ต่างจาก PSG ที่นิ่งเงียบ ไม่ได้สนใจที่จะเข้าร่วม จึงได้รับการยกย่องจาก Uefa เป็นอย่างมาก
มันเป็นการแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ล่าสุดที่ PSG นั้นมีกับ Uefa
ซึ่งต้องบอกว่า PSG และ Uefa นั้นมีความปรองดองกันอย่างมาก Al Khelaifi นักธุรกิจชาวกาตาร์ของสโมสร PSG นั่งอยู่ในคณะกรรมการบริหารของ Uefa และเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิตของเซเฟริน
3
แน่นอนว่ามันเป็นผลประโยชน์ในเรื่องการเงิน ที่ PSG นั้นเป็นเป้าหมายของ Uefa โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่อง Financial Fair Play (FFP)
Deal ใหญ่ที่สุดกับการได้ตัวเมสซี่ มาแบบฟรี ๆ จากบาเซโลน่า (CR:AS English – Diario AS)
แต่แนวทางที่ Uefa มีต่อ PSG ดูเหมือนจะโอนอ่อนลงไป ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันมาจากการเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นกับ Uefa ของ Khelaifi
และมันเป็นผลประโยชน์โดยตรงในเรื่องซูเปอร์ลีกที่มีผลกระทบต่อ Khelaifi เพราะเขาเป็นประธานของ BeIN Media Group ซึ่งเป็นเครือข่ายโทรทัศน์ในกาตาร์ ที่ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อรักษาสิทธิ์จาก Uefa ในการออกอากาศ ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก
ส่วนฟากฝั่งของเอมิเรตส์ ดูเหมือนความสัมพันธ์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ Uefa จะไม่ค่อยลงรอยกันมากนัก ปีที่แล้ว สโมสรได้รับโทษปรับ 360 ล้านดอลลาร์ และโดนสั่งแบนจากการแข่งขันระดับสโมสรยุโรปเป็นเวลา 2 ปี เนื่องจาก ละเมิดอย่างร้ายแรงของระเบียบ Financial Fair Play
เจมส์ มอนตากิว ผู้เขียน The Billionaire Club ซึ่งตรวจสอบความเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลในยุคมหาเศรษฐี กล่าวว่า “แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก้าวร้าวอย่างมากกับ Uefa และปลูกฝังความรู้สึกในหมู่แฟนบอลว่า Uefa พร้อมที่จะทำลายพวกเขา”
1
ซึ่งเป็นสิ่งไม่แปลกใจเลยว่า เจ้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสร้างซูเปอร์ลีก เพื่อสร้างลีกคู่แข่งกับการแข่งขันของ Uefa นั่นเอง
ด้วยความที่ฮาหมัดเติบโตมาในโลกที่มีความสากล และด้วยความมั่งคั่งของประเทศในยุคนั้น ความผูกพันทางประวัติศาสตร์กับสหราชอาณาจักร เขาจึงเข้าเรียนที่ Royal Military Academy , Sandhurst ก่อนที่จะกลับไปโดฮาเพื่อเป็นนายทหารและในที่สุดก็ได้กลายเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม