30 ก.ค. 2021 เวลา 23:44 • ปรัชญา
ปีศาจศึกษา ...ซาตาน ลูซิเฟอร์ ไซฎอน ญิณ และวิญญาณ
ตอน ...การสิงสู่ และการขับไล่ปีศาจ
เมื่อปีศาจจะสิงสู่มนุษย์สักคน มันต้องการอะไร
1...เพื่อครอบงำชักจูงให้มนุษย์เห็นผิดกลายเป็นถูกและเห็นถูกกลายเป็นผิด
2...เพื่อหยอกยั่ว กลั่นแกล้ง และกระทำหายนะให้เกิดกับคนที่มันสิงเพื่อความสนุกสนองต่อความชั่วร้ายของมันเอง
3...มันโกรธแค้นมนุษย์เพราะมนุษย์เคยทำร้ายหรือเบียดเบียนมันโดยที่มนุษย์คนนั้นไม่รู้สึกตัว (ในกรณีหลัง ข้อ 3 นี้ อาจอธิบายให้สอดคล้องกับความเชื่อเรื่องเจ้ากรรมนายเวรของไทยได้)
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าปีศาจสิงสู่มนุษย์
1.ผู้ถูกสิงสู่จะมีอาการเหม่อลอย ขาดการควบคุมตนเอง ไม่สามารถควบคุมการร้องไห้ ความโกรธ ความคลุ้มคลั่งได้ หรือพูดอะไรที่ไม่ได้อยากพูดออกมา แสดงพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับลักษณะนิสัยเดิมออกมาโดยไม่สามารถควบคุมตนเองได้เลย
2.ความผิดปกติเกี่ยวกับการนอน คนที่ถูกสิงสู่จะมีอาการนอนไม่หลับ เมื่อหลับก็ฝันร้าย ฝันว่าตกจากที่สูงหรือต้องเปลือยกาย ฝันถึงความกลัวและความน่าอับอาย ฝันว่ากำลังตกอยู่ในการประทุษร้าย หรือมีอันตรายที่ทำให้สะดุ้งตื่นจนขยาดการนอนหลับไปโดยลึกๆ เมื่อร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนเพียงพอในตอนกลางคืน พอกลางวันก็มีอาการง่วงเหงาหาวนอน อ่อนเพลีย และทำให้การงานของคนผู้นั้นมีความผิดพลาด เมื่อขับรถออกจากบ้านก็เสี่ยงอันตราย คนผู้ใดที่นอนน้อย จิตใจเริ่มฟุ่งซ้านและวิตกกังวล วินัยในการทำดีจะเริ่มหย่อนคล้อย ใครจะรู้ว่า...แค่นอนไม่หลับคืนเดียว อาจส่งผลให้เกิดหายนะต่อชีวิตอย่างคาดไม่ถึง
3.ความผิดปกติทางร่างกาย บางคนรู้สึกปวดเมื่อย เจ็บ มือเท้าเปื่อย บวม หรือเป็นฝีหนองตามส่วนต่างๆของร่างกาย เมื่อไปหาหมอก็ไม่มีหนทางรักษา หรือหมอให้ยามาเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหายจากอาการเจ็บป่วยนั้นได้เพราะว่ายังไม่พบสาเหตุของอาการเจ็บป่วยที่แท้จริง เชื่อกันว่าปีศาจได้สิงสู่อยู่ตามอวัยวะเหล่านั้น และบีบคั้นกลั่นแกล้ง ผู้หญิงบางคนมีประจำเดือนมามากผิดปกติไม่ยอมหายขาดเสีย คนชราบางคนรู้สึกปวดที่ส้นเท้าจนเดินไม่ไหว และบางคนตื่นมาพร้อมรอยฟกช้ำดำเขียวตามร่างกายทั้งที่ไม่ได้ไปกระแทกอะไรมาด้วยซ้ำ เมื่อร่างกายเจ็บป่วย จิตใจก็ห่อเหี่ยวตามไป นั่นเป็นความสนุกและสะใจของปีศาจ
การขับผี หรือ การไล่วิญญาณร้ายออกจากร่าง
มนุษย์มักหาวิธีการขับญิณออกด้วยวิธีที่ผิด ด้วยการทรงเจ้าเข้าผี บนบานศาลกล่าว การไปเอาของออก กรีดร้อง ทุบตีตนเอง อาละวาด คลุ้มคลั่ง สำแดงตนเหมือนคนคุ้มดีคุ้มร้าย ซึ่งไม่ได้ทำให้ ญิณ ออกจากร่างแต่กลับทำให้มันทรงพลังมากขึ้น
คัมภีร์อัลกุรอานกล่าวถึง วิญญาณ ที่เข้าสิงสู่มนุษย์ว่าคือ ญิณ เรียกกันง่ายๆก็คือ ผี ที่อาศัยอยู่ร่วมกับเราในโลกมนุษย์นี้เอง เพียงแต่เรามองไม่เห็นพวกเขา การไล่ญิณออกจากร่างเพียงมีศรัทธา รำลึกถึงพระอัลเลาะฮ์ และข้อพระคำ มีศรัทธา และมีปัญญารู้เท่าทันว่านั่นเป็นเพียงกลอุบายของมารเท่านั้น ไม่หลงเคลื่อนลิ้น ร่างกาย และจิตใจไปตามการชักใยของมัน
ในคริสตธรรมกล่าวว่า ปีศาจมีความริษยามนุษย์ ทั้งที่มนุษย์เคยตกอยู่ใต้อำนาจมันจากกลอุบายของมันนับแต่วันที่เด็ดแอ็ปเปิ้ลลูกแรกจากสวรรค์ เมื่อมันสูญเสียอำนาจต่อมนุษย์มันจึงต้องหาทางที่จะเอาชนะพวกเขาอีกครั้ง ด้วยการดลใจหรือเข้าสิงเพื่อให้มนุษย์กระทำสิ่งที่ชั่วร้ายต่อตนเอง และต่อคนอื่น หากแต่ถ้าในจิตใจของมนุษย์ พระวิญญาณบริสุทธิ์หรือพระผู้เป็นเจ้าแตะต้องใจของคนผู้นั้นอยู่ มารก็ไม่อาจเข้ามาสถิตได้ หากมารได้ล่วงล้ำเข้ามาในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ข้างในใจลึกของบุคคลซึ่งยกให้เป็นที่สถิตของวิญญาณแล้ว ขอเพียงกล่าวว่า… “ปีศาจ จงออกไปจาก…. (ชื่อบุคคลที่ถูกสิง) ในนามของพระเยซู ขอได้โปรด…. (สิ่งที่ต้องการให้ปีศาจ)ทำ” ด้วยใจที่เต็มไปด้วยศรัทธา จากนั้นจึงตื่นขึ้น มีสติ พูดจาดีขึ้น และกลายเป็นคนใหม่ ที่มีศักดิ์ศรีดังเดิม
เช่นเดียวกัน พระไตรปิฏก เล่มที่ 27 หรือพระสุตตันตปิฏกเล่มที่ 18 กล่าวว่า “ยักษ์ก็ดี ปีศาจก็ดี เปรตก็ดี โกรธเคืองแล้วย่อมเข้าสิงมนุษย์ได้” แต่ “ธรรมแลย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม” หมายความว่าถ้าจิตใจของคนผู้นั้นมีความบริสุทธิ์ ปีศาจหรือภูติผีตนใดย่อมไม่อาจทำอันตรายพวกเขาได้
การขับผี การไล่่ญิณ หรือวิญญาณร้าย นั้นได้ทำง่ายกว่าที่เราคิด แค่กลับมาจิตใจที่ระลึกถึงความดีงาม ชำระล้างตนด้วยความดีงาม และนึกถึงจิตวิญญาณที่มีสันติสุข มีเมตตา มีระเบียบ และสงบเงียบ ก่อความสุขที่เย็นลึกประหลาดล้ำ ที่สถิตอยู่ในตัวเรา วิญญาณร้ายก็ไม่อาจกร้ำกรายเข้ามาได้ ตั้งแต่ปัจจุบันไปจรดถึงอนาคตอันไกล

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา