5 ส.ค. 2021 เวลา 13:10 • ข่าว
ตำรวจล่อซื้อ "ผอ.โรงพยาบาลบางกรวย" เรียกรับผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง! #ThaiNews #ไทยนิวส์ #ข่าวไวไทยนิวส์
ผู้สื่อข่าวรายงานตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ สำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมกันจับกุม นาย วิชัย รัตนภัณฑ์พาณิชย์ อายุ 53 ปี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ขณะกำลังรับเงินของกลางจำนวน 93,000 บาท จากผู้รับเหมาระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาล ซึ่งเป็นเงินที่เจ้าหน้าที่ใช้ทำการล่อจับ โดยเจ้าหน้าที่ไปจับกุมตัวได้ที่ห้องทำงานของผู้ต้องหาในโรงพยาบาล พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานและเอกสารจำนวนหนึ่งกลับมาตรวจสอบ โดยได้ทำการล่อซื้อผอ.โรงพยาบาลบางกรวย
วันที่ 5 สิงหาคม 2564 พลตำรวจตรี จรุงเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวได้รับการแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหาย ซึ่งร้องทุกข์กับทางสำนักงานปปท. ให้ช่วยตรวจสอบพฤติการณ์ของผู้อำนวยการคนดังกล่าว หลังจากที่ผู้เสียหายเข้าไปประมูลจัดซื้อจัดจ้างติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ภายในโรงพยาบาล ซึ่งมีมูลค่ากว่า 280,000 บาท แต่เจ้าตัวมีการเรียกรับเงินส่วนต่าง 15% ก่อนที่จะขอขยับเพิ่มเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 93,000 บาท
ผู้เสียหายจึงเห็นว่า เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะจะทำให้ทางผู้รับเหมาขาดทุนเป็นจำนวนมาก จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับ บก.ปปป.
จากนั้นได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่า จะมีการนัดมอบส่งเงินกันในวันนี้ จึงนำเงินของกลางที่ทำสัญลักษณ์ไว้ไปมอบให้ที่โรงพยาบาล และเมื่อผู้อำนวยการรับเงินของกลางแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธว่าเรียกรับเงินจำนวนดังกล่าวจริง แต่นำไปเพื่อใช้ภายในโรงพยาบาลและสาธารณประโยชน์ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองบังคับการ
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่า ผู้อำนวยการคนดังกล่าวมีประวัติถูกร้องเรียนในลักษณะใกล้เคียงกันนี้อีกหลายครั้ง ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียนต่างๆว่ามีมูลความผิดหรือไม่ หากพบว่ามีมูลพอที่จะดำเนินคดีหรือสืบสวนสอบสวนต่อได้ก็จะดำเนินการทันที และหลังจากนี้จะให้ทางสำนักงานปปท.ตรวจสอบเส้นทางการเงินรวมถึงลักษณะการฟอกเงินต่างๆด้วย
ด้านนาย ภูมิวิศาล เกษมศุข รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวสำนักงานปปท. ได้รับการร้องเรียนผ่านทางสายด่วน 1206 จากผู้เสียหาย จึงทำการตรวจสอบเบื้องต้นและประสานให้ทางตำรวจรับเรื่องดังกล่าวเป็นคดี ซึ่งผู้เสียหายก็พร้อมเข้าแจ้งความ ก่อนที่จะร่วมกันวางแผนเข้าจับกุม ซึ่งจากนี้จะเร่งรวบรวมข้อมูล เพื่อใช้ในการขยายผลของทางเจ้าหน้าที่ ตามเรื่องเส้นทางการเงิน และข้อมูลเกี่ยวข้องกับการทุจริตต่างๆให้กับทางตำรวจ
นอกจากนี้ยังฝากไปถึงผู้ประกอบการที่อาจถูกข้าราชการเรียกรับผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการในระดับใดก็ตาม สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนทางสายด่วน 1206 ได้ จากคดีนี้เป็นตัวอย่างว่า เจ้าหน้าที่พร้อมดำเนินการตรวจสอบ และหากพบว่ามีความผิดจริงก็จะประสานให้ตำรวจเข้าตรวจสอบจับกุมต่อไป
ทั้งนี้ภายหลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาสอบปากคำที่บก.ปปป. เลขานุการของผู้ต้องหาได้นำเงินสด 500,000 บาทมาขอประกันตัวผู้ต้องหา ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ โดยขั้นตอนหลังจากนี้ ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานเป็นสำนวนคดีส่งให้สำนักงาน ปปช. พิจารณาชี้มูลความผิด ก่อนส่งเรื่องไปยังศาลพิจารณามูลความผิดต่อไป
โฆษณา