6 ส.ค. 2021 เวลา 16:22 • ไลฟ์สไตล์
ลาก่อนนะสมุดของฉัน
ตั้งแต่เราได้อ่านหนังสือ 10 วิธีบำบัดความคิดและพฤติกรรม (10 cognitive Behavioral Therapy Made Simple) ของ Seth J. Gillihan หนึ่งสิ่งที่เราได้นำมาใช้บ่อยที่สุด คือ การเขียนกิจกรรมรายวัน เพื่อเป็นการกระตุ้นพฤติกรรมของเราไม่ให้จมไปความเครียด ปัญหา หรือกับความว่างเปล่า และเราได้เคยโพสต์ไปแล้วว่า เราได้นำวิธีนี้ไปถามคุณหมอจิตแพทย์ที่เรารักษาอยู่ และคุณหมอได้เพิ่มเติมว่าให้เขียนคะแนน ระดับความสุข ความภูมิใจ ความสำคัญ ในรายการสิ่งที่ต้องทำด้วย โดยเราก็ทำตามนะ และพบว่า เราตัดสินใจให้คะแนนตัวเองไม่ถูก
ไม่รู้ว่าควรให้คะแนนตัวเองเท่าไหร่ดี พิจารณารายละเอียดการให้คะแนนแต่ละช่องมากเกินไป อย่างถ้าเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างการอ่านหนังสือแน่นอนว่าความสุขมันต้องน้อย และไม่ต้องพูดถึงความภูมิใจ เราจะไปภูมิใจได้อย่างไรถ้าประสิทธิภาพในการอ่านมันไม่ดี พอมันเป็นแบบนี้มันก็ทำให้เราเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีในการต้องมานั่งประเมิน เราจึงตัดสินใจเลิกที่จะให้คะแนนในรายการสิ่งที่ต้องทำประจำวัน
อาจมีบางคนแย้งว่าหนังสือหลายๆเล่มบอกว่าการเขียนรายการสิ่งที่ต้องทำมันทำให้เราเสียเวลาและไม่ได้หมายความว่าเราทำมันสำเร็จ แถมมันยังทำให้เราหลงไปกับความสุขที่เราจะได้รับหากเราทำสำเร็จจนไม่ได้ลงมือทำ แต่สำหรับเรานะ เราไม่ได้เห็นแย้ง เพราะการลงมือทำมันยากกว่าการคิดที่จะลงมือทำ แต่ไม่ใช่ว่าการเขียนหรือจัดตารางสิ่งที่ต้องทำประวันมันจะไม่มีประโยชน์เลย เพราะการที่เราเขียนกิจกรรมที่ต้องทำ และจัดตารางให้กับตัวเอง มันทำให้เราโฟกัสกับตาราง ไม่ได้โฟกัสความรู้สึกของอารมณ์ตัวเอง มันจึงช่วยทำให้เราได้ทำกิจวัตรประจำวัน ไม่ได้จมกับความเศร้าที่คอยทำให้เราไม่อยากจะทำอะไร และเมื่อมีสติก็จะรู้สึกเสียดายเวลาอีก และยังเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ ดังนั้นการเขียนและจัดตารางในสิ่งที่ต้องทำประจำวันมันจึงช่วยให้เราไม่ต้องมีความรู้สึกที่วนลูปแบบที่เราได้กล่าวมา
เราขอแนะนำว่าอย่ายึดติดกับอะไรก็ตามที่ทำโดยเหตุผลอยากให้ตัวเองรู้สึกดี เพราะการทำแต่ละครั้งความรู้สึกที่ได้รับกับไปมันย่อมแตกต่างกัน และเมื่อสิ่งที่คุณได้รับกับไปมันลดลง มันจะทำให้คุณเลิกทำ ซึ่งเราก็เคยมีประสบการณ์นี้มาก่อนแล้ว ไม่ว่าจากการเขียนตารางกิจกรรมรายวัน หรือการอ่านหนังสือที่เราอยากอ่านก่อนนอน การทำพอดแคส หรือการเขียนเพจ ที่อยู่ดีๆความรู้สึกหลังจากที่ได้ทำสิ่งเหล่านี้มันลดลง และทำให้เรารู้สึกว่าทำไมทำแล้วไม่ดีเหมือนก่อนจึงเลิกทำ ทั้งที่จริงสิ่งเราเหล่านี้เราอยากจะลงมือทำ พอไม่ได้ทำกิจกรรมดังกล่าวเพราะความรู้สึกที่โรคซึมเศร้าคอยเป่าหูว่าทำแล้วไม่ดีขึ้น
ทั้งที่จริงสิ่งเราเหล่านี้เราทำเพราะอยากจะลงมือทำ พอไม่ได้ทำกิจกรรมดังกล่าวเพราะความรู้สึกที่โรคซึมเศร้าคอยเป่าหูว่าทำแล้วไม่ดีขึ้น พอไม่ทำ มันจึงทำให้เรารู้สึกแย่กว่าเดิม แต่พอกลับมาคิดได้ เราก็จะเริ่มต้นใหม่กับการลงมือทำสิ่งเหล่านี้อีกครั้ง โดยไม่ได้คำนึงถึงผลลัพธ์ความสุขที่จะได้กลับมา แต่คอยบอกกับความรู้สึกลบที่ปรากฎออกมาเมื่อทำเสร็จว่า "เราไม่ได้สนใจผลลัพธ์ เราทำเพราะเราอยากทำ" และการตอบกลับความคิดดังกล่าวมันก็จะทำให้มันไม่แว่บเข้ามาอีก แต่ถ้ามันยังแว่บมา เราก็พยายามจะตอบกลับแบบนี้ไป
เราขอย้ำว่าการเขียนตารางประจำวันนั้น ถ้าไม่ได้สำเร็จตามเป้าหมายที่เราเขียนไว้หรือไม่สามารถทำตามตารางได้ อย่าไปรู้สึกไม่ดี และล้มเลิกที่จะทำ เพราะบางวันเราก็ไม่ได้ทำสำเร็จตามเป้าหมายเลย บางวันก็ไม่ได้เขียนด้วยซ้ำไปเพราะรู้สึกว่าเขียนไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะทำไม่ได้อยู่ดี ซึ่งมันเป็นความคิดที่ผิด เพราะแค่เราเขียนลงไป เราก็ได้ย้ายความรู้สึกที่โฟกัสอยู่กับพลังงานลบมาสนใจสิ่งตรงหน้าซึ่งก็คือตารางนั่นเอง แค่นี้มันก็เป็นประโยชน์แล้ว และเราเชื่อว่าความรู้สึกที่อยากจะลงมือทำมันจะต้องปรากฎตัวตามมาขจัดความคิดแง่ลบแน่นอน
วันนี้ก็คงเป็นวันที่เราต้องบอกลาสมุดเล่มแรกที่เริ่มเขียนวันที่ 2 ธค 63 และเริ่มเดินทางไปกับสมุดเล่มใหม่ ซึ่งเราได้เริ่มเดินทางแล้วตั้งแต่วันที่ 1 สค 64 และแม้ว่าเราจะได้เริ่มเดินทางกับสมุดเล่มใหม่แล้ว แต่เราก็ยังไม่ได้บอกลาสมุดเล่มเก่าอย่างเป็นทางการ ถ้าพูดง่ายๆคือยังไม่ได้ทิ้งนี่แหละ อันที่จริงเราไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องเก็บไว้เพราะได้เขียนหมดทุกหน้ากระดาษแล้ว และไม่ได้คิดว่าจะต้องเก็บไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนความจำ เพราะเก็บสมุดไว้ไม่ได้ใช้ เราก็เกรงว่าคุณปลวกจะมาเยี่ยมบ้าน เพราะเคยมาแล้วเล่นเอาหนังสือเก่าที่เราเคยอ่านตอนเด็กไปหมดเลย พอเค้าไปแล้วก็ไม่อยากจะให้มาอีก ไม่ใช่ว่าไม่อยากเก็บนะ แต่เก็บไว้แต่ไม่ได้ใช่ประโยชน์ เพียงเอาไว้ในลิ้นชัก
เราว่าปล่อยเค้าไปดีกว่าเพราะเราไม่สามารถเขียนอะไรลงไปเพิ่มเติมได้แล้ว เหมือนกับที่ลูฟี่บอกลาเรือโกอิ้งแมรี่ เพราะเรือแล่นอีกไม่ได้แล้ว แม้ว่าสิ่งที่สมุดนี้ทำให้เราอาจไม่เทียบเท่าการเดินทางของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง แต่เราก็ขอขอบคุณช่วงเวลาดีๆที่มีให้กัน ให้เราได้หลุดโฟกัสจากความเศร้านะ <3
ปล.เราไม่ได้เผาสมุด เหมือนกับที่ลูฟี่เผาเรือเพื่อบอกลาครั้งสุดท้ายนะ
#โรคซึมเศร้า
#บันทึกโรคซีมเศร้า
#depression
#depressedalmond
#SavageDysthymiaStory
โฆษณา