18 ส.ค. 2021 เวลา 14:26 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รีวิววาย : Youths in the Breeze (China - 2020)
"...มินิซีรีส์ 3 เรื่องจากจีน ที่ทำให้รู้สึกว่า BL จากจีนกำลังจะกลับมา!!!"
4
เกริ่นนำ : หรือว่า BL จากจีนจะกลับมาแล้ว??
Youths in the Breeze นี้เป็นซีรีส์น้องใหม่จากประเทศจีน เข้าฉายครั้งแรกใน Youku จากนั้นก็ Online Youtube ทาง Yo Yo Channel ช่วงเดือนธันวาคม ปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งซีรีส์ชุดนี้ประกอบไปด้วยมินิซีรีส์ 3 เรื่องด้วยกัน โดยแต่ละเรื่องมีความยาวแปดตอนสั้นๆประมาณตอนละ 7-8 นาทีด้วยกัน และทั้ง 3 เรื่องไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะฉะนั้นดูแยกกันได้ แต่แนะนำว่าดูให้ครบทั้ง 3 เรื่องนั่นแหละ ... ฟินกันไปคนละแบบครับ
ก็เป็นซีรีส์จีนเรื่องใหม่ ที่มีบรรยากาศความเป็น BL แบบค่อนข้างชัดเจน แม้มันจะไม่ได้เป็น BL 100% แบบสมัยก่อน แต่ก็ทำให้แฟนๆสายวายมีความตื่นเต้นกันพอสมควร เพราะวงการวายของจีนห่างหายจากงานประเภทนี้มานาพอสมควรแล้วครับ ... ก็พบว่าในบรรยากาศของเรื่องก็ดี หน้าตาบุคคลิกของนักแสดงก็ดี หรือเนื้อเรื่องในหลายๆส่วนก็ดี เหมือนกับว่าความเป็น BL จากจีนกำลังจะกลับมาครับ ดูแล้วมันหัวใจพองโตตุ้มๆต่อมๆกว่าดูซีรีส์มิตรภาพแบบที่ผ่านๆมาอีกครับ
... เอาละครับไม่พูดเยอะ เรามาดูเรื่องราวย่อๆกันว่าแต่ละเรื่องจะมีเรื่องราวและความน่าสนใจยังไงกันบ้าง!!
1. The Boy and the Cat
เรื่องย่อ :
Jiang Xia หนุ่มน้อยนักศึกษามหาวิทยาลัยกลับมาบ้านพี่สาวของเค้า โดยการกลับมาครั้งนี้เขามีจุดประสงค์บางอย่างที่ยังลังเลไม่กล้าบอกให้พี่สาวรับรู้ แต่ทว่าเขาได้เจอเรื่องประหลาดบางอย่างเสียก่อน ก็เลยไม่มีโอกาสได้สารภาพออกไป ซึ่งเรื่องประหลาดนั่นก็คือ ...
... แมวแสนรักของพี่สาวเขาที่ชื่อว่า Xiao Kui มีพลังพิเศษสามารถแปลงร่างเป็นคนได้!!! ซึ่งความลับนี้มีเพียง Jiang Xia เท่านั้นที่รู้!!
... นั่นก็เป็นเพราะว่าการกลับมาครั้งนี้ของ Jiang Xai ทำให้ Xiao Kui รู้สึกว่าถูกรบกวนชีวิตประจำวันอันแสนสุขของเค้าไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโซฟาที่เค้านอนอยู่เป็นประจำ ก็ถูก Jiang Xia แย่งเอาไปเป็นที่นอน หรือ การที่ Jiang Xia แพ้ขนแมว ทำให้ไม่ค่อยถูกชะตาหรือมีท่าทีเป็นมิตรกับแมวเท่าไหร่ ทำให้ Xiao Kui จึงต้องแปลงร่างเป็นมนุษย์ เพื่อมาจัดการ Jiang Xai ผู้รุกรานความสุขคนใหม่ของเค้า
หลังจากที่ Jiang Xia ได้รู้ความลับนี้แล้ว ตอนแรกก็เกือบจะบอกเรื่องนี้ให้พี่สาวได้รู้ แต่บังเอิญว่า Xiao Kui ดันไปรู้จุดประสงค์ที่ Jiang Xia ไม่กล้าบอกพี่สาวเข้าจนได้ เลยทำให้ Xiao Kui ใช้เป็นข้อได้เปรียบในการบังคับให้ Jiang Xia ต้องจำใจเป็นทาสแมว (ในร่างมนุษย์) เพื่อชดเชยกับการที่เขาต้องเสียความเป็นส่วนตัวไป ... (พาร์ทนี้บอกได้คำเดียวเลยครับว่าจิ้นมาก)
แต่แล้ววันนึงก็มีเพื่อนแมวของ Xiao Kui ได้จุดประเด็นเรื่องของความรักของคนที่มีต่อแมวนั้นมันไม่ยั่งยืน ก็เลยเอ่ยปากชวน Xiao Kui หนีออกจากบ้านไปใช้ชีวิตในโลกอิสระของแมวด้วยกัน แต่ Xiao Kui ก็ยังลังเลเพราะว่าทุกวันนี้พี่สาวของ Jiang Xia นั้นดีต่อเค้ามาก เพื่อนแมวจึงบอกให้เค้าไปทำการทดสอบโดยให้ไปท้าแข่งขันแย่งความรักกันระหว่าง Jiang Xia กับ Xiao Kui ว่าพี่สาวของ Jiang Xia จะรักใครมากกว่ากัน เพื่อพิสูจน์ว่าขนาดน้องชายแท้ๆ ถ้าพี่สาวของ Jiang Xia ยังรักเค้ามากกว่า แสดงว่ามนุษย์ต้องการแมวอย่างเค้าจริงๆ
การแข่งขันจึงเกิดขึ้น โดยพบว่า 2 บททดสอบแรกในเรื่องความใกล้ชิด ความเอาอกเอาใจ ฝ่าย Xiao Kui มั่นใจมากว่าเค้าคิดถูกว่ามนุษย์ต้องการเค้าจริงๆ โดยสองบททดสอบแรกนี้ Xiao Kui เอาชนะ Jiang Xia ได้แบบไม่ต้องสงสัย ... แต่ในบททดสอบที่ 3 เรื่องความห่วงใยนี้ซิ แทนที่จะบทตัดสินว่าสิ่งที่ Xiao Kui คิดนั้นถูกต้องแล้ว แต่มันกลับกลายเป็นว่ามีเหตุที่ทำให้ทั้ง Jiang Xia และ Xiao Kui ตัดสินเดินออกจากบ้านหลังนั้นมาทั้งคู่ด้วยความเสียใจ ...... เอาเป็นว่าเล่าแค่นี้แล้วกัน ไม่อยากสปอยด์เรื่องตอนจบ ไปลุ้นกันเองนะครับ
ความน่าสนใจ :
เรื่องราวในตอนนี้ต้องสารภาพว่าเป็นตอนที่เข้าใจยากที่สุดครับ เพราะด้วยมันไม่มีซับไทย ต้องดูซับอังกฤษแล้วคำศัพท์ค่อนข้างยากกว่าหลายๆเรื่องที่ผ่านมาก็เลยงงกับเนื้อเรื่องพอสมควร แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้มันชุ่มชื่นหัวใจมันอยู่ตรงที่นักแสดงนำทั้ง 2 คนที่เรียกว่างานดีมาก คือน้อง Jing Yan Jun ที่รับบทเป็น Jiang Xia เป็นเด็กจีนที่ไม่ว่าทำท่าทางอะไรก็น่ารักไปหมด ตาสระอิแบ๋วมากครับ ส่วน Lei Hao Xiang ที่รับบทเป็นคุณแมว Xiao Kui ของเราก็เป็นโครตแมวที่หล่อมาก คือเป็นคนที่สะดุดตามากที่สุดตั้งแต่เห็นหน้าพรีวิวของเรื่อง
Cast : Jing Yan Jun (as Jiang Xia), Lei Hao Xiang ( as Xiao Kui)
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมากๆที่ควรเข้ามาดูในตอนนี้คือความที่พระเอกของเราเป็นแมวที่แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้นี่แหละครับ มันก็เลยทำให้การ Skinship ระหว่างคนกับแมว (ที่แปลงร่างเป็นคน) กลายเป็นภาพที่คนดูต้องแอบจิกหมอนกันเลยทีเดียว แม้ว่าในเรื่องเค้าเล่าแค่ว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กันแค่น้องชายเจ้าของกับแมวที่เลี้ยงเอาไว้เท่านั้น แต่ภาพที่ออกมานี้เค้าตั้งใจให้เราจินตนาการเลยครับว่า BL ชัดๆ ... บอกเลยว่าแค่การสกินชิพของผู้ชายงานดี 2 คนในตอนนี้ ... ไม่ควรพลาดครับ!!!
2. People from the Story
เรื่องย่อ :
เรื่องนี้ก็เป็นแนวแฟนตาซีอีกเช่นเดียวกันครับ แต่คราวนี้เป็นเรื่องของ Xu Mo นักเขียนนวนิยายแนวดราม่า ที่วันนึงจู่ๆ ตัวละครหลักในนิยายเล่มล่าสุดที่กำลังเขียนอยู่ที่ชื่อว่า Yu Sheng ก็โผล่ออกมามีชีวิตจริงๆ ซะงั้น!! การพบกันของคนเขียนและตัวละครในนิยายในครั้งนั้นทำให้ Yu Sheng ได้ล่วงรู้ชะตากรรมของตัวเองและน้องสาวในตอนจบ จากการที่บังเอิญไปเจอพล็อตเรื่องที่ Xu Mo เขียนเอาไว้
จนกระทั่ง Yu Cheng รู้ถึงเทคนิคการกลับไปกลับมาระหว่างโลกจริงกับโลกในนิยาย ทำให้คราวนี้ Yu Cheng ก็มักจะแว่บเข้ามาในโลกจริง ก็มาอ้อนวอนให้ Xu Mo แก้ไขเรื่องในตอนจบให้เขาไม่ต้องตาย แต่ว่า Xu Mo ปฏิเสธเพราะว่าพล็อตเรื่องที่เค้าวางเอาไว้นั้นทางสำนักพิมพ์ได้กำหนดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าเปลี่ยนแปลงเรื่องไปจากนี้ก็หมายถึงเงินค่าเขียนนิยายก็จะหายตามไปด้วย ซึ่ง Xu Mo เองก็มีความจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อทำความฝันอะไรบางอย่างที่มีค่าทางจิตใจต่อเขาเช่นเดียวกัน (อันนี้ไม่สปอยนะครับอยากให้ไปดูกันเอาเอง)
หลังจากที่ Yu Cheng แว่บเข้ามาในโลกจริงหลายครั้ง มันก็เลยทำให้ทั้ง 2 คนมีความรู้สึกดีๆหลายอย่างต่อกัน (มีความเป็น BL สูงมาก) ... จนกระทั่งวันหนึ่ง Xu Mo ได้หลุดเข้าไปในโลกของนิยายพร้อมกับ Yu Cheng และในโลกของนิยายนี่แหละครับก็เลยทำให้ Xu Mo ได้เห็นชีวิตที่น่าเศร้าหลายๆมุมของ Yu Cheng และเหตุการณ์หลายๆอย่างในโลกนิยายนี้ ยิ่งทำให้เค้าเกิดความรู้สึกดีๆที่มีให้กับ Yu Cheng เพิ่มขึ้นกว่าเดิม
จึงทำให้สุดท้ายแล้ว Xu Mo ตัดสินใจยอมละทิ้งความฝันของตัวเองแลกกับการเปลี่ยนเนื้อเรื่องในตอนจบ เพื่อให้ Yu Cheng ได้มีความสุขตลอดไปในโลกของนิยาย ... แต่ทว่าสุดท้ายจริงๆแล้วกลายเป็น Yu Cheng เองครับที่กลับไปในโลกจริง เพื่อไปเขียนตอนจบในนิยายด้วยตนเอง ... ซึ่งบอกได้คำเดียวเลยครับ "พีคมาก"
ความน่าสนใจ :
เรื่องนี้โดยส่วนตัวแล้ว เป็นเรื่องที่ผมชอบมากที่สุดใน 3 เรื่องของซีรีส์ชุดนี้ นั่นเพราะว่าเนื้องเรื่องมันมีมิติมากที่สุดและชวนติดตามมากที่สุด ... ทั้งคอมเมดี้ โรแมนติค หรือ ดราม่า เรื่องนี้มีครบทุกรสชาติครับ แม้ว่าในตอนดูรอบแรกของผม ตอนจบของเรื่องอาจจะดูงงๆไม่เข้าใจบทสรุปของเรื่องก็ตาม และอีกอย่างการที่ทีมสร้างออกแบบตอนจบให้คนดูตีความเอาเองด้วย มันทำให้เราไม่เคลียร์สักเท่าไหร่
... แต่ว่าพอกลับมาตั้งใจดู ตั้งใจอ่านซับในรอบที่ 2 นี้ ... ก็ต้องบอกว่ามันดีมากจริงๆ ซึ่งถ้าได้ขยายเป็นเรื่องยาว ผมว่าจะเป็นซีรีส์ที่สนุกและน่าติดตามมากๆครับ
ความน่าสนใจของเรื่องนี้อีกอย่างก็คือบทที่มีความเป็น BL ชัดเจนมากที่สุดจากทั้ง 3 เรื่อง ซึ่งก็เป็นอีกข้อสังเกตของผมที่ว่า ทีมสร้างตั้งใจใส่ความเป็น BL มาให้เราดูกันอีกแล้วครับ ... ง่ายๆเลยครับสำหรับเรื่องนี้แม้ไม่ใช่สายวายมาดูก็รู้ครับว่าเป็น BL !!... ส่วนนักแสดงเรื่องนี้ก็เล่นบทดราม่าได้ดีมาก ที่เชื่อว่ามีคนดูบางคนต้องแอบน้ำตาซึมกันบ้างละครับ
Cast : Guo Jia Ran (as Xu Mo),  Huang Jian (as Yu Cheng)
3. Full-time Sworn Enemy
เรื่องย่อ :
เป็นเรื่องของ Xu Tianyi นักกีฬาวิ่งระยะสั้นจากโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อคัดเลือกเป็นนักวิ่งตัวแทนของจังหวัด ซึ่งการอยู่ในแคมป์ฝึกซ้อมของเขาเป็นอะไรที่ไม่ค่อยราบรื่นนักครับ นั่นเป็นเพราะว่าเขามักถูกเพื่อนๆร่วมแคมป์ขัดแข้งขัดขาอยู่เสมอ ก็อารมณ์ประมาณเด็กจากโรงเรียนต่างอำเภอ เข้ามาอยู่ร่วมกับเด็กในตัวเมืองประมาณนั้นครับ ...
ไม่เพียงเท่านั้นมีอีกสิ่งหนึ่งที่ Xu Tianyi ต้องเจอ นั่นก็คือการที่ต้องเอาชนะซุปเปอร์สตาร์นักวิ่งฝีเท้าดีที่สุด อย่าง Li Shilin ไปให้ได้เพื่อจะได้เป็นตัวจริงในการการแข่งขันระดับจังหวัด ที่ในตอนแรกดูเหมือนว่าทั้ง 2 คนนี้ดูจะไม่ชอบหน้ากันเท่าไหร่
และแล้วการคัดเลือกรอบแรกก็เริ่มขึ้น ซึ่งจะบอกว่าถ้าวัดกันด้วยฝีเท้านี้ค่อนข้างจะสูสีกัน แต่ความยากของ Xu Tianyi ก็คือเรื่องความสัมพันธ์กับตัวโค้ช ที่เขาถูกเพ่งเล็งอย่างมากในเรื่องระเบียบวินัย จนเกือบจะไล่เขาออกจากทีม (มันเกิดจากการที่ Xu Tianyi โดนเพื่อนแกล้งบ่อยเลยทำให้เขามาสายหรือทำตัวผิดระเบียบประจำ) .... แต่ว่ามีคนแอบช่วยเหลือเค้าอยู่เงียบๆ ซึ่งคนนั้นก็คือ Li Shilin ก็เลยทำให้สถานการณ์ในแคมป์ของ Xu Tianyi ดีขึ้น จนเขาสามารถผ่านการตัดตัวรอบสุดท้ายได้สำเร็จ
อีกทั้งหลังจากเหตุการณ์ต่างๆผ่านไป Li Shilin และ Xu Tianyi ก็ดูสนิทสนมกันมากขึ้น ซึ่งเพื่อนๆหลายคนก็แอบสงสัยว่าทำไมต้องช่วยเหลือ "คู่แข่ง" ด้วย ... จนสุดท้ายความจริงทั้งหมดก็ปรากฏ นั่นก็เพราะว่าทั้ง 2 คนคือ "เพื่อนรัก" ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาเป็นเด็ก และทั้งคู่ต่างก็มีความฝันเหมือนกันนั่นก็คือการเป็นนักวิ่ง แต่ดันมีเรื่องผิดใจกัน จนทำให้ต่างคนต่างหายไปจากชีวิตของกันและกัน แต่ทว่าเรื่องความฝันนั้นก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม ก็เลยเหมือนพรหมลิขิตละมั้งครับที่ทำให้พวกเขาเจอกันอีกครั้ง!!!
เมื่อทั้งคู่เปิดใจกันและความเข้าใจผิดในอดีตได้ถูกแก้ไขไปแล้ว ความสัมพันธ์ทั้งคู่ก็กลับมาดูแลซึ่งกันและกันเหมือนเช่นสมัยเด็ก (ซึ่งช่วงนี้แหละครับถึงจะได้เห็นอะไรฟินๆกันบ้างสักนิดนึง) แต่สุดท้ายการแข่งขันก็คือการแข่งขัน ก็จะมีเพียงแค่คนเดียวที่ได้เป็นตัวแทนของจังหวัด แล้วสุดท้ายเพื่อนรัก 2 คนใครจะได้เข้าใกล้ความฝันของตัวเอง หรือใครจะยอมเสียสละความฝันเพื่อให้อีกคนได้ไปต่อ ... อันนี้ก็ต้องติดตามดูกันนะครับ!!!
ความน่าสนใจ :
ก็ต้องบอกว่าถ้าให้ผมมองถึงความเป็น BL เรื่องนี้มีความเป็น BL น้อยกว่าเรื่อง People from the Story โดยในภาพที่ออกมาจะให้ความรู้สึกเป็นมิตรภาพระหว่างเพื่อนมากกว่า เพราะอาจจะเป็นที่ตัวเนื้อเรื่องด้วยที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่แรก ก็เลยดูสมเหตุสมผลที่จะสนิทกันขนาดนั้น แต่อย่างไรก็ตามด้วยสายตาการมองกัน ท่าทีที่แสดงความห่วงใย หรือในบางครั้งก็มีเพื่อนชงแบบชัดเจนเหลือเกิน ก็ทำให้คนดูหน้าจอสามารถมโนต่อได้ว่า "ชั้นบอกแล้วความเกินเพื่อนแน่นอน"
อีกอย่างเป็นเรื่องเดียวในสามเรื่องที่ไม่ได้มีความแฟนตาซีครับ ดังนั้นเนื้อเรื่องในภาพรวมก็เลยไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่ แต่ความงานดีของของเรื่องนี้อยู่ที่นักแสดงนี่แหละครับ ละลานตามากเลยทำให้เพิ่มความน่าดูขึ้นเยอะ โดยเรื่องนี้นอกจากนักแสดงนำทั้งสองคนแล้ว นักแสดงสมทบในส่วนเพื่อนๆทีมนักวิ่งนี้งานดีไม่ใช่น้อย จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบดูอะไรเพลินๆตา เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน มีโมเม้นท์ดีๆ เรื่องนี้ตอบโจทย์เลยครับๆ
Cast : Ji Hao (as Xu Tianyi),  Jiang Yi Ming (as Li Shilin)
4. บทสรุปและมุมมองบางอย่างเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้
อันที่จริงแล้วถ้ามองเผินๆ 'Youth In The Breeze' ไม่ได้มีรูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ไปกว่าซีรีส์จีนแบบมิตรภาพเท่าไหร่นัก หรือถ้าจะมีก็คงเป็นการนำนักแสดงที่ลุคที่ดูน่ารัก น่าดึงดูด มีบุคลิกแบบหนุ่มวายมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งผมมองว่าเป็นเรื่องดีที่นะครับ ที่ได้เห็นจากแผ่นดินใหญ่ที่ค่อยๆชิมลางหรือจะเรียกว่าทดสอบแนวทางการทำซีรีส์อีกแบบหนึ่ง
... แน่นอนครับ!! ถ้าเป็นแบบนี้อีกในเรื่องต่อๆไปได้ เราคงจะได้อิ่มเอมความฟินจากซีรีส์จีนกันอีกครั้ง ด้วยสไตล์ซีรีส์มิตรภาพแต่มีกลิ่นความวายของจีนแบบนี้ แถมถ้าพี่จีนกล้าทำแบบนี้อีก รับรองว่าได้กรีดร้องกันอย่างเต็มที่แน่เพราะเรื่องความงานดีของนักแสดงจีนอันนี้รับประกันและมีอีกเพียบเลยครับ
แต่ถ้าจะให้มอง 'Youth In The Breeze' แบบลึกๆ นี้ก็ต้องบอกว่าแนวการทำซีรีส์แบบนี้น่าสนใจมาก เพราะด้วยเนื้อหาแล้วเค้าต้องการแสดงออกให้คนดูรู้เลยนะครับว่านี่แหละซีรีส์แบบ BL จริงๆน่ะ แค่ไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน เค้าเล่าผ่านท่าทาง คำพูด หรือ สัญลักษณ์บางอย่างครับ เช่น การสบตากัน การที่ตัวละครล้มลงแล้วอีกคนก็บังเอิญล้มไปป่ะแหมๆกัน การนอนตะแคงแล้วเอาขาเกี่ยวกัน คำพูดที่ว่า "เขาคือแสงสว่างที่นำทางชีวิตให้ผม" "ในความฝันชั้นมีเราอยู่ในนั้นด้วยกัน"
โดยเฉพาะเรื่องสุดท้าย Full-time Sworn Enemy ที่เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ถ้าสังเกตดีๆเราจะเห็นว่าพอพระเอกกับนายเอกมานอนเตียงเดียวกัน รุ่งเช้ากล้องแพนไปที่ "เป็ดคู่" เลยจ้า!!! หรือที่พีคสุดคงจะเป็นโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง 'Brokeback Mountain' ในถังขยะนี่แหละครับ อันนี้ผมเชื่อว่าตั้งใจ!!
และนี่อาจจะเป็นนิมิตหมายดีๆที่ BL จีนจะกลับมาก็ได้นะครับ แม้ว่าอนาคตมันอาจจะถูกเพ่งเล็งจนไม่มีใครกล้าทำแบบนี้อีก แต่อย่างน้อยก็ได้เห็นครับว่าวงการวายของจีนก็พยายามหา "แนวทางที่ใช่" กันอยู่ เพื่อสักวัน BL จีนจะกลับมาเฟื่องฟูเหมือนสมัยที่เราต้องดำน้ำดู กู้ไห่-ไป่ลั่วอิน กันอีกครั้งก็เป็นได้ครับ ... ใครจะไปรู้!!!
ติดตามดูได้จาก Youtube : Yo Yo Channel ได้ตามลิ้งค์นี้เลยครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา