3 ส.ค. 2021 เวลา 13:00 • ข่าว
คดีที่ปิดไม่ลง 32 ปี พบค้นร้ายในที่สุด
หลังรอเทคโนโลยีตรวจดีเอ็นเอจากเซลล์ที่เหลือน้อยจนแทบสังเกตไม่เห็น
ในเช้าหนึ่งของปี 1989 สเตฟานี่ ไอแซกสัน (Stephanie Isaacson) เด็กสาววัย 14 ปีกำลังเดินทางไปโรงเรียน เธอถูกใครบางคนเข้าทำร้าย บ่ายวันนั้นคุณพ่อของน้องสเตฟานี่เห็นผิดสังเกตที่ลูกสาวยังไม่กลับบ้าน เขาไล่โทรถามไปที่โรงเรียน ถามไปยังบ้านของเพื่อนของลูกสาว และเมื่อไม่มีใครพบสเตฟานี่เลย เขาจึงโทรแจ้งความและเจ้าหน้าที่ก็จึงเริ่มออกค้นหาอย่างเร่งด่วน
ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็พบร่างไร้ลมหายใจของสเตฟานี่ห่างออกไปข้างทางจากถนนที่ไปโรงเรียนราว 20 เมตร ตามร่างกายเธอพบร่องรอยของการทุบตีด้วยของแข็ง มีรอยถูกรัดคอ และการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
บนร่างกายและเสื้อผ้าของเธอพบคราบอสุจิ แต่ในห้วงปี 1989 นั้นยังคงไม่สามารถตรวจหาดีเอ็นเอของคนร้ายได้ การเก็บหลักฐานจึงไม่ได้เน้นไปที่การรักษาสภาพดีเอ็นเอ และกว่าจะมีการทดสอบดีเอ็นเอได้ก็ล่วงไปถึงปี 1998 แต่จำนวนดีเอ็นเอคนร้ายที่เหลือบนเสื้อของสเตฟานี่ก็มีน้อยเกินไป จนไม่สามารถตรวจหาอะไรได้ มีความพยายามอีกครั้งในปี 2007 เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาดีขึ้นเพื่อเทียบกับคลังดีเอ็นเอผู้กระทำความผิดของอเมริกา ทว่าก็ยังคงล้มเหลว
ตอนนี้ครอบครัวของสเตฟานี่แทบถอดใจเพราะคดีของเธอไม่สามารถระบุแม้แต่ผู้ต้องสงสัยได้เลยมาตลอดหลายสิบปี พูดให้ชัดก็กว่า 32 ปีแล้วที่พวกเขารวมถึงดวงวิญญาณของสเตฟานี่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม
จนถึงปลายปี 2020 ได้มีแล็บด้านจีโนมในรัฐเท็กซัสที่ชื่อ Othram เสนอช่วยเหลือในการจัดเรียงดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัย จากคราบหลักฐานที่เหลืออยู่เพียง 15 เซลล์เท่านั้น โดยการตรวจครั้งนี้ได้รับการอนุเคราะห์ค่าแล็บจากผู้บริจาคเงินในท้องถิ่นที่ชื่อ จัสติน วู (Justin Woo) เพื่อช่วยไขคดีแช่แข็งกว่า 32 ปีด้วย
ความยากในการตรวจนั้นไม่ธรรมดา เพราะปกติการตรวจดีเอ็นเอต้องใช้ปริมาณดีเอ็นเอราว 1,000 นาโนกรัมจึงจะระบุชัดเจนได้ แต่หลักฐาน 15 เซลล์ในคดีนี้มีปริมาณเพียง 0.12 นาโนกรัมเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะเทคโนโลยีใหม่แล้วคงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในการระบุดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัย
หลังจากใช้เวลากว่า 7 เดือนในแล็บ ก็สามารถระบุตัวคนร้ายในคดีนี้ได้ นั่นก็คือชายที่ชื่อ ดาร์เรน อาร์. มาร์แชนด์ (Darren R. Marchand) เขาคือใคร?
เขาเคยมีประวัติการใช้ความรุนแรงต่อเพศหญิงในปี 1986 โดยทำการรัดคอหญิงสาววัย 24 ปีรายหนึ่ง แต่ได้รับการปล่อยตัวในที่สุดเพราะขาดหลักฐานมัดตัว
แต่อย่างน้อยที่สุดคดีเมื่อปี 1986 ก็เหลือทิ้งดีเอ็นเอไว้ให้เอามาเทียบกับดีเอ็นเอในคดีของสเตฟานี่ได้ และนำมาสู่การชี้ตัวคนร้ายในที่สุด จากดีเอ็นเอที่น้อยจนแทบเป็นปาฏิหาริย์
ทว่าเป็นที่น่าเสียดายที่นายมาร์แชนด์นั้นไม่เคยต้องรับกรรมจากการกระทำของเขา เพราะเขาฆ่าตัวตายไปก่อนแล้วเมื่อปี 1995 แม้สำหรับคนที่ตามข่าวของสเตฟานี่จะได้รู้ตัวคนร้ายในที่สุด แต่สำหรับครอบครัวของสเตฟานี่พวกเขายังคงไม่ได้รับความยุติธรรมที่เฝ้ารอ
โฆษณา