9 ส.ค. 2021 เวลา 13:35 • การตลาด
WORK LIFE BALANCE หรือ WORK ไร้ บาลานซ์
คำสวยหรูที่พนักงานทุกคนคาดหวัง คือ work life balance และอยากให้มันเกิดขึ้น แต่ทำไมมันไม่เคยเกิดขึ้นได้เลย เอ๊ะหรือมันเกิดขึ้นได้นะ เพียงแค่เราปล่อยวาง หรือ ใช้คำที่หลายคนชอบบอกว่า #ช่างแม่ง
ความจริงแล้ว Work Life Balance คือ อะไรกันนะ
ถ้าจะบอกให้เข้าใจง่ายๆ มันก็คือ การแบ่งการใช้ชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวออกเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่คำแปล ประเด็นมันอยู่ที่ทำได้จริงหรือป่าวต่างหาก
ผมเองผู้เคยเป็นนักโทษของคำว่า WORK ไร้ บาลานซ์ มาแล้ว จะมาขอแชร์ วิธีการจัดการด้วยมุมมองแบบใหม่ที่จะทำให้คุณมี ความบาลานซ์ในชีวิตกันครับ
1. สำรวจความสามารถของเราเอง
อันนี้ง่ายที่สุดครับ ว่าเราถนัดกับงานอะไร งานอะไรที่เราทำได้เร็ว ทำได้คล่อง อันไหนทำได้ไม่คล่อง แน่นอนครับ ว่าถ้าเราดันไปรับปากทำอะไรที่เราไม่ถนัด รับรองได้ว่า งานนั้นกินเวลาชีวิตเราแน่นอน วิบัติทันทีครับ
2. ประเมินเวลาที่จะใช้กับงานในแต่ละงานที่เราจะทำ (หรือได้รับมอบหมาย)
ก่อนที่จะประเมินเวลา เราต้องรู้จักกับคำนี้ก่อนครับ "TIMELINE" หรือ หรือ กำหนดเวลาส่งงาน ว่ามันมีกำหนดเวลาส่งงานเมื่อไร ถ้าเรารู้ว่า กำหนดระยะเวลาส่งงานเป็นเมื่อไร และเรารู้ว่า เราจะเหลือเวลากับมันกี่วัน กี่ชั่วโมง กี่นาที เราจะตอบได้ ว่าเราจะทำมันทันไม๊ ไม่ใช่สักแต่รับปากว่า ทันครับนาย ได้เลยคับ เป็น MR.Yes Man กันไป แล้วงานก็ทับตัวตาย แล้วสุดท้ายก็มาบ่นกับเพื่อนๆ ว่า งานเยอะฉิบหาย
3. จงจำเอาไว้ว่า คำว่า "งานเยอะ" ของเราไม่เท่ากันครับ
เรามักจะเอางานของเราไปเทียบกับงานชาวบ้านเสมอ ทำไม ฉันกลับบ้านดึก เพื่อนๆ กลับบ้านกันหมดแล้ว ทำไมนายสั่งงานฉันคนเดียว ทำไมนายชอบเอางานยากๆ มาให้กูทำ เพราะคำว่างานเยอะเราไม่เท่ากันไงครับ
ถ้าอยากให้มันเท่ากัน จงประเมินออกมาเป็นหน่วยที่นับได้ครับเช่น ฉัน (กู) ทำ Report แบบนี้ 2 ชั่วโมงต่อวัน และต้องทำแบบนี้ 20 reports ต่อเดือน คิดเป็น 40 ชั่วโมง ต่อ เดือน (1 เดือนทำงานเท่ากับ 8ชั่วโมง x 20 วัน = 160 ชั่วโมง) เพราะฉะนั้นแค่กู นั่งทำรีพอตอย่างเดียว หายไปแล้ว 1/4 ของเดือน นะมึง
แล้วไหนจะประชุมที่ไม่ได้งานอีกกี่ประชุมต่อวันอีก หมดไปกี่วันแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนทำงานกันเล่า...
4. จงฝึกเป็นคนขี้เกียจ
ครับคุณอ่่านไม่ผิดครับ จงเป็นคนขี้เกียจครับ เพราะคนขี้เกียจ มักจะหาทางลัดเพื่อทำงานให้เสร็จได้เร็วเสมอ ถ้าคุณถนัดที่จะทำแบบเดิมๆ โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงเท่าเดิม โดยไม่หาทางใหม่ คุณจะเสียเวลาแบบนี้ไปทุกวัน แต่ถ้าคุณลองหาทางใหม่ๆ บ้าง อาจจะเสียเวลาในตอนแรก คุณอาจจะค้นพบวิธีใหม่ๆ แล้วทำให้คุณลดเวลาลง อย่างน้อย 5-10 นาทีในทุกๆ ครั้งก็เป็นได้นะครับ
5. เมื่อประเมินจำนวนงาน และจำนวนเวลาแล้ว ไม่มีทางเสร็จทัน
สิ่งที่คุณต้องทำคือ ต้องแจ้งครับ ว่า ต้องการเพิ่มคนช่วย คุณต้องร้องขอทันที ครับ ว่าต้องการความช่วยเหลือ ไม่ว่าส่วนใดก็ส่วนหนึ่ง อย่านั่งทับปัญหานั้นไว้ การนั่งทับปัญหาไว้ ไม่มีใครรู้ปัญหากับคุณด้วย การร้องขอขึ้นอยู่กับว่าคุณจะร้องขอแบบใดครับ.. ร้องขอคนช่วยเพื่อให้งานเสร็จทัน ร้องขอเพื่อให้ขยาย timeline ออกไป ร้องขอเพื่อให้เลื่อนส่งงานอื่นออกไป ร้องขอเพื่อให้เพื่อนเอางานอื่นไปช่วยทำ และอื่นๆ อีกมากมาย
6. ลองดูสิว่า วันๆ นึงเราเสียเวลาไปกับอะไรบ้าง
ใช่ครับ อีกอย่างที่เรามักจะลืมมองไปก็คือ เราเสียเวลาไปกับอะไรก็ไม่รู้ ที่ไม่ได้งาน แล้วมันทำให้เราทำงานไม่ทันครับ ไม่ว่าจะเป็นประชุมที่ไม่มีการเตรียมหัวข้อประชุมก่อนการประชุม ไม่สรุป action ว่าใครต้องทำอะไรหลังจากการประชุมเป็นต้น ทำให้เสียเวลาโดยใช่เหตุ และอื่นๆ อีกมากมายนะครับ
เห็นมั้ยครับการจัดการ Work Life Balance ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ลองดูนะครับแค่คุณคิดใหม่ลองใหม่แค่นั้นครับ
#ifyoudothesameyougetthesame
โฆษณา