30 ก.ค. 2021 เวลา 16:14 • กีฬา
ย้อนรอยเส้นทางของน้องเมย์ ในโอลิมปิก ทั้ง 3 ครั้ง
กว่า 69 ปีที่ประเทศส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก มีเพียง 3 ชนิดกีฬาเท่านั้น ที่นักกีฬาไทยประสบความสำเร็จ สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาได้ นั่นคือ
มวยสากล ยกน้ำหนัก และเทควันโด
คนไทยที่ติดตามโอลิมปิก ต่างเฝ้ารอว่า กีฬาชนิดใด จะก้าวขึ้นมาเป็น ชนิดกีฬาที่ 4 จะจะมาคว้าเหรียญ
แบดมินตัน คือหนึ่งในชนิกีฬาที่คนตั้งความหวังนั้น เพราะนักกีฬาหลายคนทำผลงานได้อย่างดีในทัวร์นาเมนต์อาชีพ รวมทั้งสามารถคว้าโควต้าเข้ามาแข่งได้จำนวนหลายคน
แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกๆ 4 ปี ในโอลิมปิก ก็ไม่ได้เหรียญสักที ทำสถิติดีที่สุดในปี 2004 เอเธนส์เกมส์ ประเทศกรีซ
ที่ "พี่แมน บุญศักดิ์ พลสนะ" สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ก่อนจะไปแพ้นักแบดจากอินโดนีเซีย จนได้เพียงอันดับที่ 4 ไม่มีเหรียญรางวัลกลับบ้านมาฝากคนไทย
วันเวลาผ่านไป จากปี 2004 มาจนโอลิมปิก 2012 ลอนดอนเกมส์ สหราชอาณาจักรวงการแบดมินตันก็ได้มีดาวดวงใหม่เกิดขึ้น นั่นคือ"น้องเมย์"
ในตอนนั้น "เมย์" เป็นสาวน้อยนักแบดอายุ เพียง 16 ปี ที่มีผลงานสร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์เยวชนชิงแชมป์โลก 3 สมัยติด
ในรอบแบ่งกลุ่ม เมย์ อยู่ รวมสายกับ นักแบดมินตัน จาก"โปรตุเกส" และ "ศรีลังกา" ซึ่งก็ไม่ใช่งานยาก เพราะ เมย์สามารถเอาชนะ นักแบดทั้งสองคน ได้ 2 เกมรวด ก่อนจะผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้าย
ในรอบ 16 คน สุดท้าย โอลิมปิก 2012 เมย์ต้องมาเจอกับ คู่ต่อสู้ที่ตัวเองไม่เคยเอาชนะได้เลย นั่นคือ "Juliane Schenk" จากเยอรมัน
ในเกมแรก น้องเมย์ เอาชนะ ไปได้ 21-16 และเกมที่ 2 เมย์ก็ยังทำผลงานได้ดี จนเอาชนะไปได้ 21-15 ทำให้เธอดีใจจนร้องไห้ออกมา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ชนะนักแบดจากเยอรมันคนนี้
และเราก็ได้เห็น สปิริตนักกีฬาของ Juliane หลังจบเกมเธอเดินมาปลอบน้องเมย์ที่กำลังร้องไห้ ด้วย
มาถึงรอบ 8 คน
เมย์ ต้องมาเจอศึกหนัก นักแบดจากจีน "Wang xin"
เปิดเกมแรก ทั้งสองคน ผลัดกันตาม ผลัดันนำ แต่ก็เป็นน้องเมย์ที่ทำได้ดีกว่า เอาชนะไปได้ 21-17 ทำให้คนไทยใจชื่น ว่าเราจะได้เห็นนักแบดไทยเข้ารอบรองอีกครั้ง ต่อจากพี่แมน
เปิดมาเกมที่ 2 น้องเมย์ ทำแต้มนำห่างไป 5-0 ก่อนจะโดนไล่มาเป็น 7-6
แต่เมย์ก็ยังทำแต้มนำตลอด จนนำห่าง 16-9 ก่อนจะโดน Wang xin ไล่ตาม จนพลิแซง ชนะ 21-18
พอขึ้นเกม 3 จุดอ่อนน้องเมย์ในตอนนั้นก็ปรากฏขึ้น นั้นคืเรื่องของพละกำลัง
ทำให้เกมนี้ ""Wang xin" ได้ไป และชนะในแมตซ์นี้
หลังจบเกมน้องเมย์ได้คุณโทรศัพท์กับพ่อแม่ ก่อนจะบอกว่ารู้สึกเสียดาย และตั้งเป้าว่าอีก 4 ปี จะกลับไปเอาแชมป์
4 ปี ผ่านไป ริโอเกมส์ โอลิมปิก 2016 เปิดฉากขึ้น
น้องเมย์กลับมาครั้งนี้ ด้วยความหวังของคนไทยอีกครั้ง พร้อมกับดีกรีมือวางอันดับ 1 ของโลก
การเป็นมือหนึ่งถึงแม้จะทำให้มั่นใจว่าจะสามารถทำผลงานได้ดี แต่ขณะเดียวกัน มันก็ทำให้เธอกดดัน
ในรอบแรก เมย์อยู่ร่วมกลุ่มกับ นักแบดจาก เอสโตเนีย และฮ่องกง ซึ่งก็ไม่มีปัญหา เธอสามารถเอาชนะ จนผ่านเข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่ม ผ่านเข้าไปเล่นรอบ 16 คนสุดท้าย
ในรอบ 16 คน เมย์ ต้องมาพบกับ "อากาเนะ" นักแบดจากญี่ปุ่น ซึ่งในตอนแรก กองเชียร์ไทยก็วางใจว่าเมย์จะผ่านรอบนี้อย่างง่ายดาย ด้วยผลงาน 3 แชมป์ ก่อนที่จะมาแข่งโอลิมปิก ครั้งนี้
แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้น ด้วยความเหนี่ยวของอากาเนะ และการเล่นได้ไม่ตามฟอร์มของตัวเองทำให้ เธอแพ้ไป 2 เกมรวด ตกรอบ 16 คน
โอลิมปิก ครั้งนี้ จึงเป็นโอลิมปิกครั้งที่ 3 ของน้องเมย์
"เมย์ รัชนก" ผ่านเข้ารอบ มาจนถึงรอบที่เคยทำได้ ตอนโอลิมปิก 2012 นั่นคือรอบก่อนรองชนะเลิศ พบกับนักแบดจากไต้หวัน "Tai zhi ying" มือวางงอันดับ 1 ของโลกในปัจจุบัน
เมย์ รัชนก ได้เกมแรกไปก่อน 21-14 และทำได้ดีในเกมที่ 2 ก่อนจะเริ่มผิดพลาด ทำให้เสียเกมนี้ไป 18-21 ต้องตัดสินกันในเกมที่ 3
ในเกมสุดท้าย เมย์ รัชนก และ ต่าย งัดทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งฝีมือ ประสบการณ์ และความแข็งแกร่ง โดยมีช่วงสำคัญที่เมย์ รัชนก พลิกแซงขึ้นนำได้แล้ว แต่สุดท้ายมาพลาดช่วงท้าย ทำให้พ่ายไป 18-21 ตกรอบก่อนรองชนะเลิศอย่างน่าเสียดาย แต่ชนะใจคนไทยทั้งประเทศ
โฆษณา