(Radar and space-related devices and systems) ออกแบบและผลิตเรดาร์เซ็นเซอร์ และชิ้นส่วนทางกลสำหรับจรวดขนส่งดาวเทียมที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยราคาที่เหมาะสม
Thai-Made Space System (ชิ้นส่วนระบบอวกาศที่ออกแบบและผลิตในประเทศไทย) บริการออกแบบและสร้างดาวเทียม โดยมี Platform ดาวเทียมพร้อมให้บริการรวมถึงสามารถออกแบบ Payload ตามความต้องการของลูกค้าได้
Plus IT Solution
ระบบวิเคราะห์พื้นที่จากภาพถ่ายดาวเทียม (Automated LULC analysis system) แพลตฟอร์ม Auto – LULC ที่ทางบริษัทพัฒนานั้นใช้เทคโนโลยี image segmentation โดย deep learning algorithm ที่ทางบริษัทพัฒนาขึ้นมาเอง เพื่อจำแนกลักษณะของพื้นที่ต่างๆ โดยสามารถแยกพื้นที่ออกเป็น 7 ประเภทได้ ได้แก่ Construction, Road, Bare soil, Agriculture, Forest, Water และ Cloud
Slingshot Aerospace เชี่ยวชาญด้านการจำลองสถานการณ์โดยเฉพาะในด้าน aerospace อาศัยข้อมูลจากทั้งระบบเรดาห์และเซนเซอร์ต่างที่ติดตั้งทั้งบนดาวเทียม เครื่องบิน และโดรน เพื่อความสมจริง โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ทำงานร่วมกับ NASA, กองทัพอากาศสหรัฐฯ, Northrop Grumman และ Boeing และล่าสุดได้สร้าง VR space simulator เพื่อใช้สำหรับการฝึกให้กับ U.S. Space Force
นอกจากนั้น ทาง Slingshot ได้เปิดปรับแต่งข้อมูลแผนที่ของบริษัทเพื่อช่วยผู้คนใน Los Angeles ในการค้นหาแหล่งบริการอาหารฟรีหรือแหล่งอาหารราคาถูกในช่วงการระบาดของโรคโควิด 19 นี้
6. ROCKET LAB
เป็นบริษัทให้บริการปล่อยดาวเทียมขนาดเล็ก ซึ่งนับตั้งแต่มีการทดสอบเที่ยวบินครั้งแรกใน พ.ศ.2560 ทางบริษัท Roclet Lab ก็ได้ทำการปล่อยดาวเทียมขนาดเล็กไปแล้วจำนวน 96 ดวงขึ้นสู่ห้วงอวกาศโดยจรวดนำส่ง Electron
ทางบริษัทแจ้งว่ายอดจองปีนี้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเนื่องจากสถานะการณ์การระบาดของโรคติต่อโควิด-19 ทำให้ภาพถ่ายดาวเทียมเป็นที่ต้องการสูงขึ้นไปด้วยเพื่อสำรวจพื้นที่ต่างๆ ด้วยข้อจำกัดการเดินทางของลูกค้าเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ และในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทาง Human Rights Watch ได้ใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียมเพื่อตรวจสอบการยิงจรวดและขีปนาวุธที่ผิดกฎหมายโดยกองกำลังอาร์เมเนียที่ต่อต้านอาเซอร์ไบจาน
เป็นบริษัทพัฒนาดาวเทียมสำรวจโลกด้วยระบบเรดาร์ที่สามารถถ่ายภาพทะลุเมฆได้และทำงานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยทาง Capella Space บริษัทสตาร์ทอัพในซานฟรานซิสโกได้เปิดตัวกลุ่มดาวเทียม SAR (Synthetic Aperture Radar) ในเดือนสิงหาคม 2563 นับว่าเป็นผู้ให้บริการภาพ SAR เชิงพาณิชย์เพียงรายเดียวในสหรัฐฯ
ข้อมูล SAR สามารถแสดงภาพที่ชัดเจนของพื้นผิวโลกได้ทั้งในกลางวันและกลางคืน หรือแม้ในสถานะการณ์ที่มีเมฆ หมอกหรือควันเป็นจำนวนมาก ในเดือนธันวาคม 63 บริษัทได้เริ่มการถ่ายภาพในโหมด Spot ด้วยความละเอียดภาพ 50 ซม. นับว่าเป็นภาพ SAR ที่มีความคมชัดอีกดวงหนึ่ง
Capella มีสัญญากับ the National Reconnaissance Office และกองทัพอากาศสหรัฐฯ และมีแผนจะปล่อยจรวดดาวเทียมอีก 6 ดวงในปีนี้
ในเดือนกันยายน 63 ทางบริษัทได้รับทุนสนับสนุนโครงการจาก UK Space Agency ร่วมกับพันธมิตร เช่น Fujitsu และ Amazon Web Services เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยเฉพาะสำหรับภารกิจการกำจัดวัตถุหลายชิ้น