1 ส.ค. 2021 เวลา 15:20 • ประวัติศาสตร์
อาชญากร 6 คน กับเหตุการณ์ปล้นที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติเบลเยี่ยม🇧🇪
1
ภาพประกอบเพื่อการอธิบายเท่านั้น
เรื่องราวการปล้นไร้เหตุสะเทือนขวัญที่ทำให้ทุกคนที่ได้ฟังต้องอุทานพร้อมกันว่า "อิหยังวะ!" เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศเบลเยี่ยมครับ
10
เมืองชาร์เลอรัว (Charleroi) © Flickr/Jean Philippe Dheure
ย้อนกลับไปในวันที่ 20 ตุลาคม ปี 2018 ณ เมืองชาร์เลอรัว (Charleroi) ประเทศเบลเยียม ในช่วงเวลาราว ๆ บ่ายสามโมง ขณะที่กระทาชายนายดีดีแยร์ (Didier) เจ้าของร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า Vape&Go กำลังเปิดร้านเพื่อรอให้บริการคุณลูกค้าสายควันอยู่นั้น
5
Didier และร้าน Vape & Go
พลันก็โชคชะตาได้นำพาชายหกคนเดินเข้ามาในร้านของเขา แก๊งส์วัยรุ่นกลุ่มนี้มีอายุราว ๆ ยี่สิบปี เข้ามากลุ่มใหญ่แบบนี้วันนี้ดูจะเป็นอีกวันที่เปิดบิลได้แบบสวยๆอย่างแน่นวลลล
4
ภาพตอนกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 6 เข้าไปในร้าน Vape & Go
แต่หลังจากเชคแฮนด์จับไม้จับมือเพียงครู่ ยังไม่ทันที่ดีดีแยร์จะต้อนรับขับสู้แนะนำอุปกรณ์และน้ำยาสำหรับการฌาปนกิจปอด ปรากฏว่าชายหนุ่ม 6 คนดังกล่าวไม่ใช่ลูกค้า แต่เป็นแก๊งโจรพร้อมอาวุธปืนที่เข้ามาที่ร้านนี้ด้วยเจตนาที่จะปล้นเงินจากร้านเขา
6
ถ้าเป็นคนทั่วไปก็คงกลัวตายสุดๆและคงรีบเปิดเก๊ะส่งเงินหรือของมีค่าเพื่อรักษาชีวิต แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับดีดีแยร์ผู้นี้ เพราะเขาเชื่อมั่นว่าตนเองนั้นเป็นนักขายที่เก่งกาจ และในวินาทีแห่งความเป็นความตาย ชายคนนี้ก็คิดวิธีที่ดีที่สุดที่จะรับมือกับมหาโจรทั้ง 6 ราย
3
ดีดีแยร์ใช้เวลาราว ๆ สิบห้านาที ใช้หมอทวีศิลป์เอ๊ย! วาทะศิลป์ในการเจรจาต่อรองกับคนร้ายทั้งหกคน โดยเขาได้บอกว่า
19
" เห้ย ไอ้หนุ่ม มันไม่ใช่เรื่องฉลาดหรอกนะ ที่เอ็งเข้ามาปล้นในช่วงกลางวันแสก ๆ เนี่ย ลูกค้ายังไม่มีเข้ามา ถ้าจะเอาเงินตอนนี้มีแต่เงินทอนแค่ 1,000 ยูโรเท่านั้นแหละ หาร 6 ตกคนละร้อยกว่าๆ ปล้นทั้งทีได้แค่นี้เสียเที่ยวนะพี่ว่า... เอางี้ รอร้านพี่ปิดตอนสักหกโมงครึ่งดิ แล้วกลับมาใหม่ ถ้ากลับมาตอนนั้น ขี้ๆก็น่าจะได้เงินประมาณ 3,000 ยูโร หาร 6 ตกคนละ 500 อู้ยยย ได้เยอะกว่าเห็นๆ! น้องๆว่าแบบนี้ดีกว่าไหม?? "
15
ภาพขณะ Didier กำลังโน้มน้าวหนึ่งในกลุ่มคนร้าย
ตอนแรกที่อ่าน ผมคิดว่า เฮียดิดิแยร์แกลั่นเสนอข้อต่อรองแบบนี้ออกไปกับโจรมีปืน แถมมากันตั้ง 6 คนคงไม่พ้นโดนทืบเป็นแน่แท้ แต่ใครเล่าจะคิด มหาโจรทั้งหกคนยอมตกลงกลับบ้านไปรอแต่โดยดีครับ ก่อนจากพี่แกฝากข้อความกับเฮีย Didier ว่า เตรียมเงินไว้เดี๋ยวจะกลับมารับไปตอนเย็น
13
หลังจากคนร้ายทั้ง 6 ออกจากร้านไป ดีดีแยร์จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในทีแรกหลังจากกได้รับแจ้งทางตำรวจเองก็บอกว่า "เหยยยย ไปขนาดนี้แก๊งนี้คงคิดได้แล้วหละ ไม่มีใครจะบ้ากลับไปปล้นอีกหรอก"
7
แต่ทางดีดีแยร์ก็ยืนยันเสียงแข็งหนักแน่นว่า "จ่าเชื่อผมเถอะ โจรหกคนนี้จะต้องกลับมารอเอาเงินที่ร้านตามนัดแน่นอน" ท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ทนลูกตื๊อและการยืนกรานของ Didier ไม่ไหวจึงตัดสินใจส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหลบซ่อนในห้องเก็บของ ซุ่มรอจับกุมตัวคนร้ายทันทีที่พวกเขามาถึง
7
นาฬิกาบอกเวลาห้าโมงครึ่ง หนึ่งในสมาชิกโจรทั้งหกคน เขากลับมาเอาเงินจริง ๆ แถมมีมารยาทมาก่อนเวลานัดด้วย แต่ดีดีแยร์ก็บอกว่า "เอ้าน้อง! ก็ตกลงกันไว้แล้วไงว่าจะมาตอนร้านปิด เหลืออีกเป็นชั่วโมงหนึ่งเนี่ย กลับไปก่อน ไปๆ ! แล้วเดี๋ยวค่อยมาใหม่" ปรากฏว่าคนร้ายคนดังกล่าวก็ดันบ้าจี้ยอมกลับไปก่อนตาม Didier บอกแต่โดยดี
18
ภาพประกอบวินาทีก่อนที่หนึ่งในคนร้ายจะถูกตำรวจรวบตัว
สองรอบไม่จบ มารอบสุดท้าย ในช่วงเวลาราว ๆ หกโมงครึ่ง ก่อนที่ร้านจะปิด ซึ่งเป็นเวลาตามนัด มหาโจรใจง่ายก็กลับไปตามสัญญา และคราวนี้พี่แกไม่ได้มาคนเดียวที่มากันพร้อมหน้าพร้อมตาครบจบปานบอยแบนด์ ท้ายที่สุด ชายห้าคนก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซ่อนตัวไว้อยู่ก่อนหน้านั้น จับกุมตัว โดยที่อีกคนหนึ่งวิ่งหนีรอดไปได้
4
ภาพขณะเจ้าหน้าที่จับกุมตัวคนร้ายในง่ายแก๊งน้ี
ด้วยเรื่องราวเหลือเชื่อสุดๆจนเหมือนหลุดมาจากหนังตลกนี้ ทำให้แก๊งโจรนี้ได้ถูกตั้งฉายาให้โดยสื่อท้องถื่นว่า “ผองโจรที่แย่ที่สุดในเบลเยียม” (“worst robbers in Belgium”)
10
ถึงตรงนี้ผมยังคงสงสัยว่านับตั้งแต่ต้นจนจบอยู่กัน 6 คน ไม่มีใครเอ๊ะ เอะใจกันสักนิดเลยหรืออย่างไร?
13
โฆษณา