2 ส.ค. 2021 เวลา 04:14 • กีฬา
ไร้ขีดจำกัด “ซูปิ่งเทียน” บุคคลผู้ทำลายสถิติแห่งวงการกีฑาเอเซีย!!!
วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 วันนี้ถือว่าเป็นวันที่ 9 ของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ถือได้ว่าเป็นครึ่งทางแล้วสำหรับมหกรรมการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้
Highlight ของการแข่งขันกีฑานั้นของหนีไม่พ้นการวิ่ง 100 เมตร เพื่อชิงสุดยอดตำแหน่ง “นักวิ่งที่เร็วที่สุดในโลก” รองจากบุคคลในตำนานอย่าง ยูเซนต์ โบลท์ ผู้ที่ครองตำแหน่งสถิติโลกตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปัจจุบัน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 3 สมัย นับเป็นเวลาทั้งหมด 13 ปีที่เจ้าของเหรียญทองนั้นจะตกเป็นของยูเซนต์เสมอมา แต่วันนี้ประวัติศาสตร์ของวงการกีฑาจะได้บันทึกหน้าใหม่อกครั้ง สนามลู่ยางไร้ซึ่งยูเซนต์แล้ว นักวิ่งจากทั่วทุกมุมโลกที่ผ่านมาจนถึงรอบชิงชนะเลิศนั้น เป็นการที่คาดเดาผลได้ค่อนข้างยาก ว่าใครนั้นจะได้ครองตำแหน่งเหรียญทอง ถือว่าโอลิมปิกในครั้งนี้เป็นการก้าวขึ้นมาของ new generation ของเจ้าลมกรดอย่างแท้จริง
โฉมหน้าผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศ credit : ช่างภาพมีกล้าม
รอบคัดเลือกพวกที่ 3 ลู่ที่ 4 เจ้าลมกรดจีนนามว่า “ซูปิ่งเทียน(苏炳添)” ชายอายุ 31 ปีจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 9.83 วินาที หลังจากวิ่งเข้าเส้นชัยแล้วซูนั้นได้แสดงท่าทาง และสีหน้าอันพึงพอใจจนถึงขีดสุด กับสถิติใหม่ของเขา เพราะนอกจากจะเป็นสถิติที่ดีที่สุดของเจ้าตัวแล้ว ยังเป็นสถิติการวิ่ง 100 เมตรที่ดีที่สุดแห่งเอเซียอีกด้วย ชนิดที่ว่าไม่เคยมีคนเอเซียคนไหนทำได้มาก่อน อีกทั้งเจ้าตัวคือคนเอเซียคนแรกของโลก ที่ได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศของการแข่งขัน 100 เมตรในโอลิมปิกอีกด้วย เหตุการณ์นี้ถือได้ว่าเป็นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่แห่งวงการวิ่งอย่างแท้จริง ทำให้ผู้ชมและแฟนกีฑาทั่วโลกตกตะลึงเป็นอย่างมาก
1
ในการแข่งขันกีฑา IAAF ปี2015 ซูได้สร้างประวัติศาสตร์โดยการทำลายสถิติของประเทศจีนลงได้ด้วยเวลา 9.99 วินาที นับว่าเป็นชาวเอเซียคนที่สามารถวิ่งได้ต่ำกว่า 10 วินาที (เป็นแมทช์ที่ได้วิ่งกับ ยูเซนต์ โบลท์)
ภายหลังจบการแข่งขันลงซูปิ่งเทียนเคยได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า โบลท์ นั้นเคยสนทนากับซูว่า “คุณนี่ตัวเล็ก แต่วิ่งได้เร็วมากเลยนะ” ซูกล่าว
ยูเซนต์ โบลท์ และ ซูปิ่งเทียน credit : CGTN
ต่อมาในเอเซี่ยนเกมส์ 2018 ซูผู้นี้ไม่หยุดพัฒนา ฝีเท้าของเขาดีขึ้นเรื่อยๆ จนได้ทำลายสถิติเอเซียอีกครั้งด้วยเวลา 9.92 วินาที คว้าเหรียญทองไปครอง จากการแข่งขันในครั้งนี้ทำให้เราทราบเลยว่า ซูนั้นไม่ใช่เพียงแค่ในระดับเอเซียอีกต่อไป แต่เขาได้ขึ้นไปสู่เวทีระดับโลกเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งความใฝ่ฝันของซูคือการได้เข้ารอบชิงชนะเลิศโอลิมปิกสักครั้งในชีวิต
credit : China Daily
19.50 นาที ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศไทย ซูเจ้าลมกรดหนึ่งเดียวของเอเซียได้เข้ารอบชิงอย่างที่เคยใฝ่ฝันไว้ โดยรอบชิงชนะเลิศนั้นเหรียญทองตกเป็นของ มาร์เซลล์ จาค็อบส์ ลมกรดม้ามืดจากอิตาลี เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 9.80 วินาที ตามมาด้วยเหรียญเงินของ เฟร็ด เคอรรี่ จากสหรัฐอเมริกา เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 9.84 วินาที และ สุดท้ายเหรียญทองแดงของ อ็องเดร เดอ กราสส์ จากแคนาดา เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 9.89 วินาที ส่วน ซูปิ่งเทียน ครองอันดับ 6 ด้วยเวลา 9.98 วินาที
credit : Reuters
อย่างไรก็ตามแม้ว่าซูปิ่งเทียนจะไม่ได้คว้าเหรียญโอลิมปิกไว้ได้ แต่ว่าสิ่งที่เขาได้ทำนั้นมันคือการจุดประกายฝันของนักกีฑาเอเซียหลายคน และเขาได้ทำลายขีดจำกัดของคำว่าเป็นไปไม่ได้ลงแล้ว ด้วยตอนนี้โลกที่เต็มไปด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สามารถทำให้คนเอเซียวิ่งได้เร็วถึง 9.83 วิ เข้ารอบชิงโอลิมปิกได้อย่างสมเกียรติของความพยายามในการฝึกซ้อมอย่างหนักในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สุดท้ายนี้ชื่อของ ซูปิ่งเทียน จะกลายเป็นตำนาน และได้รับขนานนามจากในจีน และทั่วทุกมุมโลก ในฐานะของนักกีฑาที่วิ่งเร็วที่สุดในเอเซีย
📌 ถ้าใครชอบเรื่องราวแบบนี้อย่าลืมกด “Like” และ “Subscribe” เพื่อเป็นกำลังใจให้เพจเด็กแว่นเรียนจีนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^ 🙏🙏🙏
โฆษณา