11 ส.ค. 2021 เวลา 12:33 • บันเทิง
[วันนี้อยากเล่าเรื่อง...] ที่มาของคำว่าน้ำเน่าในละครไทย และคำว่า soap opera สำนวนที่ต่างชาติใช้เรียกละครน้ำเน่า
บทความนี้เกิดขึ้นจากความสงสัยและความอยากแชร์อีกแล้วค่ะทุกคน 😂
เคยสงสัยไหมคะ..ทำไมถึงใช้คำว่าน้ำเน่ากับละครที่เนื้อเรื่องจำเจ เดาทางง่าย ไม่รักหวานแหววจบสวยตามระเบียบ ก็ตบตีแย่งมรดกหรือพระเอก หรือปลอมตัวแบบดูยังไงก็ไม่เนียนแต่ไม่มีใครจำได้
ทุกคนคิดว่าทำไมคะ...❔
ผู้เขียนหาคำตอบพบว่า ฝรั่งเรียกละครน้ำเน่ากันว่า soap opera ค่ะ ที่แปลว่าสบู่กับการแสดงละครเพลง และที่มาของสำนวนนี้ก็น่าสนใจด้วยนะคะ
สบู่กับโอเปร่าเกี่ยวกับละครน้ำเน่าอย่างไร❔ทำไมไทยใช้คำว่าน้ำเน่า❔ ไปอ่านเพื่อหาคำตอบกันค่ะ😊👉
📍ที่มาของคำว่าละครน้ำเน่าในไทย📍
ละคร'น้ำเน่า' ทุกวันนี้แทบจะใช้เรียกแทนละครหลังข่าวไปเสียแล้ว น้ำเน่าใช้แทนผลงานที่มีเนื้อหาจำเจ เดาทางง่ายจะต้องจบแบบนี้แบบนั้นแน่ๆ ชิงรักหักสวาทตบตีแย่งชิง รักหวานซึ้ง เน้นคติความดีต้องชนะความชั่ว ถ้านึกไม่ออกถึงความน้ำเน่า ลองนึกถึงฉากการปลอมตัวที่ดูยังไงก็ไม่เนียนแต่ก็ยังไม่มีใครในเรื่องที่จำได้ หรือนางเอกที่นางเอ๊กนางเอกยอมถูกตบถูกตีอยู่ฝ่ายเดียวไม่ตอบโต้ สร้างภาพผู้หญิงที่ดีคือสตรีผู้อ่อนแอให้กับสังคม 😅
1
การวนอยู่กับเนื้อเรื่องแบบเดิมซ้ำๆ ไม่เปลี่ยนไปตามสภาพสังคมหรือสถานการณ์อุปสงค์ของสังคม จึงมีการเปรียบเปรยละครในแนวนี้เป็นเหมือนกับน้ำเน่าน้ำเสียในแหล่งน้ำที่ไม่มีการไหลเวียน เปลี่ยนถ่าย ไม่ไหลไปไหนไม่มีอะไรดีๆเข้ามานั่นเอง
ในขณะที่ละครน้ำดี นอกจากจะหมายถึงน้ำดีที่มีการไหลเวียนดี ไม่หยุดนิ่งเปรียบเป็นละครที่มีการนำเสนอมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิม มีความแปลกใหม่และแตกต่าง สะท้อนเนื้อหาที่คนดูคาดเดาไม่ได้และสะท้อนการเป็นสังคมสมัยใหม่มากขึ้น นอกจากเปรียบเป็นน้ำที่ดีแล้ว ยังเปรียบเป็นเพชรน้ำดีอีกด้วย
1
เพชรน้ำดี ตามหลักสากลแล้ว'น้ำ'ในที่นี้หมายถึงสี แต่ไม่ใช่สีเขียวสีแดงสีรุ้งหรอกนะคะ แต่หมายถึงความขาวของเพชร แล้วต้องขาวขนาดไหนถึงเรียกว่าน้ำดี? ต้องขาวจนอยู่ในเกณฑ์ไร้สี หรือระดับ D color (น้ำ 100)หรือ F color (น้ำ 98) ค่ะ
การใช้คำว่าน้ำดีกับละคร จึงเป็นการเปรียบว่าผลงานชิ้นนี้ดีมีคุณภาพมีคุณค่าเหมือนกับเพชรน้ำดีนั่นเองค่ะ
📍ไทยเรียกละครน้ำเน่า แต่ต่างชาติเรียก Soap Opera📍
👉 สบู่กับโอเปร่าเกี่ยวอะไรกับละคร !!?
ต้องย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของละครน้ำเน่าในอเมริกา ในปีค.ศ.1930 เริ่มจากละครวิทยุที่ออกอากาศในช่วงเวลากลางวัน กลุ่มเป้าหมายหลักคือบรรดาเหล่าแม่บ้านที่อยู่บ้านทำงานบ้านหรือพักผ่อนช่วงบ่ายหลังจากการทำงานบ้าน เนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับครอบครัว ความสัมพันธ์ และศีลธรรม
เพราะกลุ่มเป้าหมายคือบรรดาเหล่าแม่บ้าน ดังนั้นโฆษณาที่นำเข้ารายการจึงเป็นสินค้าเพื่อเหล่าแม่บ้าน อย่างพวกสบู่ ผงซักฟอก สิ่งทำความสะอาดบ้าน เสื้อผ้า และร่างกาย ทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีความผูกพันกับละครในสายตาประชาชน เมื่อละครเข้าสู่วงการจอแก้วการโฆษณาของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยิ่งทวีกำลัง จนทำให้ประชาชนเรียกละครที่เหล่าแม่บ้านดูกันว่า soap opera หรือละครสบู่ (ในอดีตบางครั้งชาวอเมริกาเรียกผงซักฟอกว่า soap)
1
แต่ปัจจุบันแม้จะยังมีละครน้ำเน่าอยู่แต่ก็ไม่จำกัดการโฆษณาแค่เฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเท่านั้นแต่รวมถึง ยา ของใช้สำหรับผู้หญิงทุกเพศทุกวัยด้วย เพราะกลุ่มที่เสพละครไม่ได้มีแค่กลุ่มแม่บ้าน ปัจจุบันบรรดาพ่อบ้าน หรือบรรดาลูกๆวัยรุ่นก็นั่งดูละครเช่นกัน
👉รู้ความเกี่ยวข้องของ สบู่ กับ ละครแล้ว แล้วโอเปร่าล่ะเกี่ยวข้องกันอย่างไร❕❔
โดยปกติแล้วถ้าพูดถึง 'โอเปร่า' คงนึกถึงการแสดงบนเวทีที่ต้องร้องเพลงเพราะๆตลอดการแสดง โอเปร่าเป็นการแสดงที่ผนวกการร้อง ดนตรี และละครเข้าด้วยกัน โดยมักจะมีเนื้อหาที่เน้นการเร้าอารมณ์คนดู ให้ตื่นตาตื่นใจ เศร้าก็เศร้ามากเศร้าให้สุดเศร้าให้คนดูน้ำตาตก
ในช่วงปีค.ศ. 1930-1940 ละครวิทยุเน้นเนื้อหาที่เศร้าซึ้งกินใจเป็นตัวชูโรงเรียกกระแสนิยมจากบรรดาแม่บ้านเหมือนกับโอเปร่า ดังนั้นละครวิทยุน้ำเน่าของอเมริกาจึงถูกเรียกว่า โอเปร่าสบู่ (soap opera) ตั้งแต่นั้นมา
💬 ถ้าพูดถึงน้ำเน่า บทพูดที่ผู้เขียนนึกขึ้นได้คือ บทพูดของตัวละครที่ชื่อชัดเจนในซิทคอมบางรักซอยเก้าที่ว่า 'ถึงน้ำจะเน่าแต่ก็ยังเห็นเงาจันทร์นะจ้ะ'
ผู้เขียนคิดว่าทุกผลงานล้วนถูกสร้างอย่างตั้งใจและมีคุณค่าในตัวเอง บางทีต่อให้เป็นละครที่ถูกเรียกว่าน้ำเน่าไม่ได้แปลกใหม่แต่ก็ยังมีคนดูคนติดตาม มีข้อคิดแทรกอยู่ในแต่ละตัวละคร เหมือนกับแสงจันทร์ที่มองเห็นลางๆบนพื้นน้ำที่เน่าเสียเหมือนบทพูดของชัดเจน
ละครน้ำดีของไทยที่ผู้เขียนชอบมาก คือเรื่องวายแสบสาแหลกขาด กับ side by side พี่น้องลูกขนไก่ค่ะ เนื้อเรื่องดีมีสาระมากๆ
💬ผู้อ่านมีความคิดเห็นอย่างไรมาแลกเปลี่ยนกันได้เสมอนะคะ
ขอบคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ ขอให้ทุกวันเป็นวันที่ดี สุขขีตลอดวันค่ะ 😊🙏
โฆษณา