31 ก.ค. 2021 เวลา 14:53 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
10. รูปเก่า..เล่าความหลัง
การได้มีเวลาจัดของภายในบ้าน บางทีก็เจอของเก่าเก็บที่คิดไม่ถึงว่ามันจะยังอยู่ เรียกว่าเก็บจนลืมไปเลย ทำให้นึกถึงภาพยนตร์ไทยเรื่องหนึ่งชื่อว่า “ฮาวทูทิ้ง” นางเอกของเรื่องต้องการปรับปรุงบ้านใหม่ จึงคิดทิ้งของที่ไม่จำเป็นออกไป แต่แล้วก็เจอกับสิ่งของบางอย่างที่ไม่อาจตัดใจทิ้งได้ เพราะมันมีเรื่องของความรู้สึกในตุการณ์มาเกี่ยวข้องด้วย
เราเองก็เป็นคนชอบเก็บของสะเปะสะปะมาก จนเมื่อมาถึงวันหนึ่งที่เจอกองทัพปลวกบุกอย่างหนัก บรรดาหนังสือที่เคยเก็บสะสมมานานก็เลยจำใจต้องจากลาด้วยการทิ้งมันไป เพราะสถาพแย่เกินกว่าจะเก็บไว้ ก็เลยถือดอกาสเคลียร์ของอื่นๆออกไปด้วยในคราวเดียว ของส่วนใหญ่ก็นำไปบริจาคเพราะยังอยู่ในสภาพดี เอาไปขายเป็นของเก่าก็ได้ไม่กี่สตางค์
วันก่อนก็มานั่งจัดอัลบั้มรูป พบว่ามีรูปที่ได้เป็นของแถมจากการไปดูหนัง นั่นคือรูปพระเอกชาวจีนชื่อ “ฉินฮั่น” ด้านหลังของรูปเป็นโฆษณาหนังที่เขาแสดงชื่อไทยว่า “ที่รัก..อย่าจากฉันไป” ภาพความหลังกับหนังเรื่องนี้ผุดออกมาจากความทรงจำทันที
ฉินฮั่น
สมัยเด็กๆ เราอยู่เยาวราช แน่นอนว่านี่คือย่านคนจีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แถวนั้นจึงมีทั้งโรงภาพยนตร์ที่ฉายหนังจีนและโรงงิ้วอีกหลายโรง ทำให้เรามีโอกาสไปดูหนังจีนอยู่บ่อยๆ ถ้าเป็นหนังกำลังภายใน ก็มักจะฉายที่นิวโอเดียน สิริรามา ถ้าเป็นหนังฮีโร่ยี่ปุ่น ก็มีอยู่โรงเดียวคือบรอดเวย์ แต่ถ้าเป็นหนังจีนแบบรักหวานชื่น ที่มีพระเอกชูโรงที่ดังมากอยู่ 2 คน คือฉินฮั่นและฉินเสียหลิน ส่วนนางเอกก็คือหลินชิงเสียและหลินฟ่งเจียว หนังแบบนี้มักจะฉายที่โรงหนังกรุงเกษม เฉลิมบุรี
ว่ากันถึงโรงหนังเฉลิมบุรีแล้ว ใครๆก็นึกถึงลอดช่องสิงคโปร์ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของโรงหนังนี้ เหตุที่ชื่อลอดช่องสิงคโปร์ก็เพราะโรงหนังเฉลิมบุรีก่อนหน้านั้นชื่อว่าโรงหนังสิงคโปร์ก่อนที่จะมาเปลี่ยนชื่อภายหลัง แต่ร้านลอดช่องยังคงยึดชื่อเดิมจนมาถึงปัจจุบัน
ส่วนโรงหนังกรุงเกษมในสายตาของคนเป็นเด็กนั้น จะนึกถึงร้านไอศกรีมในโรงหนังที่ใครไปแล้วต้องสั่งคือบานาน่าสปริท สมัยก่อนที่นี่ดังที่สุดแล้ว แน่นอนว่าความบันเทิงในสมัยก่อนสำหรับคนเยาวราชเวลาดูหนังก็ชอบดูหนังจีนทั้งจากไต้หวันและฮ่องกง เราก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ติดสอยห้อยตามผู้ใหญ่ได้ไปดูหนังอยู่บ่อยครั้ง
หลินฟ่งเจียว ปัจจุบันอายุ 68 ปี
ว่ากันถึงเรื่องที่รัก..อย่าจากฉันไป มาฉายที่กรุงเกษมเมื่อปี 2521 คู่พระนางคือฉินฮั่นและหลินฟ่งเจียว วันฉายรอบปฐมทัศน์ดาราคู่พระนางบินมาปรากฏตัวที่โรงหนังนี้ด้วย คนแน่นมากมายมหาศาล ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่ารายละเอียดหนังเป็นอย่างไร ปรากฏว่าหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่หนังรักกุ๊กกิ๊กเหมือนที่สองพระเอกสองนางเอกแสดงกัน กลายเป็นหนังที่สร้างมาจากเรื่องจริงของชายขาพิการทั้งสองข้างที่ชื่อ “เจิ้งฟ่งสี่” ที่เขียนหนังสือออกมาชื่อว่า “เรือน้อยกลางมหาสมุทร” พิมพ์ขายจนโด่งดัง จนมีการมาทำเป็นภาพยนตร์ หนังเรื่องนี้ได้รับรางวัลในประกวดหนังที่สิงคโปร์ 4 รางวัลและที่ไต้หวันอีก 6 รางวัล
ด้านหลังภาพฉินฮั่น
จำได้ว่าเป็นหนังที่เศร้ามาก เพราะตอนจบพระเอกต้องตายเพราะป่วยเป็นโรคมะเร็งตับ เขาจากไปในขณะที่มีอายุแค่ 32 ปี เท่านั้น ผู้ใหญ่ที่ไปดูออกจากโรงร้องให้กันมากมาย เราเองก็ร้องนะ แต่ด้วยความที่ยังไม่โตพอ เลยอาจดูหนังเรื่องนี้ไม่ลึกซึ้งนัก จนเมื่อมีแผ่นดีวีดีออกมาจึงได้มีโอกาสดูอีกครั้ง คราวนี้แหละที่ดูแล้วรู้สึกอินไปกับหนังมากมาย และนั่นคือครั้งสุดท้ายที่ได้ดูเพราะดีวีดีแผ่นนี้ก็โดนกองทัพปลวกบุกจนเปิดไม่ได้อีก
แต่พอมาถึงวันนี้ เมื่อได้เห็นใบโฆษณาแผ่นนี้ ทำให้เกิดอยากดูขึ้นมาอีกครั้ง จึงลองค้นในอินเตอร์เน็ตดู ในที่สุดก็ได้เจอจริงๆโดยมีซับไตเติ้ลภาษาไทยด้วย การได้ดูหนังที่เคยดูมาแล้วแสดงว่ายังประทับใจกับหนังเรื่องนี้อยู่ อย่างน้อยก็เป็นประวัติของคนพิการที่ไม่เคยยอมแพ้ ฝ่าฟันอุปสรรคมาจนประสบความสำเร็จ ซึ่งน่าจะเสริมสร้างกำลังใจได้ดีกับสถานการณ์ปัจจุบันก็คือสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 ที่เราอาจจะต้องประสบปัญหาขณะนี้มากมาย แต่จงอย่ายอมแพ้ ดูแลตัวเองให้ดีที่สุดและเชื่อมั่นว่าเราจะผ่านพ้นมันไปได้ครับ
อยากแนะนำให้ดูกัน ลองค้นหาในกูเกิ้ลดูครับ
ใบปิดของจีน
โฆษณา