31 ก.ค. 2021 เวลา 03:00 • การตลาด
ทำไมบริษัทชื่อดังระดับโลกหลายแห่งถึงใช้โลโก้สีแดง?
Image Credit: Pinterest/Yanima Srimungkla
“โลโก้” คำทับศัพท์ที่เราใช้เรียกแทน ตราสัญลักษณ์ เครื่องหมาย หรืออักษรที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ของสินค้า องค์กร หรือหน่วยงาน ห้างร้าน ผู้ผลิต ฯลฯ เพื่อให้เกิดการจดจำได้ง่าย ซึ่งมีรูปทรง และสีสันที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป
แต่เราเคยลองสังเกตไหมว่าทำไมโลโก้ขององค์กร หรือบริษัทชั้นนำระดับโลกหลายแห่งจึงนิยมใช้โลโก้สีแดงเป็นสีหลัก
ซึ่งแน่นอนด้วยความฉูดฉาดร้อนแรงของ "สีแดง" มันทำให้เราสะดุด สังเกตเห็น หรือหันไปมองได้ไม่ยาก
ทั้งนี้ โดยความหมายเชิงจิตวิทยาของสีแดงนั้น เป็นสีแห่งความมั่นใจ ความตื่นเต้น และพลังงาน เป็นสีที่กระตุ้นจิตใจได้ดีที่สุด สื่อถึงความเร่าร้อน กระฉับกระเฉง ร่าเริง และกล้าหาญ
และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่โลโก้ของ McDonald’s หรือแม้แต่โลโก้ของ Coca-Cola เลือกนำมาใช้ให้ผู้คนเกิดความสนใจในแบรนด์ของพวกเขา
และแน่นอนนั่นไม่ใช่ความบังเอิญ เพราะคนเรามักจะตัดสินอะไรสักอย่าง เช่น บุคคล หรือวัตถุ ภายในเวลาไม่เกิน 90 วินาทีเท่านั้นว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้
Image Credit: https://urmajestysire.wordpress.com/2014/04/08/mcdonalds-and-coca-cola-better-together/
ซึ่ง Emily Carter นักวิเคราะห์การตลาดเว็บไซต์ จาก “WebpageFX” บริษัทด้านการตลาดดิจิตอลจาก USA กล่าวว่า
“มีความเป็นไปได้ที่มากกว่า 90% ของความประทับใจนั้นขึ้นอยู่กับเรื่องของสี และนักการตลาดมักจะใช้สีบางสีในโลโก้ หรือโฆษณา เพื่อกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกของผู้คนจนนำไปสู่การ ‘ซื้อ’ ในที่สุด”
ทำไมต้องสีแดง?
สีแดงเกี่ยวข้องกับอัตราการเต้นของหัวใจที่ถี่รัวขึ้น และใช้เพื่อสร้างความรู้สึกเร่งด่วน และนี่คือเหตุผลที่คุณมักจะเห็น Tag สีแดงเด่นหลายบนป้ายลดราคา หรือการลดล้างสต็อกตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก็แดงเถือกตามๆ กันไป
อีกเหตุผลก็คือ เซลล์รับแสงในดวงตาของคนเราไวต่อแสงที่มีคลื่นยาวเป็นพิเศษ โดยเรื่องนี้ Bevil Conway นักประสาทวิทยาและศิลปินจาก “National Eye Institute” มองว่าเหตุผล หรือแรงจูงใจที่จะทำให้โลโก้เป็นสีแดง เพราะสีแดงเป็นสีที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด
Credit Image: PNGkey
และจากการศึกษาและวิจัยของนักวิจัยอีกหลายคน มีหลักฐานมากมายที่แสดงว่าสีแดงเป็นสีพิเศษ ซึ่งจากทุกสีทั่วทุกมุมโลก อาจจะกล่าวได้ว่า “สีแดง” เป็นสีที่เราใช้สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ทั้งนี้ สีสามารถเชื่อมโยงกับอารมณ์ทั้งด้านบวกและด้านลบ ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าบริษัทต่างๆ เลือกใช้สีกันอย่างไร
สีแดงอาจจะแสดงถึงความโกรธและก้าวร้าว หรือแม้แต่นำมาใช้ในการสั่งให้หยุดตามป้ายจราจรต่างๆ
แต่อีกนัยหนึ่งมันก็สามารถสื่อถึงเรื่องราวของความรัก ความยั่วยวน และวันวาเลนไทน์ ซึ่งแม้จะแฝงไปด้วยความหมายอะไรก็แล้วแต่ สีแดงก็มักจะโดดเด่นเป็นสง่าอยู่เสมอ
Image Credit: 99designs
เหตุใดอาหารจานด่วน (Fast-Food) จำนวนมากจึงเลือกใช้สีแดง มันมีนัยอะไรซ่อนอยู่?
นอกจากสีแดงจะดึงดูดความสนใจของเราแล้ว สีแดงยัง “กระตุ้นความอยากอาหาร” และ “ความหิว” อีกด้วย
โดย ณ เวลานั้น น้อยคนนักที่จะนึกถึงมัน เพราะคุณอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังถูกกระตุ้นด้วยสีแดงอยู่ มารู้ตัวอีกทีเราก็กำลังเดินไปสั่งอาหารที่เคาน์เตอร์ หรือไม่ก็กดสั่งผ่าน App ต่างๆ ไปแล้ว
ตัวอย่างของแบรนด์ร้านอาหาร อาหาร และเครื่องดื่มหลายแบรนด์ ที่เลือกใช้สีแดงก็เช่น McDonald's, Coca-Cola และ Kellogg's" หรือแม้แต่โลโก้ 7-Eleven ที่เราคุ้นเคยก็ยังมีสีแดงอยู่ในนั้นด้วยเหมือนกัน
Image Credit: BBC
โดยทั่วไปแล้วสีแดงมักจะถูกจับคู่สีกับสีเหลืองในโลโก้จำพวกอาหาร Fast-Food เพื่อเพิ่มความรู้สึก “มีความสุขและสบายใจ” ตามหลักจิตวิทยาสี
รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดบางคนถึงกับระบุว่าความสำเร็จของคู่สีแดงและสีเหลืองที่โดดเด่นนั้น เป็นเหมือน "Ketchup and Mustard Theory" (ทฤษฎีซอสมะเขือเทศและมัสตาร์ด) และด้วยการผสมผสานของสีสันที่สดใสอย่างลงตัวนี้ ก็ทำให้เรานึกถึงแต่เรื่องการกินและหิวโดยไม่รู้ตัว
Image Credit: Brands to life
แล้วมีสีอื่นๆ อีกไหมที่มีอิทธิพลต่อพวกเรา?
จริงๆ แล้วโลโก้ของแบรนด์อาหารจานด่วน หรืออาหารต่างๆ ก็ไม่ได้ใช้สีแดงและสีเหลืองเสมอไป ยกตัวอย่างเช่น โลโก้ Starbucks แบรนด์ที่มักจะพยายามสื่อสารตัวเองว่าเป็นแบรนด์ที่ดีต่อ "สุขภาพ" และ "เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม"
Image Credit: Youtube/Emma Lev
โดยการเลือกใช้สีเอิร์ธโทน เช่น สีเขียว ซึ่งให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้สีเขียวจึงกลายเป็นสีที่ได้รับความนิยมในหมู่บริษัทออร์แกนิก เช่น Whole Foods, Morning Star และ Tropicana
อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะไม่ค่อยเห็นสีน้ำเงินบนฉลากอาหารสักเท่าไร เนื่องจากสีน้ำเงินได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามันสามารถทำให้เราลดความอยากอาหารได้
โดยทั่วไปมันมักจะถูกนำไปใช้เป็นสีที่สื่อถึงประสิทธิภาพในการทำงาน และใช้เพื่อสร้างความรู้สึกไว้วางใจในแบรนด์นั้นๆ มากกว่า โดยโลโก้ที่มีสีน้ำเงินก็อย่างเช่น เช่น Ford, American Express และ Dell เป็นต้น
Image Credit: Signapps
ส่วนโลโก้ของแบรนด์ใดๆ ก็แล้วแต่ ที่มุ่งเป้ากลุ่มลูกค้าไปที่ผู้หญิง ก็มักจะเลือกหยิบจับเอาสีชมพูมาใส่ไว้บนโลโก้ของตนเอง เนื่องจากสีชมพูมีความเกี่ยวข้องมากที่สุดกับความเป็นผู้ญิ๋งผู้หญิง
รวมถึงผู้คนส่วนใหญ่มองว่าสีชมพูเป็นสีหวานๆ ซึ่งก็อาจจะเป็นสาเหตุที่เราได้เห็นสีชมพูบนโลโก้แบรนด์ของหวานต่างๆ
ซึ่งสีชมพูได้มอบความมีชีวิตชีวาและให้ความรู้สึกว่าแบรนด์นี้ "สนุกดีจัง” ตามที่แบรนด์ เช่น Dunkin' Donuts, Barbie, Victoria's Secret และ Baskin Robbins เลือกใช้สีชมพูบนโลโก้ของพวกเขา
Image Credit: Victoria's Secret
ในทางกลับกัน สีอย่างสีดำ และสีม่วงมักจะสื่อถึงข้อความที่จริงจัง สง่างาม และหรูหรากว่า โลโก้ที่ใช้สีเหล่านี้ พวกเขาต้องการให้คนรู้ว่าพวกเขามีชื่อเสียง
เพราะแบรนด์เหล่านี้เชื่อว่าการใช้สีสันสดใสไม่ได้สื่อถึงความพิเศษเฉพาะตัวของแบรนด์ ซึ่งแบรนด์เหล่านั้นรวมไปถึงโลโก้เช่น ABC, The New York Times, Gucci และ Prada
Image Credit: Prada
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญของโลโก้ไม่ใช่แค่เพียงว่าใช้สีอะไร หรือไม่ใช้สีอะไรเท่านั้น
แต่ควรจะต้องสามารถสื่อสารความเป็นตัวตนของแบรนด์ สร้างการรับรู้ และจดจำแก่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดน่าจะเป็นคำตอบมากกว่า
เพราะเมื่อถึงเวลาที่ลูกค้าคิดจะซื้อหรือใช้บริการอะไรสักอย่าง...แล้วโลโก้ของแบรนด์นั้นๆ ผุดเข้ามาในความคิดแรกได้แล้วละก็ แสดงว่าโลโก้ของคุณมาถูกทางแล้วละครับ
โฆษณา