่า เซเรโซ อิเกลเซียส ที่กรุงมาดริด ถึงขั้นมีนักข่าวไปถ่ายบรรยากาศบ้านของเธอ เพราะมันมีความหมายกับพวกเขาเช่นกันเนื่องจากเป็นเหรียญรางวัลแรกที่ ทีมชาติสเปน ได้ลุ้นในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้
แม้สุดท้ายอาเดรียน่า เซเรโซ อิเกลเซียส ได้เพียงเหรียญเงิน หลังจบการแข่งขันเธอร้องไห้เสียใจอย่างมาก แต่เพียงไม่กี่นาทีเธอก็ลุกขึ้นมาแสดงความดีใจกับเทนนิสคู่แข่งที่ทำให้เธอพ่ายไปแบบเฉียดฉิว เป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้กับคนดูไปทั่วโลก
ขณะที่ทางด้านครอบครัวของอาเดรียนาก็ให้สัมภาษณ์ว่า "เรามีความสุขมาก ๆ แม้จะได้เพียงเหรียญเงิน แต่ลูกสาวของเราทำได้ดีที่สุดแล้ว มันแสดงให้เห็นว่าเธออยู่ในระดับไหน เราภูมิใจในตัวเขามาก ๆ"
เป็นความงดงามของนักกีฬาสองชาติที่ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ มีความมุ่งมั่นตั้งใจ อดทน ฝึกซ้อมอย่างหนัก และมีสิ่งที่เหมือนกันคือการสนับสนุนจากครอบครัว
ยิ่งตอกย้ำว่าภูมิต้านทานในชีวิตคนเราสำคัญมาก ยิ่งในยุคที่เด็กต้องเติบโตขึ้นไปในสภาพสังคมที่เต็มไปด้วยสภาพปัญหามากมาย และเด็กก็ต้องเผชิญกับโลกการแข่งขัน
การสร้างภูมิต้านทานให้ลูกได้รู้จักเผชิญปัญหา เรียนรู้จักการ “แพ้” และ “ชนะ” เป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่ต้องปลูกฝังตั้งแต่เล็ก เพราะสภาพปัญหาที่วุ่นวายอยู่ในทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากน้ำมือผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยที่เป็นแบบอย่างไม่ดี และยึดติด “ต้องชนะ” เท่านั้น
เรื่องแพ้-ชนะ เป็นหนึ่งในบทเรียนชีวิตที่ทำให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ และเป็นเรื่องที่พ่อแม่สร้างให้ลูกได้
พ่อแม่ควรสอนให้ลูกเรียนรู้ว่าการชนะในวันนี้ไม่ได้หมายว่าความจะชนะตลอดไป เพราะเมื่อมีคนชนะก็ย่อมต้องมีคนแพ้เสมอ ทุกคนมีโอกาสชนะและแพ้ได้เท่า ๆ กัน และผู้ชนะก็ควรชื่นชมผู้แพ้ ในขณะเดียวกัน เมื่อแพ้ก็ควรยินดีกับผู้ชนะ ไม่มีใครชนะตลอดกาล และไม่มีใครแพ้ตลอดไป ที่สำคัญ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรให้กำลังใจทุกครั้งเมื่อลูกผิดหวังหรือแพ้ และคอยปลุกขวัญกำลังใจที่จะให้เขาลุกขึ้นใหม่ เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ว่าทุกครั้งที่ลูกแพ้เป็น ภูมิคุ้มกันจะทำให้แข็งแกร่งขึ้น
ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ควรต้องหาจังหวะและโอกาสในการที่จะส่งเสริมให้ลูกเกิดแรงบันดาลใจในครั้งต่อไปที่อยากจะทำให้ดีขึ้นหรือพัฒนามากขึ้น สามารถแปรเปลี่ยนเรื่องที่ลูกชนะหรือแพ้ให้กลายเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องอื่น ๆ หรือเสริมสร้างศักยภาพของลูก เพราะเขาอาจจะค้นพบทางที่เขาถนัดและมีความสุขก็ได้
สิ่งสำคัญที่พ่อแม่สามารถปลูกฝังและสอดแทรกไปกับการเรียนรู้เรื่องแพ้-ชนะ คือ ความมุ่งมั่นที่จะไปสู่เป้าหมาย โดยใส่ใจในรายละเอียดระหว่างทางด้วย ให้เขาได้เห็นความสำคัญของทักษะชีวิตในด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น ความอดทน ความพยายาม มีวินัย การเรียนรู้ความผิดพลาด การปรับปรุงแก้ไข ฯลฯ
กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ...
แก้กองกิเลส ทำตนให้เป็นคน....
...
ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน
28 กค.64
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย