30 ก.ค. 2021 เวลา 09:45 • การเมือง
สลิ่ม ในความทรงจำ
วันนี้คำว่า สลิ่ม กลายเป็นคำที่ถูกเหมารวมเกินกว่าขอบเขตเริ่มต้นที่คำนี้เกิดมาแรกๆ สลิ่ม นั้นจริงๆแล้วเป็นคำที่เกิดมาเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ที่มานั้นเอาไว้เรียกกลุ่มคนที่มาชุมนุมโดยการนำของ หมอตุลย์
เพราะหมอตุลย์มีแนวคิดว่ารวมกลุ่มคนไม่ว่าสีไหนที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มารวมกันได้หมด พูดง่ายๆคือแนวคิดนี้หวังดึงกลุ่มคนมีความคิดกลางๆทางการเมือง และไทยเฉยออกมาร่วมแสดงพลัง
แสดงพลัง เพื่ออะไร เพื้อออกมาต่อต้านกลุ่มคนเสื้อแดงที่ตอนนั้นคนกลุ่มหมอตุลย์ก็ด้อยค่าคนเสื้อแดง ว่า ควายแดง
ดังนั้น สลิ่ม คือ กลุ่มคนที่เป็นศัตรูกับคนเสื้อแดง นี่คือดั้งเดิม
แต่คำนี้พอใช้มาใช้ไปกลายเป็นไม่หยุดแค่นั้น แต่เป็นคำที่ด้อยค่าคนที่คิดเห็นไม่เหมือนตนเองละ นั่นหมายความว่าคนที่มีแนวคิดแต่ไม่ฝักใฝ่ทางการเมืองก็กลายเป็น สลิ่ม ในทันที
มันไม่ใช่และมันผิดปกติ จะเที่ยวเอาคำๆนี้ไปปาหัวคนที่ไม่คิดเหมือนตัวเองไม่ได้นะครับ เมื่อใดก็ตามที่คุณอยากพูดอะไรแล้วคิดว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้องของคุณ แต่คนที่รับฟังเขาไม่เห็นด้วยกับคุณ นั่นคือเขาแค่คิดไม่เหมือน จะผลักเขาเป็นศัตรูไม่ได้เรื่อง
ประโยคคลาสสิคที่เห็นบ่อยในช่วงนี้ " เอาซิโนแวคไปฉีดให้พวกสลิ่มเลย มันอยากฉีดกันนัก ฉีดๆมันไปจะได้ต่ยกันให้หมด"
คือมันไม่ใช่แบบนั้นนะครับ คนที่อยากฉีดวัคซีนคืแคนที่อยากฉีดวัคซีน ไม่ได้แปลว่าเขาต้องเป็นสลิ่ม เข้าใจซะใหม่
และถ้าใครบอกว่า ซิโนแวค ก็ใช้ได้ นั่นคือเขาก็อ่านวิจัยมาหลายๆที่และใช้ไปก่อนได้จริง ไม่ได้แปลว่า เขาเป็นสลิ่มเช่นกัน
เพราะคนที่โดนกล่าวหาว่าเป็นสลิ่ม ถูกเหยียดหยามถูกด้อยค่า เขาไม่ได้เป็นศัตรูกับคุณเลย
บางคนบอกว่า อับอายจังมีพ่อแม่เป็นสลิ่ม ลองเสิร์ชหาได้ครับ คือเอาจริงๆมันสังคมแบบไหนกับการที่ลูกต้องมาอับอายพ่อแม่ตัวเอง การที่คนในครอบครัวมีความเชื่อและความรักที่ต่างกัน ถึงกับต้องอายเหรอ ?
เราต้องตั้งคำถามกับคนกลุ่มนั้นว่า คุณมีอุดมการณ์หรือแค่ป่วย
มุมมองและเหตุผลหรือความรัก มันไม่มีทางเหมือนกันหรอกครับ ปรัชญา ศาสนา การเมือง มันไม่ใช่การคิดแบบ 1+1 เป็น 2 มันไม่ง่ายขนาดนั้น ดังนั้นมันไม่แปลกอะไรกับความต่าง
และจงจำไว้ครับ บางคนเขาแค่คิดไม่เหมือน แต่เขาไม่คิดจะเป็นศัตรู เมื่อมีมิตรเพิ่มไม่ได้ก็อย่าแบกศัตรูให้เต็มไหล่
โฆษณา