Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฟรี สไตล์ Free style
•
ติดตาม
30 ก.ค. 2021 เวลา 14:27 • การศึกษา
คำว่า "ชีวิต" สำหรับหลายๆ คนคงนิยามความหมายที่แตกต่างกันออกไป คำว่า "ชีวิต" บางคนอาจให้ความหมายในทางที่ดีหรืออาจจะให้ในทางลบ เช่น ชีวิตคือการให้ ชีวิตคือการเดินทาง ชีวิตคือการได้รับ ชีวิตคือครอบครัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแสดงถึงตัวตนของคนเราทั้งสิ้น
ชีวิต คืออะไร เราเกิดมาเพื่ออะไร เราต้องการสิ่งใด คุณค่าของคนเราคืออะไร คุณค่าของชีวิตคืออะไร มีคำถามต่างๆมากมายหลั่งไหลเข้ามาภายในความคิดของเรา เราต่างมีคำตอบที่แตกต่างกันออกไป ให้ความหมายที่แตกต่างกันออกไป นี้แหละเรียกว่า "ชีวิต"
สิ่งมีชีวิตที่เกิดมาบนโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่มีความรู้สึกนึกคิดที่แตกต่าง แม้แต่รูปร่างหน้า สีผิว ดวงตา ลายนิ้วมือ เป็นต้น รวมทั้งสิ่งชีวิต อื่นๆ เช่น ต้นไม้( ใบหญ้า สัตว์รวมถึงจุลินทรีย์ที่มีขนาดเล็ก ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เรามาเข้าเรื่องเลยดีกว่า
คนเราเกิดมาตอนเด็กยังจิตใจบริสุทธิ์ขาวสะอาด แต่พอเริ่มรู้เรื่องเริ่มสื่อสารได้ เริ่มเข้าใจสิ่งเร้าสิ่งแวดล้อมแต่ๆ ก็เริ่มมีความคิด ที่โดนพ่อแม่และคนรอบข้างปลูกฝังมาต่างๆ นานา บ้างคนโชคดีอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่คนคอยสนับสนุน และเข้าใจในตัวตนของเรา แต่ก็มีอีกหลายคนที่โดนกีดกัน โดนด่าว่า อยู่ในสภาพแวดล้อมที่คนรอบข้างไม่เข้าใจ จึงเกิดเป็นปมด้อยของคนเหล่านั้น แต่เราก็ยังเลือกเส้นทางที่จะไปต่อได้ เพราะเราทุกคนล้วนแล้วแต่มีเป้าหมาย มีความฝัน มีพรสวรรค์ มีทักษะที่แตกต่างกันออกไป
มีพ่อลูกอยู่คู่หนึ่งอาศัยอยู่ด้วยกัน วันหนึ่งเด็กชายผู้เป็นลูกได้ถามกับพ่อของเขาว่า "คุณค่าของชีวิต" คืออะไร พ่อไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับบอกลูกชายของเขาว่า (พ่อ:ลูกลองไปเก็บก้อนหินมาหนึ่งก้อน แล้วนำไปขายที่ตลาดแล้วถ้ามีคนถามซื้อลูกไม่ต้องตอบแต่ให้ชูสองนิ้ว) ลูกชายลองทำตามที่พ่อบอกด้วยความสงสัยจากนั้นเขาก็นำหินก้อนนั้นไปขายที่ตลาด พอสักพักก็มีชายผู้หนึ่งเดินเข้ามาถามซื้อหินกับเขา แต่เขาก็ได้ทำตามที่พ่อบอก เขาชูสองนิ้ว ชายที่มาถามซื้อเห็นดังนั้นก็เลยถามว่าเธอจะขายให้ฉันในราคา ยี่สิบบาทหรอ แต่เขาก็ไม่ได้ตอบแล้วก็นำหินกลับบ้านไป พอถึงบ้านเขาก็บอกพ่อว่า (ลูกชาย:พ่อครับวันนี้ผมทำตามพ่อบอก มีคนมาถามซื้อหินในราคา ยี่สิบบาทครับ) พ่อได้ยินดังนั้นก็เลยบอกลูกชายไปอีกว่า (พ่อ:พ่ออยากให้ลูกนำหินนี้ไปที่พิพิธภัณฑ์หน่อยพอมีใครถามซื้อลูกก็ไม่ต้องอะไร แต่ให้ชูสองนิ้วเหมือนเดิม) พอรุ่งขึ้นเขาก็ทำตามที่พ่อบอกอีกครั้ง เขานำหินไปที่พิพิธภัณฑ์ และแล้วก็มีผู้หญิงเดินเข้ามาถามซื้อ ผู้หญิงถามกับเด็กชายว่าหินก้อนนี้ราคาเท่าไร แต่เด็กชายกับเงียบแล้วชูนิ้วขึ้นสองนิ้ว ผู้หญิงคนนั้นจึงตอบกับไปว่าเธอจะขายให้ฉันในราคาสองร้อยหรอ ฉันซื้อ เด็กชายไม่ได้พูดอะไรและรีบกลับบ้าน พอถึงบ้านเขาก็ได้เล่าเรื่องราวให้พ่อเขาฟัง พ่อได้ยินดังนั้นจึงตอบกลับไปว่า (พ่อ:พรุ่งนี้ให้ลูกนำหินก้อนนี้ไปขายที่ร้านอัญมณี) รุ่งขึ้นเด็กชายก็นำหินก้อนนั้นไปที่ร้านอัญมณีตามที่พ่อบอก เขาเดินเข้าไปในร้านพร้อมกับถามคนขายว่า ผมอยากจะขายหินก้อนนี้ คนขายอัญมณีส่องดูก็ได้ถามเด็กน้อยโดยความสงสัยว่าไปเอาหินนี้มาจากไหน เธอจะขายมันเท่าไร เด็กชายไม่ได้ตอบอะไรแต่กับชูสองนิ้วขึ้นเหมือนเดิม คนขายอัญมณีเห็นเช่นนั้นก็ได้บอกว่าสองแสนหรอ คนขายตอบตกลง แต่เด็กชายคนนั้นก็รีบนำหินก้อนนั้นวิ่งกลับบ้านไปเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้พ่อเขาฟัง
ลูกได้เห็นในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วว่า คุณค่าของหินก้อนนั้นเมื่ออยู่ถูกที่ถูกทาง มีคนเห็นคุณค่า ราคาและคุณค่าย่อมจะแตกต่างกันเปรียบเสมือนกับ "คุณค่าของชีวิต" ถึงแม้เราจะอยู่ผิดที่ ผิดทาง อยู่ที่สภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ แต่ถ้าเราเลือกเส้นทางที่ดี พาตัวเองออกมา หาสิ่งใหม่ๆ เจอผู้คนใหม่ๆหาประสบการณ์ใหม่ๆ แน่นอนเราย่อมเป็นเพชรเม็ดงามในสายตา คนที่เห็นแวว เห็นคุณค่าในตัวเราแน่นอน
ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน
ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน
อยากฝากให้กับผู้ที่อ่านจนมาถึงจุดนี้ อย่าประเมินค่าของชีวิตของตัวว่าต่ำต้อย อย่าต้องคอยวาสนานั้นมาหนุน อย่าได้รอแต่ผู้อื่นนั้นมาจุน จงค้ำจุนตัวเราด้วยความดี
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย