สรุปสั้นๆจากหนังสือ
•อย่าเป็นคนเก่งที่คุยไม่เป็น•
ยาซุดะ ทาดาชิ WE LEARN
ในชีวิตประจำวันของเราทุกคน ที่เวลาทุกนาทีมีค่ามากมาย
การคุยเล่นอาจเป็นเรื่องไร้สาระที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์
แต่แท้จริงแล้ว การคุยเล่นเปรียบเสมือนประตูสู่ความสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อีกฝ่ายยอมรับในตัวเราและสานสัมพันธ์ให้แนบแน่นขึ้น อีกทั้งยังเป็นสิ่งสำคัญที่กำหนดทิศทางความสัมพันธ์กับคนอื่นอีกด้วย
1 ] วิธีเริ่มต้น คุยเล่นแบบคนชั้นแนวหน้า
~คนเราจะประเมินคู่สนทนาใน 4 นาทีแรกที่พบเจอ~
•ฝึกนำเสนอตัวเอง
โดยถ่ายทอดความเป็นตัวเองให้อีกฝ่ายรู้ผ่านการพูดสรุปแบบสั้น
และเล่าเรื่องผิดพลาดเล็กน้อยของตัวเอง สิ่งที่ควรระวังคือ อย่าเป็นฝ่ายเล่าเรื่องของตัวเองอย่างเดียวและอย่าโอ้อวดตัวเองมากจนเกินไป
ซึ่งในขั้นตอนแรกที่เราควรจะทำให้เสร็จภายใน 1 นาทีแรก
* ช่วงต้นของการสนทนาคือ 🤍 ในการสร้างบรรยากาศที่ดี
•พูดให้ดึงดูด
โดยการใช้ภาษากายและภาษามือ , พูดประโยคสั้นๆอย่างมีจังหวะ , ใช้คำเลียนเสียงในการ เล่าเรื่อง , พูดโดยใช้ระดับเสียง ฟา ซอล เนื่องจากการพูดเสียงต่ำทำให้ดูเป็นคนที่มีความกดดันและคบหาด้วยยาก
2 ] หัวข้อสนทนาที่ทำให้การคุยเล่นสนุก
•หา Topic ที่คู่สนทนาสนใจ โดยการใช้หลักการสนทนา 2 แกน
การคุยในช่วงแรกจะเน้นความหลากหลายของหัวข้อสนทนา(แกนนอน)
เมื่อเราเจอหัวข้อสนทนาที่อีกฝ่ายสนใจให้คุยลงลึกในเรื่องนั้น (แกนตั้ง)
* ควรเริ่มต้นคุย topic เบาๆเป็นอันดับแรก
เช่น สภาพอากาศ สุขภาพ งานอดิเรก รึเลือกใช้เรื่องที่มีจุดร่วม เช่น บ้านเกิด กรุ๊ปเลือด การงาน เป็นต้น
* ข้อควรระวังในการเลือก topic คือ
ไม่พูดถึงบุคคลอื่นและต้องไม่เป็นหัวข้อที่ทำให้เกิดการถกเถียง
•พูดเรื่องที่เป็นประโยชน์กับอีกฝ่าย โดนเน้นพูดให้ความรู้ที่เค้าน่าจะเอาไปใช้ได้จริง
ถ้าเราสามารถพูดคุยในฐานะผู้เชียวชาญในวงการของตัวเองได้ จะได้รับความไว้วางใจที่มากขึ้น
3 ] วิธีฟังให้คู่สนทนาเปิดใจ
•มองคู่สนทนาอย่างอ่อนโยนและพูดตอบรับเป็นช่วงๆ
•แสดงความคิดเห็นแบบสั้นๆที่ทำให้อีกฝ่ายตอบง่ายขึ้น
โดยนึกถึงการเชื่อมโยงที่สามารถเชื่อมไปหาเป้าหมายในการคุยเล่นได้ อาจใช้การทวนคำ พูดในรูปแบบคำถามเพื่อให้อีกฝ่ายให้รายละเอียดเพิ่มมากขึ้น
•การถามคำถาม
-เน้นคำถามที่กระตุ้นให้อีกฝ่ายอยากพูดเอง
โดย 🤍 ในการถามคือ ต้องรู้ประเด็นที่สามารถกระตุ้นความสนใจของอีกฝ่ายได้
-ถามเมื่อเจอหัวข้อที่ไม่เข้าใจ
โดยการถามต้องไม่ถามอย่างเดียว ต้องบอกความเห็นของตัวเองด้วย
และเมื่ออีกฝ่ายตอบคำถามให้เราพูดสรุปคำตอบอีกที
*ข้อควรระวังในการถามคำถามคือ
ไม่ควรถามคำถามที่ไม่มีเป้าหมายและคำถามหาเหตุผล เพราะจะทำให้การสนทนาไม่สนุกและติดขัดได้ แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นผู้เชี่ยวชาญก็สามารถถามได้
4 ] ลดระยะห่างทันทีที่เจอกัน
•ภาพลักษณ์ภายนอกต้องดูดี ต้องสะอาดและมีรอยยิ้ม
•เล่าข้อเท็จจริงเกินจริงเล็กน้อยเพื่อให้น่าสนใจมากขึ้น
•การพึมพำชมแบบละสายตาจากคู่สนทนาทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเราชมจากใจ
•ปิดการสนทนาได้ดีการสนทนาครั้งหน้าก็จะไปได้สวย
อาจทำได้โดยการ บอกความประทับใจ , บอกความตั้งใจตัวเองว่าอยากให้มาสอนอีก , ขอเป็น FC รึ เป็นเมนเทอร์ให้หน่อย
5 ] ลดระยะห่างเมื่อเจอกันครั้งถัดไป
•พูดถึงเรื่องที่อีกฝ่ายเคยบอกเมื่อครั้งก่อน
•หาของฝากติดไม้ติดมือ อาจไม่ต้องแพงแต่หามาด้วยใจ
•พูดอย่างสุภาพและเป็นมิตร รวมถึงการพูดถึงบุคคลที่สาม
•การคุยโทรศัพท์สามารถลดระยะห่างได้อย่างดี
โดยโทรด้วยความรู้สึกคิดถึง อาจเป็นการโทรพูดคุยแบบสั้นๆเพื่อถามสารทุกข์สุขดิบก็ได้
6 ] วิธีพูดเข้าประเด็นต่อจากการคุยเล่น
•อย่าทำลายความต่อเนื่องของการสนทนา
เพราะ ถ้าการสนทนาขาดช่วง จะทำให้คู่สนทนาประหม่าและระแวง
ไม่ควรพูด : ว่าแต่วันนี้ , จะว่าไปวันนี้
ควรพูด : จากที่คุยกันเมื่อกี้ทำให้นึกเรื่องนึงขึ้นมาได้ , เท่าที่ฟังมาเราคิดว่าพอจะช่วยนายได้นะ , จริงๆแล้วก็คิดเหมือนกันเลย
•พยายามเชื่อมโยงเรื่องของเรากับเรื่องที่อีกฝ่ายพูด
•แจกแจงประเด็นสำคัญ(หัวข้อ)ล่วงหน้าก่อนเริ่มพูด
*ไม่ควรพูดหัวข้อเกิน 17 วินาที เพราะจะทำให้ผู้ฟังจับประเด็นได้ยากขึ้น
Tip & Trick ในการเข้าหาคนแต่ละประเภท
•เจ้านาย
•คนดี
•นักวิเคราะห์
•สดใสร่าเริง
•ขี้เกรงใจ
ขอบคุณทุกๆคนที่อ่านบทความของผมจนมาถึงตรงนี้นะครับ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆพี่ๆไม่มากก็น้อย
ขอฝากผลงานไว้ในอ้อมอกอ้อมใจและฝากติดตามเพื่อเป็นกำลังใจในการรังสรรค์ผลงานดีๆต่อไปด้วยนะคราบ 🥰
ขอบคุณครับ 🙏
#สรุปหนังสือ #การพัฒนาตัวเอง
- 18
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
