งานหลักเท่าที่จำได้ก็คือ ตรุษจีน แน่นอนจะเป็นงานใหญ่มากผู้คนมากันเนืองแน่นจนแทบไม่มีที่ยืนและเดิน การตกแต่งต้องมีมังกร ตาเป็นไฟกระพริบได้ เกร็ดต้องเป็นทอง พู่จีนใช้อย่างเยอะ แทบจะต้องนอนค้างที่ห้าง รองมาก็ Christmas and Happy New Year กลับไปบ้านถึงกับนอนละเมอร้องเพลงจิงกาเบลกันเลยทีเดียว เพราะเปิดทั้งวันตลอดเวลาทำการ รายการอื่นๆเช่น คุณหนูรักเรียน ต้อนรับเปิดเทอม เมื่อก่อนยังไม่มีคำว่า back to school เหมือนสมัยนี้
ป้ายไม้อัดทาสีรองพื้นและพ่นด้วยบล็อกกระดาษขาวเทา แกะเป็นตัวหนัวสือและลวดลายก่อนบรรจงพ่นสีเสปรย์ให้เป็นสีต่างๆตามแบบ ติดตามผนังด้านข้างห้างฯฝั่งซอยมังกร รายการต้อนรับเปิดเทอม ต้องนี่เลยครับ "คุณหนูรักเรียน" เมื่อก่อนยังไม่มีคำว่า back to school เหมือนสมัยนี้ ผู้ปกครองพาลูกหลานมาเลือกซื้อเสื้อผ้านักเรียนและอุปกรณ์เครื่องเขียนกันอย่างคึกคัก
Cosmetics Festival นี่จะประมาณช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ Gala sale ลดราคากลางปี Lady Special ฯลฯ จะได้พักเดินจีบ PC หรือพนักงานห้าง(แฮ่ม!!ย้อเย่นนะครับ) บ้าง ก็ประมาณกลางๆของแต่ละรายการ และงานทั้งหมดไม่มีตัวช่วย ทุกอย่างคั้นออกมาจากหัวสมองของหัวหน้า พวกเรามีแต่มือกับหัวใจเท่านั้น ที่จะเนรมิตและสรรค์สร้างงานออกมาให้สวยงามและดึงดูดสายตาคนนับร้อยนับพันคนของย่านที่จอแจมากที่สุดในกรุงเทพย่านหนึ่ง
เทศกาลไหว้พระจันทร์🌙 ต้องคู่กับรายการนี้ Cosmetics Festival เทศกาลลดราคาเครื่องสำอางค์ สุภาพสตรีทั่วสารทิศจะมาเดินเลือกซื้อเครื่อง*สำอาง(มีเสื้อผ้ากับชุดชั้นในสตรีด้วย) เช่น pias cover mark tell me ฯลฯ กันอย่างเนืองแน่นราวแจกฟรี *สำอาง เดี๋ยวนี้เขียนไม่มี ค์
Lady Special ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าสำหรับท่านสุภาพสตรีที่มีคลาส สินค้าเสื้อผ้าบูติกสตรีแบรนด์ดังๆมากันครบ การตกแต่งถ้าเป็นสมัยนี้ยิงอิงค์เจ็ตพรืดเดียวจบ แต่เมื่อก่อนกว่าจะติดกระดาษสีแต่ละแผ่น ตัวหนังสือไดคัตพ่นสีมาแต่ละตัว บนทางโค้งนี้ ต้องยืนบันไดแปะกันขาแข็งเกือบสว่างคาตา เป็นเรื่องปกติที่ช่างศิลป์ห้างต้องเจอ