8 ส.ค. 2021 เวลา 06:53 • ธุรกิจ
😁 ขออนุญาตสถาปนาตัวเอง เป็น Food economist นะงับบ (กำลังฝึกหัดอยู่เลยขอกำลังใจด้วยค้าบบบบบ)
#EP.1
วันนี้ขอนำเสนอ 4 สุดยอดธุรกิจ Start-Up สำหรับคนรักอาหาร ที่อาจสร้างรายได้ให้คุณเป็นกอบเป็นกำ ไอเดียธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารแบบไม่ซ้ำใคร เลยอยากมาแลกเปลี่ยนสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกท่านที่กำลังมองหาไอเดียในการ start-up นะงับบ
1. Blue Apron
สตาร์อัพรายแรกชื่อ “Blue Apron” เป็นแอพลิเคชั่นสัญชาติอเมริกาที่ขายสูตรอาหารพร้อมจัดส่งวัตถุดิบในการทำอาหารทุกชนิดตามสูตรทั้ง เนื้อสัตว์ เครื่องเทศ เครื่องปรุง น้ำมันและเนย ที่สำคัญ Blue Apron หั่นและตวงมาให้เสร็จสรรพก่อนจะส่งตรงถึงบ้าน ด้วยเหตุนี้บริการของ Blue Apron จึงถูกอกถูกใจแม่บ้านมือใหม่ หรือแม่บ้านที่ขี้เกียจจ่ายตลาด และนอกจากความสะดวกสบาย Blue Apron ยัง การันตีว่าทุกเมนูเมื่อปรุงเสร็จรสชาติเด็ด !!!
🧐ไอเดียตั้งต้น :
Blue Apron มองเห็นช่องว่างความต้องการของแม่บ้านยุคใหม่ ที่เวลาน้อยไม่มีเวลาจ่ายตลาด ไม่มีเวลาเตรียมกับข้าว แต่อยากให้ครอบครัวได้กินอาหารทำเองที่ดีต่อสุขภาพ Blue Apron จึงเสนอบริการที่ช่วยลดขั้นตอนและประหยัดเวลาที่ต้องใช้ในการทำอาหารเสียเลย
💪จุดแข็ง :
1. Blue Apron กำหนดให้ผู้ใช้บริการต้องสมัครสมาชิกเพื่อรับชุดประกอบอาหารที่ทาง Blue Apron จัดส่งให้สัปดาห์ละครั้ง ดันนั้น Blue Apron จึงรู้จำนวนลูกค้าล่วงหน้าทำให้ควบคุมปริมาณการผลิตได้ง่าย
2. Blue Apron มีเครือข่ายเกษตรท้องถิ่นซึ่งผลิตวัตถุดิบป้อนให้ ด้วยเหตุนี้ผู้ใช้บริการของ Blue Apron จึงได้รับวัตถุดิบสดใหม่ส่งตรงถึงหน้าประตูบ้าน
💸ราคา :
สำหรับ Package 2 ท่าน ราคาเฉลี่ยคนละ 9.99 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 300 บาท ต่อหนึ่งมื้อ ส่วนแพคเกจสำหรับ 4 คนราคาต่อหัวจะลดลงเหลือคนละ 8.74 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 250 บาท โดยปัจจุบัน Blue Apron มีลูกค้าขาประจำมากถึง 100,000 คน
2. Eatwith
🧐ไอเดียตั้งต้น :
ไอเดียแรกเป็นธุรกิจที่เจาะกลุ่มลูกค้าอยากทำอาหารกินเองที่บ้าน ไอเดียถัดมาจะเป็นธุรกิจที่เปลี่ยนประสบการณ์การกินข้าวนอกบ้าน สตาร์ทอัพรายนี้ชื่อว่า “Eatwith” ในเมื่อการกินข้าวตามร้านอาหารทั่วไปเริ่มซ้ำซากจำเจ ไม่น่าตื่นเต้นซักเท่าไหร่นักโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์แปลกใหม่ Eatwith จึงทำแอพลิเคชั่นเชื่อมนักท่องเที่ยวกับเจ้าของบ้านที่รักการทำอาหาร โดย App นี้ทำให้นักท่องเที่ยวได้กินอาหารแบบออริจินอลที่บ้านของคนทำ ส่วนตัวเจ้าของบ้านเองก็สามารถมีรายได้เพิ่ม แถมยังได้เพื่อนใหม่อีก
💪🤑ความท้าทายสำคัญ :
Eatwith ต้องควบคุมคุณภาพของเจ้าของบ้านที่เปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยว โดยใช้ทีมงาน Eatwith ลงตรวจสอบมาตรฐานและมีมาตรการกำหนดให้ 1 อาทิตย์เจ้าของบ้านจะให้บริการนักท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ในขณะเดียวกัน Eatwith ก็ต้องช่วยสแกนผู้ใช้บริการให้เจ้าของบ้านเช่นกัน ซึ่ง Eatwith ใช้ระบบการให้เรทติ้งนักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการ
💸ราคา :
ราคา : ขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้านในแต่ละมื้อ มีตั้งแต่ $30 ไปจนถึง $100
#ติดตามต่อในEP.2นะครับ
#หากแอดมินเขียนผิดพลาดประการใดต้องขอคำชี้แนะด้วยค่าบบ
โฆษณา