8 ส.ค. 2021 เวลา 15:49 • ประวัติศาสตร์
จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาจากกุมารดำ ดังเรื่องที่เคยได้เล่าไปก่อนหน้านี้นั้น
หลายคน ก็คงพอจะเดาออกแล้วว่า
เจ้ากุมารดำตัวนั้น มันถูกส่งมาจากใคร
ใช่ค่ะ ... อย่างที่คิดไว้ มันมาจากแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกกันไปของเพื่อนชายผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านหลังที่เกิดเรื่องขึ้นนั่นเอง ซึ่งเธอมีจิตอาฆาตที่โดนแฟนหนุ่มบอกเลิกไป เลยอยากจะทำลายชีวิต และธุรกิจ รวมถึงเพื่อนร่วมงานที่ทำงานอยู่ด้วยกันในบ้านนั้น (จากคำบอกของหมอดูเจ้าทรงที่เพื่อนร่วมงานอีกคนไปดูมา)
ซึ่งหมอดูคนนั้น ก็บอกได้ถึงขนาดที่ว่า สถานที่ที่ผู้หญิงคนนั้นไปทำพิธีทางไสยศาสตร์ดำนี้ คือที่จังหวัดไหน ทำวันที่เท่าไหร่ ซึ่งฝ่ายชายก็บอกว่าจริง ในวันที่นั้น แฟนเก่าของเขาได้เดินทางไปจังหวัดที่ว่านั้นจริงๆ แต่อ้างว่าไปหาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน
แต่เรื่องที่อยู่ๆผู้เขียนก็ดันได้ยินเสียงของเจ้าที่กับ เสียงของพระพิฆเนศ ขึ้นมาได้นั้นอันนี้ก็หาเหตุผลไม่ได้จริงๆว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
รวมถึงที่ว่า อยู่ดีๆผู้เขียนก็เกิดเฮี้ยนชี้มือขึ้นตรงจุดที่เอากุมารวางไว้บนชั้น2 แล้วพูดขึ้นมาว่า "ใครเอาอะไรมาไว้บนหัวกู" นั้น อันนี้ก็ไม่แน่ใจเช่นกัน เพราะในขณะช่วงอายุตอนนั้นผู้เขียนยังถือว่า ไม่ได้ศึกษาทางด้านนี้มาเท่าไหร่ เรียกได้ว่าไม่ประสีประสาเลยล่ะ ถึงแม้ว่าจะต้องพบเจอเรื่องผีสางมาตั้งแต่เด็กก็ตาม แต่เรื่องนี้ก็ยังถือว่าแปลกสุดแล้วในตอนนั้น 😅😆
แต่ถ้าให้กลับไปนึกถึงตอนนั้น .. ก็คิดว่า องค์พ่อและเจ้าที่เจ้าทางของบ้านนั้น ท่านคงจะไม่พอใจแหละ ที่เจ้าของบ้านนำของไม่ดีเข้ามาในบ้าน แถมยังเอาขึ้นไปไว้ชั้นบนของบ้านซึ่งอยู่สูงเหนือองค์ท่านอีกต่างหาก จึงได้ทำการสื่อสารผ่านตัวผู้เขียนแบบนั้น ส่วนผู้เขียนเองก็จิตตก ตอนที่ไปส่งคนในบ้านไปเก็บของแล้วเห็นเด็กวิ่งสวนลงมา ก็คงจะโดนเข้าไปตอนนั้นแหละ
กลับไปต่อจากเรื่องเดิม หลังจากที่ผู้เขียนเริ่มมีอาการดีขึ้น เริ่มกินอาหารได้บ้าง
เพื่อนชายเจ้าของบ้านต้นเรื่อง หลังจากที่ไปจัดการชีวิตเรื่องการดูดวง การทำพิธีและย้ายออกไปนอนที่อื่นก่อนสักพักเสร็จแล้วนั้น ก็รู้สึกผิดและอยากจะมาเยี่ยมผู้เขียน ที่ยังนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะผอมมากจนเห็นซี่โครง
การมาเยี่ยมครั้งนี้ เพื่อนคนนี้ก็ได้นำเอาอาหาร ขนมมาเยี่ยมผู้เขียนด้วย เป็นน้ำใจตามธรรมดาทั่วไป หากแต่หารู้ไม่ว่า นั่นเป็นการที่ทำให้ผู้เขียนเกือบได้ตายอีกรอบ เพราะหลังจากที่กินอาหารเหล่านั้นเข้าไป ผู้เขียนก็เกิดอยากจะอาเจียน ผะอืดผะอมไปหมด อึดอัดในตัวเหมือนมันแน่นตัวไปหมดทั้งตัว
แม่และเพื่อนผู้เขียนที่กำลังไปเยี่ยม เห็นดังนั้น (หลังจากที่เพื่อนที่เป็นเจ้าของบ้านกลับไปแล้ว) ก็เลยลองเอาน้ำมนต์ให้ผู้เขียนกิน เผื่อว่าอาจจะมีอะไรที่ผิดปกติ
ผู้เขียนฝืนกลืนน้ำลงไปอย่างทุลักทุเล จนสักพัก จึงได้อาเจียนออกมาและที่น่ากลัวมากๆก็คือ อาเจียนออกมาแทนที่จะเป็นอาหารอย่างที่เพิ่งกินลงไปเมื่อสักครู่ แต่มันกลับเป็นชิ้นส่วนอะไรไม่รู้ เหมือนก้อนเลือดและเมือกสีดำ
แน่นอน สิ่งที่เราทุกคนคิดตอนนั้นคือ เราอาจจะโดนของซ้ำรึเปล่า หรือ ถ้าคิดให้เป็นวิทยาศาสตร์คือ กระเพาะทะลุแล้วล่ะ ถ้าก้อนเลือดจะออกมาขนาดนี้
.. ว่าแล้วก็เรียกหาหมอดด่วนค่ะ แต่จากการตรวจทางการแพทย์ ก็ไม่ได้ปรากฏว่า เป็นการผิดปกติในร่างกายอย่างที่คิด
ซึ่ง เราคงต้องหันกลับไปคิดเรื่องความเชื่อไสยศาสตร์มนต์ดำกันอีกครั้งแล้วล่ะ
การเข้าหาหมอดูหมอผีจึงได้เกิดขึ้นอีกครั้ง .. เค้าบอกว่า มันเป็นของที่เหมือนโดนฝากกลับมากับเพื่อนคนนั้น ให้กลับมาเล่นงานเราให้สำเร็จ เพราะเราเป็นตัวไปขวางงานของเขา
เราทุกคนก็งงว่า ทำไมผู้หญิงคนนั้น ถึงยังฝากของมาได้อีกล่ะ
เฉลยคือ เพื่อนชายคนนั้น กลับไปหาเธอนั่นเอง เพื่อที่จะเอากุมารดำนั่นไปคืน เมื่อ1วันก่อนที่จะมาเยี่ยมผู้เขียน ..นั่นก็เลยทำให้โดนฝากของกลับมาอีกได้ เพราะถือว่าเป็นผู้ที่เคยรับมาแล้ว ยังไงก็ถือว่าได้เอ่ยปากรับของมาแล้ว เขาจึงเป็นคนที่สามารถฝากของกลับมาได้อีกนั่นเอง
การแก้ไขเรื่องนี้จึงต้องหาวิธีทำอีก ซึ่งหมอผีคนเดิมบอกว่า ทำวิธีเดิมไม่ได้แล้ว เพราะเจ้าพิธีฝ่ายนั้นรู้วิธีของเราแล้ว และเค้าก็หาวิธีป้องกันการแก้รูปแบบนั้นแล้ว
เรื่องชักจะยาวแต่ก็ ยังไม่จบ
เรายังต้องหาวิธีแก้ไขต่อ เพื่อรักษาชีวิตผู้เขียนไว้
ในคราวหน้า สัญญาว่า จะเล่าถึงตอนที่รักษาได้หายให้ได้อ่านกันค่ะ 😅😅
รวมถึง เชื่อว่าต้องมีคนอยากรู้ว่า เพื่อนที่เป็นเจ้าของบ้านต้นเรื่องล่ะ ในเมื่อเขาเป็นคนที่ควรจะโดนไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่เป็นอะไร
ตอบค่ะว่า ... จะเหลือเรอะ แต่โดนหลังผู้เขียนค่ะ
มันเล่นทีละคน
ต่อตอนหน้านะคะ
โฆษณา