5 ส.ค. 2021 เวลา 23:25 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เผยคดีดังที่เอฟบีไอเคยทำงานพลาดอย่างแรง จากฮีโร่กลายเป็นผู้ร้ายโดนตราบาปตลอดชีวิต กระเทือนจิตใจ และเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา...
8
FBI เป็นชื่อที่เรามักได้ยินกันอย่างคุ้นหูในภาพยนตร์ต่าง ๆ ดูเท่ไหม?.. เวลาที่ตำรวจในหนังฮอลลีวูดพูดว่า.. “หยุด! อย่าขยับนี่เจ้าหน้าที่ FBI”
1
ก่อนที่จะพาทุกคนไปรู้เบื้องลึกถึงคดีที่ FBI เคยทำงานพลาด เราจะมาทำความรู้จักกับ FBI อย่างละเอียดกันก่อน ว่าหน่วยงานนี้คืออะไร..
1
เนื่องจากอเมริกา เกิดจากรัฐหลายรัฐมารวมกัน แต่ละรัฐมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตัวเอง มีผู้แทน มีสภา มีกฎหมาย มีเจ้าหน้าที่เป็นของตัวเอง มารวมกันเป็นประเทศ เราเรียกว่า "ประเทศเดียวแต่หลายรัฐ" (ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวรัฐเดียว)
1
เมื่อเกิดประเทศเดียวแต่มีหลายรัฐต่างคนต่างปกครองตัวเอง ถ้าปล่อยไว้แบบนี้อาจเกิดปัญหาขึ้นแน่
เช่น โจรปล้นธนาคาร ปล้นรัฐหนึ่งแล้วหนีไปอีกรัฐหนึ่ง ตำรวจของแต่ละรัฐก็มีอำนาจแต่รัฐของตัวเองเท่านั้น ข้ามเขตไม่ได้ (แค่พกอาวุธข้ามรัฐยังไม่ได้เลย เพราะเมื่อข้ามรัฐแล้วตำรวจจะถือว่าเป็นประชาชนคนธรรมดาของรัฐนั้น ๆ)
รัฐในสหรัฐอเมริกาประกอบด้วยรัฐทั้งหมด 50 รัฐ (SOURCE : https://th.wikipedia.org/wiki/รัฐของสหรัฐ)
ปัญหาคืออะไร?
ปัญหาคือโจรปล้นธนาคารก็จะลอยนวล ดังนั้นทุกรัฐจึงตกลงสละอำนาจบางส่วนให้ส่วนกลางเพื่อควบคุมดูแลรัฐทั้งหมด
3
ซึ่งหนึ่งในองค์กรส่วนกลางคือ FBI ย่อมาจาก Federal Bureau of Investigation ถ้าแปลตรงตัว คือ สำนักงานส่วนกลางในการสอบสวนสืบสวน สมัยก่อนจะทำแค่คดีอาญาระหว่างรัฐ
1
แต่ปัจจุบันได้กำหนดนโยบายของหน่วยงานที่ชัดเจนขึ้น จนทำคดีได้หลายอย่าง หน่วยงานจึงเติบโตมากขึ้น ซึ่ง FBI มีอำนาจทำคดีตามกฎหมาย เดินทางข้ามรัฐ จับกุมผู้กระทำความผิดข้ามรัฐได้ รวมทั้งยังสามารถใช้อาวุธในการจับกุมคนร้ายได้ด้วยเช่นกัน
2
แต่หากให้เจ้าหน้าที่ FBI ทำหน้าที่แค่เก็บหลักฐานและสืบสวนสอบสวน มันคงจะไม่สำเร็จแน่นอน FBI จึงได้รับอำนาจในการปฏิบัติการต่าง ๆ ทั่วทั้งประเทศ เช่น กรณีมีคนขู่วางระเบิดในสนามบินนานาชาติ สิ่งที่ FBI ต้องทำคือสืบสวนสอบสวน แล้วจับกุมผู้ต้องสงสัย
2
แต่ใครจะไปรู้ว่าผู้ต้องสงสัยอันตรายแค่ไหน FBI จึงมีหน่วยปฏิบัติการในการดำเนินการจับกุม ตำรวจของรัฐมีหน้าที่แค่คอยสนับสนุนและช่วยเหลือเท่านั้น
1
คดีใหญ่ ๆ ที่ตำรวจรัฐไม่สามารถจะดำเนินการได้ จึงตกไปอยู่ในขอบข่ายอำนาจของ FBI แต่ขึ้นอยู่กับว่า FBI จะรับมาทำหรือไม่
1
(SOURCE : https://www.theguardian.com)
ส่วนคดีบางอย่าง FBI จะไม่ทำ หากมีหน่วยงานนั้น ๆ รับผิดชอบอยู่แล้ว เช่น คดียาเสพติด แม้จะเป็นคดีข้ามรัฐและคดีใหญ่ แต่ FBI จะไม่เข้าไปแทรกแทรง เว้นแต่ว่าผู้ค้ายาเสพติดฆ่ากันเพื่อแย่งอาณาเขตค้ายา กรณีนี้ FBI กับตำรวจรัฐอาจจะทำงานร่วมกัน
1
สรุป คือ FBI เป็นตำรวจที่ไม่ได้รับทำคดีอาญาทั่ว ๆ ไป คดีที่ FBI จะเคลื่อนไหวต้องเป็นคดีที่ถูกกำหนดให้เป็นปัญหาที่เกินมือตำรวจทั่วไปจะรับได้ เช่น คดีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการใต้ดินต่าง ๆ ซึ่งมันใหญ่เกินกว่าตำรวจธรรมดาจะทำไหว
2
"อำนาจ FBI มีเหนือกว่าตำรวจทั้งการดักฟังและการหาข่าว สามารถทำได้โดยไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ" นั่นเอง
1
หน่วย FBI ได้สำแดงฝีมือจับกุมผู้ก่อการร้ายในประเทศตามข่าวที่เราได้เห็นตามสื่อ ผู้เป็นฮีโร่ เป็นภาพลักษณ์ที่ใคร ๆ ต่างก็ยกย่องในเกียรติยศของอาชีพนี้ แต่ใครจะรู้ว่า FBI ก็เคยทำงานผิดพลาดน่ะ
1
เกี่ยวกับคดีที่ FBI เคยทำงานพลาด!
เมื่อตำรวจจับกุมชายหนุ่มที่ ชื่อ ริชาร์ด จีเวลส์ (Richard Jewell) ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ที่จัดในปี 1996
1
(SOURCE : https://abcnews.go.com)
ริชาร์ดได้งานชั่วคราวเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งจัดขึ้นที่ Centennial Olympic Park แล้วได้พบกับกระเป๋าต้องสงสัย... จึงทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่เรียนรู้มาตามลำดับ เขาเป็นคนแจ้งเจ้าหน้าที่
และได้กันคนออกไปในช่วงการแข่งขันโอลิมปิก ขณะรอผู้เชี่ยวชาญด้านกู้ระเบิดเดินทางมาถึง ระเบิดก็ทำงาน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บหนักเบารวมกันนับร้อย ทำให้ช่วยให้อัตราผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตลดลงได้...
ภาพระเบิดที่ Centennial Olympic Park (SOURCE : https://people.com)
อย่างไรก็ตาม เป็นที่แน่ชัดว่า หากปราศจากริชาร์ด ผู้พบเห็นระเบิด แจ้งเตือนภัยและช่วยเคลื่อนย้ายฝูงชน เหตุร้ายดังกล่าวอาจจะสร้างความสูญเสียรุนแรงกว่าที่เป็นอยู่มากมายหลายเท่า
ริชาร์ดกลายเป็นวีรบุรุษที่สังคมยกย่อง แต่.. FBI กลับไม่คิดเช่นนั้น!?
1
ทำไมน่ะหรอ...?
1
วีรบุรุษของริชาร์ด เกิดขึ้นและจบลงภายในเวลาแค่ 3 วัน!!
1
เพราะขณะที่ FBI กำลังไล่ล่าค้นหาตัวคนร้าย เขาย้อนกลับไปดูประวัติภูมิหลังของริชาร์ด ว่าจัดป็นบุคคลล้มเหลวมาโดยตลอด อยากเป็นตำรวจมากแต่เป็นไม่ได้
1
ทำงานเป็นพนักงานเดินเอกสารในบริษัทกฎหมาย ไม่นานก็ลาออก เปลี่ยนงานใหม่เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จนโดนไล่ออกข้อหากระทำเกินกว่าเหตุ (หรืออีกนัยหนึ่ง คือ เขาทำตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายอย่างเคร่งครัดเถรตรง)
แถมอาศัยอยู่กับแม่ ซึ่งเอาเข้าจริงคนประเภทนี้ มีแนวโน้มจะเป็นพวกอาชญากรและฆาตกรต่อเนื่องได้เลย
FBI ไม่มี “หลักฐาน” อะไรที่จะเอาผิดริชาร์ดได้ นอกเสียจากทฤษฎีสมคบคิดและข้อสันนิษฐานลอย ๆ เท่านั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจดันฟันธงเชื่อว่าริชาร์ดนี่แหละ คือมือวางระเบิดแล้วแกล้งเตือนคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดัง กลายเป็นพระเอก จึงจับเขาไปสอบสวนแล้วปล่อยข้อมูลผ่านสื่อว่าเขาคือคนร้าย...
1
ริชาร์ดซึ่งเป็นวีรบุรุษถูกสื่อขุดคุ้ยได้รับความเสียหายอย่างหนัก จนมีการถอนฟ้องเพราะไม่พบหลักฐานว่าเขาเกี่ยวข้อง
1
ริชาร์ดถูกสื่อคุมคามและฟาดลงหัวข่าวหน้าหลัก (SOURCE : https://www.nytimes.com)
สุดท้ายผ่านไปหลายปีจึงพบว่าคนวางระเบิดเป็นหนุ่มผิวขาวคลั่งผิวชื่อ อีริค รูดอล์ฟ (Eric Rudolph) เป็นผู้ก่อการร้ายชาวอเมริกันที่ถูกตัดสินว่ามีการวางระเบิดหลายครั้งทั่วทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา
1
Eric Rudolph มือวางระเบิด (SOURCE : https://wikipang.com/wiki/Eric_Rudolph)
หลังการจับกุม อีริค รูดอล์ฟ (Eric Rudolph) หน่วย FBI เปิดเผยแรงจูงใจของมือวางระเบิดว่าเป็นผู้คลั่งไคล้เอกลักษณ์ของคริสเตียน ซึ่งมีทัศนะว่าผู้ที่ไม่ใช่คริสเตียนผิวขาวจะไม่ได้รับความรอด
1
ส่วนริชาร์ดนั้นแม้จะพ้นผิด แต่ก็โดนตราบาปอย่างแรง กระเทือนจิตใจ และเสียชีวิตลงในเวลาต่อมาในบ้านของเขา จอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา (Woodbury, Ga) ด้วยวัย 44 ปี เพราะโรคเบาหวาน แต่ช่วงชีวิตบั้นปลายของเขาก็เหมือนตายทั้งเป็น
1
เหตุการณ์นี้ทำให้ FBI โดนวิจารณ์อย่างหนัก ว่าใช้อำนาจเกินขอบเขต และไปยึดติดกับทฤษฎีใดทฤษฎีหนึ่งมากเกินไป จนทำให้พลาดมองเห็นภาพกว้างของคดีไป
1
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเรื่องนี้..
ริชาร์ด จีเวลส์ นับเป็นเหยื่อของกระบวนการยุติธรรมที่เป็นเครื่องเตือนใจสังคมมาจนถึงทุกวันนี้ การทำทุกวิถีทางเพื่อมุ่งขายข่าวและแสวงหาความสำเร็จของสื่อ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการ
1
ริชาร์ด จีเวลส์ ตกเป็นเป้าถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานาออกสื่อ (SOURCE : https://www.nytimes.com)
เป็นส่วนทำให้ชีวิตของเขายุ่งเหยิง โดยทุกวัน...จะมีคนไปเฝ้ารอทำข่าวหน้าบ้านริชาร์ด จนแม่ของริชาร์ดมีอาการทางจิต เกิดความเครียดสะสม
2
เพียงเพราะการนำเสนอเพียงด้านเดียวและไม่ได้สืบสาวหาข้อเท็จจริงก่อนจะตีแผ่ออกไป ทำให้คนดีคนหนึ่งเกือบจะต้องกลายเป็นผู้ก่อการร้าย ทั้ง ๆ ที่เขามีเจตนาที่ดีและต้องการปกป้องช่วยชีวิตคนอื่นเอาไว้ได้นับร้อยชีวิต
สภาพการใช้ชีวิตคน ๆ หนึ่งเปลี่ยนแปลงฉับพลัน อยู่แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ภายในบ้าน ท่ามกลางการรุมล้อมจ้องมองของฝูงนักข่าว, ถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานาออกสื่อ, ถูกรุมเร้าด้วยปัญหาสารพัน ฯลฯ
1
คงจะต้องแก้คำจากวลีฮิตที่ว่า "คนดีไม่มีที่อยู่" ให้กลายเป็น "คนดี..ต้องมีที่อยู่"
1
กับการต่อสู้ครั้งสำคัญ..หนึ่งในตำนานฮีโร่ในประวัติศาสตร์ของอเมริกัน ที่บางครั้งการทำความดีก็ได้สร้างความทุกข์มหันต์ให้คืบคลานเข้ามาในชีวิตเหมือนอยู่กลางมรสุม
2
เพราะตกเป็นเหยื่ออันโอชะของสื่อมวลชนไร้จรรยาบรรณและกระบวนการยุติธรรมที่ไร้มาตรฐาน และนี่คือชีวิตจริงของ "ริชาร์ด จีเวลส์" (Richard Jewell)
2
--- ผู้ที่เป็นฮีโร่..แปดเปื้อนมลทิน ---
5
ดูวิดีโอเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทสัมภาษณ์ช่วงที่เหตุการณ์ของ ริชาร์ด จีเวลส์ ได้ที่ :
1
ที่มา
โฆษณา