12 ส.ค. 2021 เวลา 01:00 • สุขภาพ
ยาหลอก
หลักฐานที่แสดงว่า “จิต” มีอิทธิพลเหนือ “กาย”
ช่วงที่ตัวร้ายระดับ Big Boss อย่างโควิด 19 เข้ามาอยู่กับเราจะ 2 ปีแล้ว ในสถานการณ์นี้ได้สร้างวีรบุรุษสมุนไพรตัวหนึ่งที่มาแรงแซงโค้ง ใครๆ ก็พูดถึง จนเกิดเหตุขาดตลาด ราคาพุ่งพรวดๆ อันเนื่องมาจากข่าวสรรพคุณของมันในการรักษาอาการของโควิด 19 เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ถนนทุกสายมุ่งเจ้าตัวนี้จริงๆ
คงไม่ต้องบอกว่ามันคือ “ฟ้าทะลายโจร” สมุนไพรสำคัญที่อยู่คู่ตำรับยาไทยมายาวนาน
แต่จู่ๆ ก็มีข่าวที่มาหยุดความร้อนแรงนี้แทบจะหัวทิ่มทีเดียว โดยเป็นข่าวที่ผู้วิจัยได้ “ถอน” ผลงานที่รอตีพิมพ์เรื่องผลสำเร็จของการใช้ฟ้าทะลายโจร เนื่องจากการคำนวณผลทางสถิติมีความผิดพลาด
การเปรียบเทียบผลของฟ้าทะลายโจรต่อการยับยั้งอาการสำคัญๆ ของโควิด 19 เมื่อคำนวณอย่างถูกต้องแล้ว…..
ไม่แตกต่างจากการใช้ “ยาหลอก”
หืม!!!
แล้วไอ้ “ยาหลอก” นี่มัน อิหยังวะ???
ขอแทรกนิด - เนื่องจากบทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือด้านจิตวิทยา ดังนั้นเนื้อหาเกี่ยวกับยาหลอกจึงเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา “จิต” ไม่ใช่เนื้อหาทางการแพทย์
ในการศึกษาเรื่องอิทธิพลของจิตต่อร่างกาย มีหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์เห็นความมหัศจรรย์ของจิต ก็คือเรื่อง 'ผลของยาหลอก’ (Placebo Effect)
มีผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยสามารถทำงานได้ดีขึ้นเมื่อได้รับ “สิ่งที่ผู้ป่วยคิดว่าเป็นยา แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ยา” อาจเป็นแค่เม็ดแป้ง หรือน้ำเปล่า หรือแม้แต่การผ่าตัดหลอกๆ (Sham Surgery)
แต่ผลกลับกลายเป็นว่า ไอ้เจ้าสิ่งที่ไม่ใช่ยา (ยาหลอก) นั้นสามารถทำให้ผู้ป่วยบรรเทาจากอาการป่วยหรือหายป่วยได้จริงๆ
การรักษาโรคโดยไม่ใช้ยาก็มีลักษณะอื่น
ในสมัยโบราณมีการรักษาโรคโดยพ่อมดหมอผี ทางแถบอีสานของไทยเราก็มีร่างทรงที่รักษาโรคโดยการรำอัญเชิญผีฟ้า ซึ่งก็ทำให้ผู้ป่วยหายจากอาการได้ ในหลายกรณีที่ประสบความสำเร็จทำให้มีความเชื่อถือและการปฏิบัติสืบต่อกันมา
ในขั้นตอนมาตรฐานของการผลิตยาและการคิดค้นวิธีการรักษาโรค ที่ผู้วิจัยคนใดหากจะอ้างว่ายาหรือวิธีการรักษาโรคที่ตนเองค้นพบมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคได้จริง จะต้องผ่านขั้นตอนการเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอกด้วย
ซึ่งกรณีผลการวิจัยฟ้าทะลายโจรที่เพิ่งถอนออกไป ก็เพราะผลที่ได้ไม่ต่างจากยาหลอกนั่นเอง
ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นก็คือ เมื่อยาหลอก (Placebo) มีผลต่อการรักษา ในทางกลับกันก็มี ‘ยาพิษหลอก’ (Nocebo หรือ Reverse Placebo) ที่สามารถทำให้คนเจ็บป่วยได้แม้ไม่ได้รับยาพิษจริงๆ
ตัวอย่างเช่น เมื่อผีฟ้ารักษาคนป่วยได้ หมอผี (ฝ่ายผู้ร้าย) ก็ทำให้คนที่แข็งแรงดีเกิดเจ็บป่วยได้เช่นกัน
คนที่คิดว่าตนเองถูกเวทย์มนต์คาถา โดนทำคุณไสยยาสั่ง ก็แสดงอาการเจ็บป่วยทางร่างกายได้จริงๆ แม้ทางการแพทย์จะตรวจไม่พบพิษหรือสาเหตุใดๆ เลย (ว่าแล้วก็ตั้งตารอดูเรื่อง “ร่างทรง” กันยาวๆ ไป)
พวกเราเองก็เถอะ หลายคนอาจจะเคยเจอผลของ Nocebo เข้าแล้วด้วยซ้ำ
พวกเราทุกวันนี้อาจจะโดน Nocebo โดยไม่รู้ตัวอยู่ทุกวันจากโลกโซเชียล เราได้รับข้อมูลที่ถูกแชร์กันมาเรื่อยๆ จาก คุณหมอผู้เชี่ยวชาญปลอมๆ เต็มไปหมด เดี๋ยวคนโน้นแชร์เรื่องโรคนั้น เดี๋ยวคนนั้นแชร์เรื่องอาการนี้ แชร์มั่ว ไม่ชัวร์ก็แชร์
อ่านไปอ่านมาเทียบกับตัวเอง เอ๊ะ..เราก็เข้าข่ายจะเป็นโรคนี้นี่นา จากที่แข็งแรงดีก็กลายเป็นคนป่วยไปซะได้จากที่คิดไปเองแล้วเชื่อจริงจังนี่แหละ
ไม่ว่าจะเป็นผลด้านดี หรือด้านร้าย ผลของ "ยาหลอก" ก็ยังคงเป็นสิ่งที่น่าฉงนอยู่จนถึึงทุกวันนี้
ความเห็นส่วนหนึ่งเชื่อว่า การที่คนเรามีความคิดอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างแรงกล้า ผลจากความคิดนั้นส่งผลให้จิตจดจ่อจนเกิดพลัง และพลังของจิตที่เข้มแข็งนี้ สามารถมีอิทธิพลเหนือร่างกายได้อย่างน่ามหัศจรรย์
ที่พูดกันว่า "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว" บางที "บ่าว" คนนี้ อาจจะเชื่อฟัง "นาย" ในระดับที่เราไม่เคยนึกถึงมาก่อนก็ได้
ท้ายนี้ขอฝากไว้ก่อนว่าเราอย่าเพิ่งหมดหวังกับฟ้าทะลายโจร
ยังไงซะสมุนไพรตัวนี้ก็ไม่ได้เพิ่งจะมามีชื่อเสียง แต่ได้สร้างผลงานในตำรับยาไทยมานานโขแล้ว
มันก็ต้องมีดีพอตัวล่ะน่า
โฆษณา