31 ก.ค. 2021 เวลา 01:14 • ประวัติศาสตร์
[วันนี้อยากเล่าเรื่อง...] ที่มาของชื่อเดือนภาษาอังกฤษเพราะๆทั้ง 12 เดือน
หนึ่งเดือนผ่านไปไวเหลือเกิน สิ้นเดือนเวียนมาอีกแล้วค่ะ
พรุ่งนี้ก็จะเริ่มต้นเดือนใหม่แล้ว วันสิ้นเดือนกับวันต้นเดือนจริงๆก็คือวันสองวันที่ต่อกันตามปกติแต่ที่ทำให้มันไม่ปกติคือการเปลี่ยนการใช้ชื่อเดือนใหม่
เคยสงสัยกันไหมคะ ว่าชื่อเดือนภาษาอังกฤษเพราะๆที่เราใช้กันหรือบางคนก็ใช้เป็นที่มาของการตั้งชื่อลูกชื่อหลานที่เกิดในเดือนนั้นๆมีที่มาที่ไปอย่างไร
วันนี้เรื่องที่อยากเล่าจึงเป็นเรื่องที่มาของชื่อเดือนภาษาอังกฤษทั้ง 12 เดือนค่ะ โดยผู้เขียนพยายามสรุปให้อ่านกันง่ายๆ ไปอ่านกันเลย😊👉
1
ชื่อเดือนภาษาอังกฤษที่เราใช้กันเป็นไปตามหลักสากลได้รับอิทธิพลมาจากชาวโรมันค่ะ
หลักฐานคือชื่อเดือนภาษาละตินที่ชาวโรมันใช้เรียกชื่อเดือนที่ยังใช้สืบทอดกันมาจนปัจจุบัน เช่น septem, octo, novem และ decem ที่แปลว่า 7, 8, 9 และ 10 ตามลำดับ พอจะเดากันออกไหมคะว่าเป็นชื่อของเดือนอะไรกันบ้าง
1
และหลักฐานนี้ยังบ่งบอกด้วยว่าแต่ก่อนปฏิทินชาวโรมันมีแค่ 10 เดือน และถ้านับย้อนไปเดือนที่เป็นเดือนแรกของปฏิทินไม่ใช่มกราคม แต่เป็นเดือนมีนาคม ซึ่งตรงกับเป็นช่วงที่มีเทศกาลเริ่มต้นปีของวัฒนธรรมโรมันแต่เก่าก่อนจริงๆ โดยแต่ละเดือนมีที่มาดังนี้ค่ะ
1. Martius 👉 March (มีนาคม) หมายถึงเทพเจ้า “Mars” เทพแห่งสงคราม โดยมีนัยยะถึงการเริ่มต้นปีที่ดีเพื่อการทำสงครามขยายอาณาจักรของชาวโรมัน
2. Aprilis 👉 April (เมษายน) มาจากรากศัพท์ภาษาละตินว่า “Aperire” ที่หมายถึง เปิด หรือ ผลิดอกออกผล เป็นการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ หรืออีกความเชื่อหนึ่งคือมาจาก“Apru” ซึ่งเป็นชื่อของเทพีแห่งความรักในภาษาของชาวอิทรูเรีย
3. Maius 👉 May (พฤษภาคม) มาจากชื่อเทพธิดากรีกนามว่า "Maia" (ไมอา) ซึ่งเป็นเทพแห่งการเจริญเติบโตและความอุดมสมบูรณ์
4. Junius 👉June (มิถุนายน) มีที่มาจากเทพเจ้าโรมันนามว่า “Juno” หรือ “Hera” เป็นเทพธิดาแห่งการแต่งงานและคู่บ่าวสาว อีกความเชื่อหนึ่งเชื่อว่ามาจากคำว่า “Juveins” ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาละตินว่า “Iuniore” แปลว่า “หนุ่ม” หรือ “วัยรุ่น”
1
5. Quintilis ภาษาละตินหมายถึง เดือนที่ห้า แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น July (กรกฎาคม) เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ "Julius Caesar" จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรโรมัน
6. Sextilis ภาษาละตินหมายถึง เดือนที่หก แต่ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น August (สิงหาคม) เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ “Augustus Caesar” จักรพรรดิของชาวโรมันอีกคน
1
7. Septem 👉 September ภาษาละตินหมายถึง เดือนที่เจ็ด
8. Octo 👉 October ภาษาละตินหมายถึง เดือนที่แปด
9. Novem 👉 November ภาษาละตินหมายถึง เดือนที่เก้า
10. Decem 👉 December ภาษาละตินหมายถึง เดือนที่สิบ
📍โดยคำว่า -ber ที่ลงท้าย 4 เดือนท้าย มีการสันนิษฐานว่าเพี้ยนมาจาก “-bris” ถ้าสังเกตในภาษาฝรั่งเศสจะใช้ -bre ลงท้ายทั้ง 4 เดือน ก่อนจะสืบทอดมาเป็น -ber ในภาษาอังกฤษจนปัจจุบัน
😮❕แล้วเดือนมกรา กุมภา หายไปไหน!!?
สมาชิกสองเดือนนี้อย่าเพิ่งน้อยใจค่ะ ทั้งสองเดือนมาช้าแต่ถูกแซงคิวมาเป็นสองเดือนแรก โดยมีที่มาจากตำนานที่เล่าต่อๆๆกันจนไม่รู้เลยว่าจริงแท้แน่นอนอย่างไรเล่าว่า เมื่อ 2,700 ปีที่แล้วในยุคที่ นูมา ปอมปิลิอุส (Numa Pompilius) เป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 2 แห่งโรม ได้สถาปนาเดือนขึ้นใหม่อีกสองเดือน ในช่วงฤดูหนาว คือ
1. Januarius 👉 January (มกราคม) มีที่มาจากชื่อของเทพเจ้า “Janus” ตามตำนานเทพปกรณัมของชาวโรมันซึ่งเป็นเทพผู้ควบคุมจักรวาล เป็นเทพแห่งการเริ่มต้นและการเปลี่ยนผ่าน จากเก่าไปใหม่ จากอดีตสู่อนาคต จากสิ่งที่ผ่านไปแล้วกับสิ่งที่กำลังจะเกิด (ช่างเหมาะกับการเป็นเดือนแรกจริงๆ🤔)
2. Februarius 👉 February (กุมภาพันธ์) มาจากชื่อเทพปกรณัมของชาวโรมันชื่อว่า “Februus” ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความตายและความบริสุทธิ์ เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย และนำความอุดมสมบูรณ์เข้าสู่เมืองในช่วงก่อนขึ้นปีใหม่(ซึ่งก็คือเดือนมีนาคมที่เป็นเดือนแรกในรูปแบบเก่านั่นเองค่ะ)
จากการเพิ่มสองเดือนใหม่ทำให้เดือนมีนาคมที่เคยเป็นเดือนแรกของปฏิทินถูกเลื่อนไปเป็นเดือนที่สาม เดือนธันวาคมที่มีความหมายว่าเดือนที่สิบก็ถูกเลื่อนเป็นเดือนที่สิบสองอย่างที่ใช้กันในปัจจุบัน
💬อ่านจบแล้วมีความคิดเห็นอย่างไร สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้เสมอเลยนะคะ
ขอบคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ..ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีสุขขีตลอดวันนะคะ 😊🙏🏼
โฆษณา