14 ส.ค. 2021 เวลา 12:45 • ธุรกิจ
ยุคนี้มีอะไร น่าลงทุน
การที่จะทำให้เรามั่งคั่งขึ้นมาได้นั้น แน่นอนว่าจะต้องเกิดจากการลงทุน แล้วในยุคสมัยนี้ มีอะไรน่าลงทุนบ้าง มาสำรวจกันเลยค่ะ
แต่ก่อนอื่นใด สิ่งที่ควรทำก่อนลงทุนก็คือ การสำรวจเงื่อนไขต่าง ๆ ของตัวเองเสียก่อน โดยการตั้งคำถามเหล่านี้กับตัวเองค่ะ
 
📌 เป้าหมาย ต้องการผลตอบแทนมากน้อยแค่ไหน กำหนดเป็นตัวเลขหรือเปอร์เซ็นต์จากเงินทุนตั้งต้นเพื่อให้เห็นภาพชัดเจน จะช่วยให้เลือกประเภทการลงทุนโดยดูจากผลตอบแทนได้ง่ายขึ้น
📌 ระยะเวลา เพราะการลงทุนแต่ละประเภท ต่างต้องใช้ระยะเวลาต่างกัน ดูที่จริตตัวเองประกอบ เช่น การลงทุนระยะยาวมักจะเห็นผลตอบแทนที่มากกว่าการเก็งกำไรระยะสั้น แต่ต้องอดทนรอคอยได้
📌 ความเสี่ยง เพราะการลงทุนแต่ละประเภทมีความเสี่ยงมากน้อยไม่เท่ากัน ยิ่งเสี่ยงมากก็ยิ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากเช่นกัน
📌 ความพร้อมของตัวเราเอง ต้องดูความพร้อมของตัวเองว่าจะสามารถสละเวลาและทุ่มเทให้การลงทุนนั้น ๆ มากน้อยแค่ไหน
เมื่อสำรวจเงื่อนไขเหล่านี้แล้ว จะทำให้เรามองเห็นภาพรวมทั้งหมดว่าการลงทุนประเภทไหนเหมาะกับเราที่สุด และรู้ว่าเราสามารถรับความเสี่ยงได้แค่ไหน
อย่างไรก็ดี อย่าเพิ่งใจร้อนลงทุนโดยไม่สำรวจตัวเองก่อนเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เราเสี่ยงที่จะเสียเงินลงทุนไปโดยไม่ได้อะไรกลับมาเลยก็ได้
1
หลังจากสำรวจตัวเองไปเบื้องต้นแล้ว ต่อไปมาดูสิว่า มีอะไรบ้าง ที่พอให้น่าลงทุนในยุคสมัยนี้บ้าง
⛳ ลงทุนในหุ้น
เป็นการลงทุนโดยที่ไม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ก็สามารถทำได้ เพราะเพียงแค่มีเงิน 100 บาทก็สามารถลงทุนหุ้นได้แล้ว
โดยการซื้อหุ้นแต่ละครั้งถูกกำหนดขั้นต่ำไว้ 100 ตัว ถ้าราคาหุ้นต่อตัวต่ำ คำนวณแล้วก็จะได้ยอดเงินตั้งต้นที่ไม่สูงมากนัก ดังนั้นเงินจำนวนที่ไม่มาก ก็สามารถลงทุนได้
และเมื่อลงทุนไปแล้วก็รอรับผลตอบแทนได้ทั้งปันผลหรือขายเอาส่วนต่างราคาก็ได้ แต่ถ้าจะให้เห็นผลตอบแทนแบบเนื้อๆ หน่อย อาจจะต้องลงทุนสัก 10,000 บาทเป็นต้นไป จะได้เห็นผลตอบแทนได้ชัดเจนมากกว่า
⛳ ลงทุน Cryptocurrency (คริปโตเคอร์เรนซี)
หรือลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่กำลังเป็นที่นิยมมาก ๆ อยู่ในขณะนี้ เพราะให้ผลตอบแทนที่สูง หากฝีมือดีลงทุนได้ถูกตัวก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนหลายเท่าตัว
แต่แน่นอนว่าผลตอบแทนมาก ก็ย่อมมีความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน และที่ไม่น่าเชื่อว่าเลยก็คือ การลงทุนในคริปโตเคอเรนซีนั้น ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 10 บาท เท่านั้น
แต่หากต้องการเห็นผลกำไรแบบชัดเจน เงินลงทุนที่เหมาะสมก็น่าจะอยู่ที่ 10,000 บาทเป็นต้นไป เช่นเดียวกันกับการลงทุนในหุ้น
⛳ ลงทุนในทองคำ
ทองคำคือทรัพย์สินที่มีค่ามากและมีความเสี่ยงต่ำ มีมูลค่าเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งยังใช้เป็นกองทุนสำรองของชาติอีกด้วย
แม้ว่าจะเกิดภาวะเงินเฟ้อจนเงินแทบไร้ค่า หรือเกิดภาวะสงคราม ทองคำก็ยังมีมูลค่าในตัวมันเอง และยังมีราคาสูงขึ้นในช่วงภาวะวิกฤติอีกด้วย
1
แต่หากอยู่ในภาวปกติ ราคาทองก็จะค่อย ๆ ปรับเพิ่มขึ้นทีละน้อยแต่มั่นคง ทองคำจึงกลายเป็นทรัพย์สินที่นักลงทุนหลายคนเลือกที่จะมีติดพอร์ตการลงทุนเอาไว้
การลงทุนในทองคำ ก็คือการซื้อทองคำเก็บเอาไว้ ซึ่งวิธีนี้จะมีความมั่นคงสูง แต่ขาดสภาพคล่องเล็กน้อยเพราะเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ยากกว่า ยุ่งยากในการเก็บรักษา และยังต้องใช้เงินลงทุน
แต่ถ้าไม่อยากยุ่งยากหรือมีทุนค่อนข้างน้อย กองทุนทองคำอาจเป็นตัวเลือกที่ดี ซื้อสะดวก ไม่จำเป็นต้องเก็บทองคำไว้เอง แถมยังลงทุนด้วยจำนวนเงินน้อย บางกองทุนเริ่มต้นที่ 1 บาทเท่านั้น
⛳ ซื้อกองทุนรวม
การลงทุนกองทุนรวมถือเป็นการลงทุนที่ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าลงทุนด้วยตัวเอง เพราะกองทุนรวมจะนำเงินจากนักลงทุนหลาย ๆ คนมารวมกันเป็นก้อนใหญ่ นำไปลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลกองทุน
ดังนั้นความเสี่ยงจึงมีน้อยกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับประเภทกองทุนที่เลือกลงทุนด้วย เพราะมีหลายประเภท ซึ่งความเสี่ยงต่างกัน เช่น ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่มีความเสี่ยงต่ำ ไปจนถึงลงทุนหุ้นต่างประเทศที่มีความเสี่ยงสูง แต่ยิ่งระดับความเสี่ยงมากเท่าไรก็ยิ่งมีผลตอบแทนมากเช่นกัน
⛳ ซื้้อสลากออมสินหรือสลาก ธกส.
การลงทุนประเภทนี้มีความเสี่ยงต่ำ เพราะได้เงินต้นคืนทั้งหมดพร้อมทั้งดอกเบี้ย หากขายสลากคืนเมื่อครบกำหนด แต่หากขายคืนก่อนกำหนด ก็จะโดนหักค่าธรรมเนียมเล็กน้อย ผลตอบแทนอาจจะพอ ๆ กับดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป
แต่สิ่งที่ทำให้สลากทั้ง 2 ประเภทมีความน่าสนใจก็คือรางวัลจากการออกสลาก ซึ่งมากสุดคือ 10 ล้านบาท แถมยังออกรางวัลให้ได้ลุ้นกันทุกเดือนอีกด้วย ซึ่งตรงนี้ ก็ต้องพึ่งบุญหรือโชคของแต่ละคนกันแล้วค่ะ 🤭
⛳ ฝากประจำปลอดภาษี
การฝากประจำมักมีกำหนดว่าต้องฝากขั้นต่ำ 500 บาท ติดต่อกันเป็นเวลา 12, 24 หรือ 36 เดือน และดอกเบี้ยที่ได้มักจะสูงกว่าการฝากแบบออมทรัพย์ ส่วนมากอยู่ที่ 1.50-3%
ที่สำคัญคือปลอดภาษี ไม่โดนหักภาษี 15% ของดอกเบี้ยที่ได้รับ และยังเป็นการบังคับให้ต้องลงทุนทุก ๆ เดือน
ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการความเสี่ยง และไม่ขาดทุน แต่ผลตอบแทนที่ได้ก็จะน้อยตามไปด้วย
⛳ ลงทุนทำธุรกิจ
ในยุคปัจจุบัน มีเทคโนโลยีเข้ามามีอิทธิพลต่อโลกธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบนอินเทอร์เน็ต ช่องทางบนระบบออนไลน์ต่าง ๆ ก็ถือเป็นหนทางประชาสัมพันธ์ธุรกิจได้เป็นอย่างดี
หากต้องการลงทุนทำธุรกิจอะไรสักอย่าง ก็คงไม่น่าจะเป็นเรื่องยากเกินไป บางธุรกิจอาจไม่ต้องใช้เงินทุนสูงเลยด้วยซ้ำ โดยอาจจะเป็นแค่ตัวกลางกินส่วนต่างจากธุรกิจก็มีให้เห็นอยู่ไม่น้อย
⛳ ซื้อเฟรนไชส์
เป็นช่องทางหนึ่ง สำหรับคนที่อยากทำธุรกิจ แต่หากนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรดี หรือไม่อยากเริ่มนับ 1 ตั้งแต่แรก การซื้อแฟรนไชส์อาจตอบโจทย์นี้ได้
เพราะสิ่งที่จะได้ มีทั้งอุปกรณ์ วัตถุดิบ แผนธุรกิจ รวมถึงการทำการตลาด ซื้อครั้งเดียวได้แบบ All in one สิ่งที่ต้องทำก็คือหาทำเลดี ๆ แล้วลงมือเปิดร้านได้เลย เพียงมีเงินทุนพร้อมจ่ายและลงแรงเท่านั้น
เป็นอย่างไรบ้างคะ อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว พอจะมองเห็นช่องทางที่เข้ากับจริตของตัวเอง และอยากลงทุนบ้างหรือยังคะ
💦.....อย่างไรก็ตาม การที่จะลงทุนอะไรก็ตาม ควรเป็นเงินที่เรียกว่า เงินเย็น ซึ่งหมายถึง เงินเก็บหรือเงินที่สำรองเอาไว้ลงทุนต่างหาก ไม่ใช่เงินที่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่จำเป็นต้องรีบใช้
1
นอกจากนี้เงินที่จะนำมาลงทุนก็ไม่ควรเป็นเงินสำรองฉุกเฉินด้วย เพราะหากเกิดอุบัติเหตุที่จำเป็นต้องใช้เงินฉุกเฉินขึ้นมา การไปดึงเงินที่นำไปลงทุนแล้วกลับมาทันทีอาจทำให้เราขาดทุนยับเยินได้ค่ะ
1
Cr. Hudpood
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
สามารถเยี่ยมชมเราผ่านช่องทางอื่นตามลิ้งข้างล่างนี้ค่ะ :
ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่มีให้กันเสมอค่ะ
🌷🌷❤❤🙏🙏🙏🙏❤❤🌷🌷

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา