7 ส.ค. 2021 เวลา 10:17 • ศิลปะ & ออกแบบ
จุเริ่มต้นของตำนาน#เส้นทางช่างศิลป์
2525-2564/1982-2021
🎉3️⃣9️⃣ปี#เส้นทางช่างศิลป์
ห้างดังในตำนาน กลางไชน่าทาวน์
ห้างคาเธ่ย์ เยาวราช 耀華力 国泰 百货公司 Yàohuá lì guótài bǎihuò gōngsī เอี่ยวหั่วลัก กกไถ่ แปะฮ่วยกงซี
ขอนำพ่อแม่พี่น้องย้อนเวลากลับไปปลายปี 2525 ใจกลางย่านเยาวราชที่เต็มไปด้วยสีสันตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน กับเส้นทางการทำงานอันแสนยาวไกลและคดเคี้ยว มีทั้งขึ้นสุดและลงจนเกือบเรี่ยดิน ของอาชีพช่างศิลป์ ในยุคทำมือ
ณ ห้างคาเธ่ย์ฯ เยาวราช ผู้เขียนเป็นช่างศิลป์ของห้างนี้ ตั้งแต่ ธ.ค.2525 - มี.ค.2527 ที่นี่เปรียบเสมือนมหา'ลัยชีวิตในการทำงาน และการใช้ชีวิตในวัยหนุ่มฉกรรจ์ ด้วยอายุในขณะนั้น ยังคาบเกี่ยวช่วงวัยรุ่นกับวัยบรรลุนิติภาวะ คือ 21 ปี จากการทำงานในที่ทำงานก่อนหน้ากับผู้คนแค่ 2-3 หรือไม่เกินหลักสิบคน มาทำงานในหมู่ผู้คนเพื่อนร่วมงานหลักร้อย ชายหญิงมากหน้าหลายตา ทั้งสาวสวยหนุ่มหล่อแต่งกายด้วยชุดสุดเท่ห์ เหมือนหลุดจากแม่น้ำลงสู่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลในสมัยนั้น
ภาพนี้เป็นช่วงปลายๆของห้างคาเธ่ย์ฯ ป้ายหน้าห้างฝั่งถนนเยาวราชทำใหม่ ที่ติดป้ายโฆษณา cut-out ถูกแทนที่ด้วยครอบกระจก ด้านในเป็นโมบายดิสเพลย์ ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆเหมือนป้ายฯที่ต้องเปลี่ยนทุก 15 วันตามรายการโปรโมชั่น เครดิตภาพจากอินเตอร์เน็ต
ในช่วงห้วงเวลานั้น ปลายปี 2525 เศรษฐกิจไทยดีมาก ทุกๆห้างฯแข่งขันกันจัดโปรโมชั่นตามเทศกาลหรือฤดูต่างๆเพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาเดินเลือกซื้อสินค้าที่ห้างตน ห้างคาเธ่ย์ฯก็เช่นกัน รายการโปรโมชั่นที่นี่เปลี่ยนทุก 15 วัน 1 ปี มี 12 เดือน x2 = 24 ครั้ง/ปี
งานหลักเท่าที่จำได้ก็คือ ตรุษจีน แน่นอนจะเป็นงานใหญ่มากผู้คนมากันเนืองแน่นจนแทบไม่มีที่ยืนและเดิน การตกแต่งต้องมีมังกร ตาเป็นไฟกระพริบได้ เกร็ดต้องเป็นทอง พู่จีนใช้อย่างเยอะ แทบจะต้องนอนค้างที่ห้าง รองมาก็ Christmas and Happy New Year กลับไปบ้านถึงกับนอนละเมอร้องเพลงจิงกาเบลกันเลยทีเดียว เพราะเปิดทั้งวันตลอดเวลาทำการ รายการอื่นๆเช่น คุณหนูรักเรียน ต้อนรับเปิดเทอม เมื่อก่อนยังไม่มีคำว่า back to school เหมือนสมัยนี้
ป้ายไม้อัดทาสีรองพื้นและพ่นด้วยบล็อกกระดาษขาวเทา แกะเป็นตัวหนัวสือและลวดลายก่อนบรรจงพ่นสีเสปรย์ให้เป็นสีต่างๆตามแบบ ติดตามผนังด้านข้างห้างฯฝั่งซอยมังกร รายการต้อนรับเปิดเทอม ต้องนี่เลยครับ "คุณหนูรักเรียน" เมื่อก่อนยังไม่มีคำว่า back to school เหมือนสมัยนี้ ผู้ปกครองพาลูกหลานมาเลือกซื้อเสื้อผ้านักเรียนและอุปกรณ์เครื่องเขียนกันอย่างคึกคัก
Cosmetics Festival นี่จะประมาณช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ Gala sale ลดราคากลางปี Lady Special ฯลฯ จะได้พักเดินจีบ PC หรือพนักงานห้าง(แฮ่ม!!ย้อเย่นนะครับ) บ้าง ก็ประมาณกลางๆของแต่ละรายการ และงานทั้งหมดไม่มีตัวช่วย ทุกอย่างคั้นออกมาจากหัวสมองของหัวหน้า พวกเรามีแต่มือกับหัวใจเท่านั้น ที่จะเนรมิตและสรรค์สร้างงานออกมาให้สวยงามและดึงดูดสายตาคนนับร้อยนับพันคนของย่านที่จอแจมากที่สุดในกรุงเทพย่านหนึ่ง
เทศกาลไหว้พระจันทร์🌙 ต้องคู่กับรายการนี้ Cosmetics Festival เทศกาลลดราคาเครื่องสำอางค์ สุภาพสตรีทั่วสารทิศจะมาเดินเลือกซื้อเครื่อง*สำอาง(มีเสื้อผ้ากับชุดชั้นในสตรีด้วย) เช่น pias cover mark tell me ฯลฯ กันอย่างเนืองแน่นราวแจกฟรี *สำอาง เดี๋ยวนี้เขียนไม่มี ค์
ตู้โชว์ด้านข้างห้างฝั่งซอยมังกร จะยาวคู่ขนานไปกับห้าง ที่เห็นเป็นตู้โชว์สินค้าของแผนกสินค้าไทย Gala Sales คืองานลดราคาประจำปี ลดยิ่งใหญ่กลางปี 1 - 15 มิ.ย.26
Lady Special ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าสำหรับท่านสุภาพสตรีที่มีคลาส สินค้าเสื้อผ้าบูติกสตรีแบรนด์ดังๆมากันครบ การตกแต่งถ้าเป็นสมัยนี้ยิงอิงค์เจ็ตพรืดเดียวจบ แต่เมื่อก่อนกว่าจะติดกระดาษสีแต่ละแผ่น ตัวหนังสือไดคัตพ่นสีมาแต่ละตัว บนทางโค้งนี้ ต้องยืนบันไดแปะกันขาแข็งเกือบสว่างคาตา เป็นเรื่องปกติที่ช่างศิลป์ห้างต้องเจอ
ห้างคาเธ่ย์ดีพาร์ทเม้นสโตร์ สาขาเยาวราช มีทางเดินอัตโนมัติ(Auto Walk แบบเดียวกับตามสนามบิน)เป็นแห่งแรกของเมืองไทย เป็นกิจการของครอบครัวกมลวิศิษฎ์ โดยคุณวิโรจน์และชูชาติ พี่ชายของคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ราวๆปลายปี 26 เริ่มขยายสาขาที่ 2 ที่วงเวียนใหญ่ ข้างสถานีรถไฟสายวงเวียนใหญ่ - แม่กลอง โดยคุณชูชาติแยกตัวออกมาบริหาร จำได้วันใกล้เปิดต้องระดมช่างศิลป์จากเยาวราชมาช่วยกับฝ่ายศิลป์สาขา ลุยตกแต่งห้างกันยันเช้า
เป็นประสบการณ์ชีวิตที่เล่าขานเป็นตำนานการทำงานของช่างศิลป์ห้าง ที่มีแต่สองมือกับหนึ่งหัวใจ ในยุคไร้คอมฯ
เชิญชมภาพพร้อมคำบรรยาย และร่วมเดินทางย้อนอดีตไปด้วยกันครับ
ทางเข้าห้างด้านหน้าฝั่งถนนเยาวราช อดีตจะจ้อกแจ้กจอแจไปด้วยผู้คนทุกเพศวัยที่มุงหน้ามาลอง ออโต้วอล์ก ทางเลื่อนอัตโนมัติแห่งแรกของประเทศไทย ประมาณเหมือนเมื่อก่อนที่มีบันไดเลื่อนแห่งแรกที่ห้างไทยไดมารู หรือห้างไทยกะไดมีรู ที่เด็กรุ่นนั้นชอบล้อกัน
ถ่ายย้อนออกไปทางเข้า ด้านซ้ายที่เป็นกระจกจะเป็นพื้นที่จัดดิสเพลย์ โชว์หุ่นผ้าสีดำ(ดัดได้)ใส่เสื้อผ้าและวางโชว์สิ่งของที่มีขายในห้าง เหมือนตู้โชว์แบบเปิด
ด้านซ้ายมือหรือขวามือถ้ามาจากทางเข้าหน้าห้าง คือห้องฝ่ายศิลป์ ที่ทำงานของช่างศิลป์ ซึ่งเป็นแผนกเดียวที่มีห้องทำงานอยู่ภายในตัวห้าง
ร้านดังกิ้นในภาพ เมื่อก่อนเป็นห้องฝ่ายศิลป์ปิดด้วยไม้อัดทาสีขาว ประตูบานสวิง บางครั้งลูกค้าจูงลูกเข้ามาจะยืนฉี่ ร้องห้ามกันเสียงหลง ซ้ายมือตรงร้าน Inthanin จะเป็นแผนกเครื่องหนัง ยาวลึกเข้าไป ขายกระเป๋าหนังแท้แบรนด์ดังจากต่างประเทศ
บันไดทางขึ้นแผนกเครื่องเขียน เครื่องใช้ไฟฟ้า ห้องช่างศิลป์คือร้านดังกิ้นโดนัท ในปัจจุบัน เข้าจากหน้าร้านเข้าไปห้องช่างไฟจะอยู่ใต้บันไดใช้ทางเข้าเดียวกัน ตรงบันไดช่วงพักเหนือห้องช่างศิลป์เมื่อก่อนจะมีที่ว่าง ใช้เป็นที่พ่นสีทำป้ายโปสเตอร์
นี่แหละครับเวิร์คช้อปจำเป็นเหนือห้องศิลป์ ปัจจุบันเขาเอาหญ้าเทียมมาปู เมื่อก่อนเลอะไปด้วยสีเสปรย์ ไม่รู้เมื่อก่อนนั่งพ่นไปได้อย่างไร เป็นร้อยแผ่น
ขึ้นมาแล้วจะเป็นลานกว้างหน้าลิฟท์ เมื่อก่อนส่วนนี้จะอยู่นอกตัวห้าง นี่แหละคือเวิร์กช้อปใหญ่อีกที่ของเรา เพราะเป็นที่ใช้เขียนป้าย cut-out แบบโรงหนัง ติดอยู่ฝั่งทางเข้าด้านถนนเยาวราช มี 3 ท่อน แต่ละเฟรมสูงท่วมหัวเลยเทีเดียว เลอะเทอะไปด้วยสีน้ำ 15 วันเลอะที ป้าแม่บ้านบ่นประจำ (สุดท้ายกลายเป็นแม่ยายหัวหน้า) เฟรมจะพิงผนังที่เป็นร้านในภาพ ผมเริ่มหัดเขียนป้ายด้วยการเริ่มต้นจากเด็กล้างแปรงและ
ลูกกิ้ง ฝึกวิชาด้วยการใช้ลูกกิ้งทาสีขาวทับรูปเดิม สีขาวกระเด็นเต็มตัว เดินเข้าไปล้างตัวในห้องน้ำห้าง สาวๆล้อกันใหญ่ กว่าจะได้ลงมือเขียนเป็นมือรองก็ฝึกวิชาอยู่พักใหญ่ แถมยังต้องขึ้นติดป้ายคัตเอาท์กันเอง ปีนโครงเหล็กขึ้นไปรอด้านบน ผู้เขียนกลัวความสูงเลยอยู่ภาคพื้นดินคอยรับป้ายเก่าที่เขาหย่อนลงมาไปเก็บ แล้วจึงแบกเฟรมใหม่มัดเชือกแล้วให้ข้างบนดึงขึ้นไปติด บางครั้งลมแรงๆแบกป้ายเลี้ยวเข้าซอยมังกร ลมตีแทบจะปลิวไปตามลมแบบเรือใบ เพราะช่างศิลป์ส่วนใหญ่หุ่นออกแนวขี้ยาผอมกะหร่องกร่องแกร่ง
เดินเข้าไปพื้นที่ห้างชั้น 2 จะมีประตูกระจก เคยครั้งนึงไฟดับ รปภ ต้องปิดประตูห้างทั้งหมด มีคนเดินชนกระจกแตกด้วย เดินตรงไปจะเป็นแผนกเครื่องเขียน บูติกสตรี และเครื่องเสียงอยู่สุดทางลงบันไดอีกฝั่ง
เดินเลี้ยวมาทางขวา ซ้ายมือในภาพจะมีขายพวกโปสการ์ดอวยพร ทางเดินฝั่งขวาสุดทางจะมีห้องประชาสัมพันธ์ที่ใช้ประกาศและเปิดเพลงในห้าง...ท่านผู้มีอุปการะคุนโปรดทราบ บลาๆๆๆ ตรุษจีน ปีใหม่ สงกรานต์ จะเปิดเพลงตามเทศกาลทั้งวัน ต้องทำงานในนั้นตั้งแต่ 10.00 - 19.00 คือได้ยินวันละ 9 ชม. กลับบ้านละเมอร้องเพลงจีนหรือจิงกาเบลกันเลยทีเดียว ผมสนิทกับพี่คนประกาศหน้าไมค์ แกเป็นหัวหน้าแผนก
ปชส สวยแซ่บเว่อร์(ภาษายุคนี้)มากๆ ขออภัยที่ลืมชื่อ พี่แกตาโตสวยคมแต่งหน้าจัด อิอิ ปกติของพนักงานห้าง เคยแอบเอาเพลงร็อคสากลให้แกเปิด ได้แปปเดียวโดนสั่งปิด อิอิ ในสุดจะเป็นแผนกเด็กเล่น เด็กๆเดินกันยั้วเยี้ย ยุคนั้นมีของมาใหม่เรียกว่า คืนเดียวใหญ่ ฮือฮามากเป็นตุ็กตาตัวเล็กๆนิ่มๆ สรรพคุณคือแช่น้ำไว้ข้ามคืน รุ่งขึ้นจะพองใหญ่เพราะดูดซึมน้ำเข้าไป แต่ภายหลังโดนสั่งห้ามเนื่องจากเกรงเด็กเล็กกลืนเข้าไป
นี่คือบันไดทางขึ้นอีกฝั่ง ขึ้นไปจะเป็นแผนกไฟฟ้า แผนกของเล่น โปสการ์ด ต่างๆ ตรงที่พักบันได(เมื่อก่อนจะกว้างกว่านี้มาก)มีตู้แดงหยอดเหรียญโทรศัพท์สาธารณะ บรรดาพีซี พนักงานขายจะมารอคิวคอยโทรกลับบริษัทกันทั้งวัน ผนังคำว่าตลาดโลตัสจะเป็นแผนกสุราต่างประเทศ ถัดเข้าไปเป็นแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ต ซ้ายมือของ
บันไดจะเป็นห้องประชาสัมพันธ์ กันเป็นเคาน์เตอร์ไว้รับแลกของกำนัลและติดต่อสอบถาม โดยมีพนักงานสาวสวยคอยให้บริการ
เวลาจัดรายการ ซ้ายมือเป็นทางเข้ามาจาก ออโต้วอล์กด้านถนนเยาวราช และมีประตูทางเข้าจากซอยมังกรมุมบนซ้ายของภาพ ขวามือเป็นแผนกเครื่องสำอางค์ ตรงผนังไม้มีประตูเข้าตู้โชว์ข้างหน้าห้างฝั่งซอยมังกร
พวกเราเรียกตรงนี้ว่า ทางโค้ง จะใช้ติดชื่องานและตกแต่งตามเทศกาลต่างๆปัจจุบันคนพอมีแต่ถือว่าน้อยมากถ้าเทียบกับอดีต
ตู้โชว์หรือ Window Display แบ่งกันคนละครึ่งระหว่างแบรนด์กับห้าง บรรยากาศหน้าห้างด้านซอยมังกร สะอาดสะอ้าน เป็นระเบียบน่าเดิน
ภาพจุดเดียวกันเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
ตู้โชว์หรือ Window Display แบ่งกันคนละครึ่งระหว่างแบรนด์กับห้าง บรรยากาศหน้าห้างด้านซอยมังกร สะอาดสะอ้าน เป็นระเบียบน่าเดินปัจจุบันเปลี่ยนไปตามยุตสมัยและกาลเวลา ร่มกับแผงลอยบังซะมิด
ปัจจุบันเปลี่ยนไปตามยุตสมัยและกาลเวลา ร่มกับแผงลอยบังซะมิด
ภาพนี้ถ่ายในห้องช่างศิลป์ หลังผนังนี้คือทางเข้าด้านหน้าฝั่งถนนเยาวราช หรือทางเดินออโต้วอล์กนั่นเอง *ผู้เขียนซ้ายมือกับช่างศิลป์รุ่นพี่
ทีมงานบางส่วนแอคท่าถ่ายภาพขณะรอเข้างานสังสรรค์ปีใหม่ของห้าง ด้านหลังภาพเขียนระบุวันที่ 1 ม.ค. 2526 *ผู้เขียนคนที่สองจากซ้าย
หมายเหตุ : เรื่องราวต่างๆมาจากเหตุการณ์จริง หากพาดพิงถึงใครหรือข้อมูลผิดพลาดคลาดเคลื่อน ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ผู้เขียนมิได้มีเจตนาอื่นใดนอกจากเล่าย้อนอดีตความทรงจำในวัยแรกเริ่มทำงาน
เรากลับไปแก้ไขอดีต..ไม่ได้
แต่
เราทำวันนี้ให้ดีที่สุด..ได้
Linxikun
#เส้นทางช่างศิลป์
#ช่างศิลป์คาเธ่ย์
#ช่างศิลป์ยุคทำมือ
#ช่างศิลป์ในตำนาน
โฆษณา