31 ก.ค. 2021 เวลา 02:47 • ปรัชญา
ปีศาจศึกษา ...ซาตาน ลูซิเฟอร์ ไซฎอน ญิณ และวิญญาณ
ตอน ... มหาปีศาจและบาป 7 ประการ
ความเชื่อเกี่ยวกับบาป 7 ประการ (7 Deadly Sins) กล่าวว่าบาปทั้ง 7 มีจอมมาร 7 ตน เป็นผู้ถือครองและมีอำนาจสูงสุด อาจกล่าวแบบง่ายๆว่าจอมมารในแต่ละแผนกมีหน้าที่รับผิดชอบบริหารบาปของตนเอง
 
จอมมารจะส่งเจ้าหน้าที่แยกย่อยในปกครอง ไปยังมนุษย์และทำหน้าที่ในการล่อลวงและดลใจเขาเหล่านั้น ให้มาทำบาปให้มากที่สุด จุดประสงค์คือเขาผู้นั้นจะได้ลงนรก เพื่อประหยัดพื้นที่จัดสรรในแดนสวรรค์ที่มีอยู่อย่างจำกัด
บาปประการที่ 1 ความเย่อหยิ่ง ผู้รับผิดชอบมีชื่อว่า ลูซิเฟอร์ (Lucifer) บาปที่ร้ายแรงที่สุดในบาปทั้งหมด เพราะมันเป็นบาปที่มาพร้อมกับสัญชาตญาณการดำรงชีวิตของเรา บาปที่หลอมละลายอยู่ในสายเลือดของเราและขับเน้นให้เกิดความต้องการต่างๆ ทั้ง รัก โลภ โกรธ หลงตามมา
บาปแห่งอัตตาตัวตน ความรู้สึกว่ามีตัวเราอยู่ ความรู้สึกว่าต้องรักษา บำรุงบำเรอ และนำพาตัวเราไปสู่สิ่งที่ดี ในแง่หนึ่งมันเป็นวิวัตนาการการดิ้นรนเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น แต่ในอีกแง่ มันทำให้เราหลงลืมสัจธรรม แท้จริงเราเป็นเสียงสสารที่มาประกอบรวมกัน และความเป็นตัวตนนั้นเป็นมายาภาพที่ถูกสร้างขึ้นในภายหลัง บาปตนนี้ละยาก และสังเกตเห็นยากที่สุด มันไม่ได้อยู่แค่ในคนหลงตัวเอง คนที่เย่อหยิงจองหอง คนที่มีรูปลักษณ์งดงาม มันดำรงอยู่แม้ในคนยากจน คนอัปลักษณ์ แม้แต่ในคนที่ถ่อมตนที่สุด ประพฤติคล้ายนักบวชที่สุดก็ยังไม่อาจหนีพ้นอิทธิพลของลูซิเฟอร์ได้
บาปประการที่ 2 ความโลภ ผู้รับผิดชอบมีชื่อว่า แมมม่อม (Mamon) การกักตุน สะสมทรัพย์สิน การไม่แบ่งปันข่าวสารที่อาจส่งผลประโยชน์ต่อผู้อื่น แต่เก็บไว้กับตนและพรรคพวกไว้เพียงผู้เดียว
ในช่วงเวลาโรคระบาดปี 2021 เราจะเห็นปีศาจตนนี้ชัดเจนและแจ้งจัดกว่าปีศาจตนอื่น จากการเห็นผู้คนกักตันโควต้าสำหรับฉีดวัคซีน การกักตุนยารักษาโรคสถานรักษาพยาบาลและเตียงไว้สำหรับคนที่ร่ำรวยที่มีค่าตอบแทนให้เท่านั้น เป็นต้น
บาปประการที่ 3 ความอยากในกาม ผู้รับผิดชอบมีชื่อว่า อัลโมเดียส (Asmodeus) ความต้องการทางเพศ เป็นโปรแกรมพื้นฐานที่ถูกตั้งมาในตัวเราอัตโนมัติ นอกจากการเอาตัวรอดแล้ว sex คืออีกอย่างที่ยากจะหนีให้พ้นหากชีวิตยังอยู่ในช่วงวัยเจริญพันธ์
เมื่อสมองสั่งให้ฮอโมนส์ทำงาน ฮอโมนส์ทำให้เราเกิดแรงขับทางเพศ แรงขับนั้นออกมาในรูปแบบของการ แต่งตัว หรือการไม่แต่งตัวก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ของการเรียกร้องความสนใจจากเพศตรงข้าม
สังเกตแรงขับตัวนี้ง่ายๆ จากการโพสรูปลงในโซเชียล การทักหาคนที่ชอบทางไลน์ การไปกดถูกใจคนหน้าตาดีในโลกออนไลน์ การเลื่อนฟีดไปเรื่อยๆ และกดหัวใจเมื่อเห็นเรือนร่างที่งดงามชวนให้ปรารถนาของดารา ไอดอลที่ชื่นชอบ
ทุกอย่างล้วนเป็นขั้นต้นของแรงขับทางเพศที่เราไม่ตระหนักว่ามันมีอยู่ แทบทุกขณะของการดำเนินชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่ไม่อาจหลีกเร้น มารจะเริ่มจากการหย่อนเบ็ดชิ้นเล็กๆมาให้เราตะครุบ แล้วล่อด้วยชิ้นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ความผิดศีลธรรมทางเพศคือเป้าหมายสูงสุดของอัลโมเดียสเพื่อล่อให้มนุษย์เกิดแรงปรารถนาจนหลุดการควบคุม จากกรอบศีลธรรม หรือขอบเขตที่ตั้งไว้ นำไปสู่การทำลายครอบครัวของตัวเอง และผู้อื่น นำสู่การทรยศหักหลังอันเลวร้ายภายใต้การหลอกตัวเองว่ามันคือความรัก
บาปประการที่ 4 ความอิจฉาริษยา ผู้รับผิดชอบมีชื่อว่า เลเวียธาน (Leviathan) บาปที่หลีกเลี่ยงได้ยากจากการอยู่ในสังคมที่หลอกลวง สร้างภาพผ่านรูปเพียงไม่กี่ช็อต และโอ้อวดความสำเร็จเพื่อข่มทับกันตลอดเวลา การพิมพ์ด่าหรือตำหนิบุคคลสาธารณะในเฟซบุคส์ การพูดลับหลังถึงความไม่ดีของผู้อื่น แม้จะไม่ได้รู้สึกว่าอิจฉาเพราะผู้นั้นไม่ได้มีอะไรที่เราอยากได้ การนินทาถูกใช้เป็นมาตรฐาน การตั้งกรุ๊ปไลน์เฉพาะกิจเพื่อนินทาเจ้านาย หรือผู้ร่วมงาน
บาปประการที่ 5 ความตะกละ ผู้รับผิดชอบมีชื่อว่า เบลซิบับ (Beelzebub) ความตะกละนั้นเชื่อมโยงกับบาปแห่งการเอาชีวิตรอด และความโลภ แน่นอน...คนเราต้องกินเพื่อให้มีชีวิตรอด ในเวลาที่ความหิวเข้าครอบงำเราคิดอะไรแทบไม่ออก เราสามารถฆ่าคนเพื่ออาหารได้ถ้าเราต้องอดข้าวเพียงแค่ 3 วัน หรือบางคนแค่ขาดน้ำตาลในกระแสเลือดไปเพียง 2-3 ชั่วโมง ก็อาจหงุดหงิด กระฟัดกระเฟียด หรือวีนแตกได้
สำหรับความโลภนั้นเป็นอะไรที่แตกต่างออกไปจาก การกินเพื่อให้อยู่รอด แต่ความโลภนั้นคือการกินแม้ไม่ได้หิว ความตะกละไม่ใช่การกินจนท้องแตกตายเหมือนในนิทานชาดกเรื่องพระเวสสันดร หากแต่ความตะกละคือส่วนผสมระหว่างการกินเพื่อให้มีชีวิตรอดกับความโลภ
อาจกล่าวได้ว่า ความโลภและอัตตา เป็นนายของความตะกละอีกที การอยากกินอาหารมากขึ้น (เห็นได้จากร้านบุฟเฟต์ที่เปิดขึ้นเป็นดอกเห็ด) อาหารที่อร่อยขึ้น (ทำไมคนเราต้องตามล่าร้านอาหารที่ติดดาวมิชลิน หรือยอมรอคิวสักครึ่งวันเพื่อให้ได้ทานร้านอาหารในตำนาน) และอยากในอาหารที่งดงาม (นั่นคือจุดกำเนิดของวัฒนธรรมการถ่ายรูปก่อนทาน)
กล่าวได้ว่าคนเรา...ถูกความตะกละเข้าครอบงำได้ง่ายกว่าที่เราคิด และเพราะความตะกละนี่เอง ที่ทำให้ ความอ้วน กลายเป็นปัญหาความงามอันดับ 1 ที่ติดอยู่ในใจผู้หญิงทั่วโลก
บาปประการที่ 6 ความเกียจค้าน ผู้รับผิดชอบมีชื่อว่า เบลฟิกอร์ ( Belphegor ) ความรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ความอยากที่จะนอนทั้งวัน ความอยากที่จะหลีกหนีจากหน้าที่ความรับผิดชอบในชีวิตประจำวันคือ กับดักขั้นต้น ที่เบลฟิกอร์ใช้ล่อหลอกเรา คนที่ถูกเบลฟิกอร์เข้าครอบงำหรือสิ่งร่าง มักจะเป็นคนที่ไร้ระเบียบวินัย ส่งงานช้า เลยเดธไลน์ตลอด ผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่ตรงเวลา นอนตื่นสาย และมีข้ออ้างให้กับความเกียจคร้านของตนอยู่เสมอ
ส่วนมากพฤติกรรมแบบนี้มักมาจากการใช้ชีวิตที่ไม่สมดุล เบลฟิกอร์เกลียดคนขยัน คนที่หามรุ่งหามค่ำ เมื่อคุณให้เวลากับการนอนน้อยจนเกินไป ทำงานหนักเกินไป เครียดเกินไป เมื่อคุณให้เวลากับการพักผ่อนหย่อนใจและการเติมอาหารหัวใจน้อยไป เมื่อคุณไปให้ค่ากับความสำเร็จ การทำงานให้ตรงตามเป้าหมายมากไป เมื่อนั้น...เบลฟิกอร์จะเริ่มจ้องมองดูคุณและเฝ้ารอเวลาที่คุณล้ม
 
ปีศาจแห่งความเกียจคร้าน จะเฝ้ารอจนกว่าคนขยันผู้ทุ่มเทคนนั้นจะใช้พลังงานชีวิตจนหมด หากชีวิตของคุณขาดการจัดสรรแบ่งเวลาให้ดี หากคุณละเลยการดูแล เอาใจใส่ตัวเอง ในที่สุดเบลฟิกอร์ก็จะเร้นกายเข้ามาและโจมตีคุณในเวลาอ่อนเพลีย
บาปประการที่ 7 ความโกรธ หรือโทสะ ผู้รับผิดชอบมีชื่อว่า ซาตาน (Satan) ปีศาจตัวที่อันตรายและเป็นภัยต่อชีวิตมนุษย์ ปีศาจแห่งการสร้างสงคราม และทำงานร่วมกับปีศาจแห่งอัตตาอย่างลูซิเฟอร์ (Lusifer) มันใช้คำว่าศักดิ์ศรี และความอยุติธรรม เข้าล่อลวงอัตตาให้รู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องศักดิ์ศรี และทวงความเป็นธรรมให้ตนเอง
หากโลภะและความเหย่อหยิ่งคือพลังที่หมุนเข้าหาตัวเราเป็นจุดศูนย์กลาง โทสะคือพลังที่เหวี่ยงออกไป หรือการระเบิดเพื่อทำลายล้างทุกอย่างที่อยู่รอบข้างให้เป็นจุลนั่นเอง
ภาพประกอบของ ฮีเยโรนีมึส โบส
คำอธิบายภาพ
แต่ละช่องในวงกลมรอบนอกจะแสดงถึงบาปต่าง ๆ ที่เรียงตามเข็มนาฬิกา ดังนี้ (ภาษาลาตินอยู่ในวงเล็บ):
ตะกละ (gula): คนเมากำลังดื่มเหล้าจากขวดในขณะที่คนอ้วนกินอย่างตะกละ, โดยไม่สนใจลูกชายที่อ้วนพอ ๆ กับเขา
เกียจคร้าน (acedia): ชายขี้เกียจหลับหน้าเตาผิง โดยที่ความศรัทธาปรากฏอยู่ในฝันของเขา ในร่างของแม่ชี เพื่อเตือนให้เขาขอพรต่อ
ราคะ (luxuria): คู่รักสองคู่กำลังไปปิกนิกในเต้นสีชมพู โดยมีตัวตลกสองคน (ด้านขวา) สร้างความสนุกให้แก่พวกเขา
อัตตา (superbia): มองจากคนดูที่อยู่ข้างหลัง, ผู้หญิงคนนั้นกำลังดูเงาสะท้อนของเธอในกระจกที่ถือโดยปีศาจ
โทสะ (ira): ผู้หญิงคนนั้นพยายามทำให้ชายที่กำลังเมาสองคนให้ทะเลาะกัน
ริษยา (invidia): คู่รักที่ยืนที่หน้าประตูรู้สึกอิจฉาที่มองชายร่ำรวยที่มีเหยี่ยวบนข้อมือและมีบริวารช่วยยกของหนักให้เขา ในขณะที่ลูกสาวกำลังจีบผู้ชายที่หน้าต่าง โดยที่ตาของเธอกำลังมองกระเป๋าที่เต็มด้วยเงินที่อยู่บนเอวของเขา
โลภะ (avaricia): ในคดีหนึ่ง ผู้พิพากษารับฟังแค่ฝ่ายเดียว ในขณะที่กำลังจ่ายสินบนอีกฝ่าย
วงกลมเล็ก ๆ ทั้งสี่อันมีรายละเอียด ดังนี้: "การตายของคนบาป" ความตายยืนอยู่ที่บันไดหน้าประตู พร้อมกับเทวทูตและมาร ในขณะที่นักบวชกำลังให้เขาพูดวาจาสุดท้าย. "ความรุ่งโรจน์" ผู้ที่ถูกช่วยเหลือจะถูกนำเข้าสรวรรค์ โดยมีพระเยซูกับนักบุญอยู่ในนั้น ที่ประตูสวรรค์ เทวทูตกำลังขับไล่มารที่กำลังวางกับดักผู้หญิงคนหนึ่ง และนักบุญปีเตอร์ทำหน้าที่เป็นผู้เฝ้าประตู. "การพิพากษาครั้งสุดท้าย" พระคริสต์ทรงแสดงแสงราศี ในขณะที่เทวทูตกำลังปลุกคนตายให้ฟื้นคืนชีพ. "นรก" ปีศาจกำลังลงโทษผู้ทำบาปตามบาปที่ตนได้ก่อไว้ในนรก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา