5 ส.ค. 2021 เวลา 06:49 • ท่องเที่ยว
กรี๊ดดดดดดด การบินมาค้างที่ Munich ประเทศเยอรมนี ครั้งนี้ โชคดีมากกที่มีวันหยุด หนึ่งวัน
กะเหรี่ยงก็เลยพาตัวเองกลับบ้านเก่า ซึ่งใช้เวลา 1 วันเต็ม ๆ ที่
Neuschwanstein Castle น่านเอง
Neus แปลว่า new
schwan แปลว่า swan
stein แปลว่า stone แปลเปงไทย เอาสามคำมารวมกัน ก็เรียบเรียงกันเอาเอง
ทริปนี้เปงทริปที่ประทับใจสุด เพราะว่าเดิน อยู่ กรี๊ดดดดด หิมะ หล่นใส่เกสา หิมะตกซะงั้น กะเหรี่ยงกรี๊ดดดดดดด เพราะ หนาว (ขี้มูกไหลหนักกว่าเดิม) อากาศในตัวเมืองมิวนิค สบาย ๆ ชิวอยุ่นะ แค่ -2 องศา แต่บนภูเขาที่ไปนี่สิ ไม่หนาวเล้ยยย แค่ -12 องศา ไม่หนาวเลยจริงๆ (กรอกตาบน)
ต้องคอยทำตัวเปงกะเหรี่ยงยืนตากหิมะ ไม่ถึงสิบห้านาที ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำ เพราะห้องน้ำมีฮีทเตอร์ 5555 บ้านนอกที่สุดเรย
สำหรับทัวร์นี้ กะเหรี่ยวซื้อทัวร์ไปคะ ซื้อจากรีเซฟชั่นที่ รร. เลย พอ 7 โมงเช้า รถทัวร์ก็มารับที่หน้า รร. เพราะไม่มีปัญญาไปเอง เด๋วหลงอีก เพราะหลงเก่ง 5555 ถือบว่าไม่แพงนะ แค่ 45 ยูโร แต่ทริปนี้คือเหงามากเราเป็นลูกเรือไทยเพียงคนเดียวในไฟลท์ที่เหลือคือ หัวทองหมด พวกลูกเรือฝรั่งเลยไม่มีใครตื่นเต้นกับปราสาทห่าน ที่คนหัวดำหน้าหมวยอย่างเราอยากจะไป ทุกคน เมิน เราก็เลยต้องฉายเดี่ยว5555 เพียงครั้งเดียวในชีวิตถือว่าโอเคเรยทีเดียว
ตอนที่ขึ้นรถบัสมาคนเต็มรถเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนบ้าไปเที่ยวเหมือนเราทั้งๆที่หัวทองทั้งนั้น รถบัสใช้เวลาวิ่งประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะถึงปราสาทห่าน รถบัสได้พาพวกเราไปทานอาหารกลางวันที่จุดพักรถ ซึ่งเราจำชื่อไม่ได้ เขาให้เราแวะที่นี่ประมาณ 30 นาที ที่นี่ก็จะมีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารร้านกาแฟเล็กๆน่ารัก เห็นไกด์บอกว่า ที่นี่ ไปหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการแกะสลักไม้ ยกตัวอย่างเช่น นาฬิกาไม้ของที่ระลึกที่ขายทั้งหมดทำจากไม้ล้วนๆ แต่เราไม่ได้ซื้อกลับมานะ เพราะขี้เกียจแบก
วันนี้ถือว่าเป็นวันที่หิมะตกตลอดทั่วเมือง สำหรับจุดที่พักรถ ที่เราแวะทานข้าวกลางวันก็ปกคลุมไปด้วยหิมะหนาแน่น ซึ่งยังไม่ถึงยอดเขา หิมะก็หนาขนาดนี้ แล้วบนยอดเขาล่ะ จะหนาขนาดไหน ในระหว่างทางที่ขับรถขึ้นเขาไปเรื่อยๆ วิวระหว่างทาง สีสวยมากสำหรับชาวเอเชียอย่างเรา เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่หิมะปกคลุมสีขาวเต็มไปหมด ถ้ามากับแฟนก็คงจะดี แต่บังเอิญตอนนั้นคือโสดน่ะสิ เหงาชิบ 555555 นั่งรถทัวร์มองออกไปข้างนอกหน้าต่าง มันช่างโรแมนติกอะไรขนาดนี้แม่เจ้า ขับไปประมาณครึ่งชั่วโมงจากจุดที่พักรถ ก็ถึงแล้วจ้าปราสาทห่านของเรา
ไกด์บอกว่าให้เวลาชื่นชมกับบรรยากาศที่นี่ 3 ชั่วโมง ด้านล่างก่อนถึงปราสาท ก็จะมีร้านอาหารร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึกเต็มไปหมด และมี ทะเลสาบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติสวยๆ สงบมากๆอีกด้วย ไกด์บอกว่า เราจะต้องเดินขึ้นไปบนปราสาท หรือจะขี่รถม้าก็ได้ สำหรับรถม้ามีค่าใช้จ่ายน่าจะคนละ 20 ยูโรมั้งแต่กะเหรี่ยงอย่างเรา เดินสิคะจะรออะไร เพราะมีเพื่อนเดินเยอะแยะ คนส่วนใหญ่ใช้วิธีการเดินมากกว่านั่งรถม้า ระหว่างทางที่เดินขึ้นไปปราสาทนั้น หนาวมาก หิมะตกหนักมาก ปกคลุมสองข้างทาง เต็มไปหมด แต่ก็สวยมากๆเช่นกัน เราใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาทีก็ถึงแล้ว พอไปถึงข้างบนปราสาทห่านวิ่งสิคะวิ่งเข้าห้องน้ำเหมือนเดิมจ้ะ เพราะห้องน้ำมีฮิตเตอร์55555 หิมะตกหนักขนาดนี้ มันมีแต่ความหนาว เดินมาไกลขนาดนี้ ไม่มีเหงื่อออกสักเม็ดเลย 55555
เราก็ไหนๆก็มาถึงแล้วเลยตัดสินใจเข้าไปชมด้านในปราสาทห่าน ด้านในเขาไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป เราเลยยืนถ่ายรูปอยู่ด้านนอกนิดๆหน่อยๆเท่านั้น ด้านในรู้สึกเสียตังค์เพิ่มด้วยนะซึ่งไม่แพง แต่พอเข้าไปข้างในก็ดีแล้วล่ะ ที่ไม่ได้ถ่ายรูป เพราะกำลังอยู่ในช่วงของการซ่อมแซมบางส่วน ทำให้มีซากปรักหักพังเต็มไปหมด ถือว่าสวยและประทับใจ พอเราดูข้างในเสร็จเราก็เดินออกมาด้านนอกปราสาทและเหมือนเดิมคะ ดิฉันเดินลงจ้า ตอนเดินลงเร็วกว่าตอนเดินขึ้น แต่หนาวหนักกว่าเดิมอีก พอเดินลงมาเราก็เดินไปสำรวจร้านขายของที่ระลึก จนได้ของที่ระลึกมา 1 ชิ้น ซึ่งเราสะสมสิ่งนี้ทั่วโลกเลย ไม่รู้คนอื่นเรียกอะไรกัน แต่เราเรียก จาน...เฉยๆ.....555555 ตกชิ้นละ ประมาณ 800 บาท ยืนเลือกอยู่นานมาก เอาเป็นว่าชอบอันนี้ ปลื้ม
ครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวที่ไหนอีก ฝากติดตามอ่านกันด้วยนะจ้า
ขอบคุณที่แวะมาอ่านน๊า
ดูแลสุขภาพด้วยนะคะทุกคน
รักนะ...กะเหรี่ยง..
โฆษณา