12 ส.ค. 2021 เวลา 06:02 • ไลฟ์สไตล์
โลก “อยู่ยาก”?
โลก"อยู่ยาก"?
มีใครเคยได้ยินบางคนพูดประมาณว่าโลกสมัยนี้ “อยู่ยาก” บ้างคะ ดิฉันเจอมาบ้างค่ะโดยเฉพาะช่วงนี้ที่หันไปทางไหนก็เจอแต่ข่าวร้าย มืดมน สิ้นหวัง ทั้งโรคระบาด เศรษฐกิจ การเมือง โลกร้อน แต่ที่จริงแล้วโลกของเราเนี่ยก็ผ่านเรื่องร้ายมาไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ โรคระบาด สงครามทั้งหลาย (สงครามโลก สงครามเย็น สงครามนิวเคลียร์) เผาเมือง สาดเลือด ปาอุจาระใส่บ้านคนอื่น ฯลฯ
ด้วยเหตุที่ว่าคนเราส่วนใหญ่ก็มักจะคุกคามกันเอง ไม่ก็คุกคามธรรมชาติเพื่อความอยู่รอดก็ดีหรือเพียงแค่สนุกคึกคะนองก็ดี โดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดี ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ เช่น แซวกันขำๆ ในรายการทีวี (แต่บางคนอาจไม่ขำด้วย!) ไปจนเรื่องใหญ่ๆ อย่างสงครามระดับโลก และตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์ระดับโลกอย่าง Covid-19 ก็นับได้ว่าเป็นการที่คนเราถูกเอาคืน (เอ้ยไม่ใช่...) ถูกคุกคามจากไวรัสกันอยู่อย่างสะบักสบอม
Covid-19 Changing the way of life!
เป็นธรรมดาที่โลกเรามีทั้งเรื่องดีและร้าย ชีวิตของเราก็เช่นกัน ขอให้เราเข้าใจแบบนี้และฝึกมองโลกสองด้านนี้อย่างสมดุล เพราะสุดท้ายแล้วมันก็จะผ่านไป โดยส่วนตัวดิฉันชอบฝึกมองอะไรต่อมิอะไรสองด้านหรือมากกว่านั้นเสมอ แถมหลายๆครั้งต้องชักจูงให้ตัวเองเน้นหนักไปมองด้านดีมากกว่าด้านลบเล็กน้อย เพื่อว่าคืนนั้นเราจะได้นอนหลับฝันดีและพรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว
ความมืดมิดกำลังจะผ่านไปเช้าวันใหม่ก็จะเข้ามา
นอกจากฝึกมองโลกสองด้านและเน้นไปทางบวกแล้ว ยังมีอีกสองสามวิธีที่ดิฉันนำมาฝากเพื่อให้พวกเราผ่านเรื่องร้ายๆไปได้อย่างเจ็บปวดให้น้อยที่สุดด้วยกัน
อย่างแรกค่ะการมีชีวิตที่ดี คือการแวดล้อมด้วยกัลยาณมิตรที่ดี สนับสนุนให้กำลังใจกัน อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ล็อคดาวน์ไปไหนไม่ได้ อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ กับเพื่อนๆน่าจะดีกว่า และหันมาให้กำลังใจคนข้างๆและดูแลคนในบ้านให้ดี หากพวกเขาเหล่านั้นเป็นพวก toxic เจอหน้าทีไรก็ทำให้เราหม่นหมอง ก็พิจารณาเสียหน่อยว่าคุณแคร์เขาไหม หากแคร์ก็ขอให้ใช้เวลาและพลังบวกในตัวคุณช่วยชักจูงคนสำคัญเหล่านั้นออกมาในด้านสว่าง ให้มีมุมมองในชีวิตที่ดีขึ้นและมีความสุขขึ้น และแน่นอนหากคุณไม่แคร์พวกเขาแล้วก็ต่างคนต่างอยู่ก็แล้วกัน
วิธีที่สองคือ การรู้จักลืม นักวิทยาศาสตร์ด้านสมอง Dr. Scot Small ผู้เขียนหนังสือเล่มใหม่ที่เพิ่งออกมาในช่วงเดือนที่แล้ว เรื่องข้อดีของการไม่ต้องจำ ชื่อว่า “Forgetting. The Benefits of Not Remembering” บอกอย่างชัดเจนว่าการลืมส่งผลดีต่อจิตใจ วิธีคิด และความสร้างสรรค์ โดยเฉพาะการลืมเรื่องร้ายๆ กวนใจ จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น หลายคนมีเรื่องราวยากจะลืม แต่ลองฝึกดูนะคะ forget to forgive การลืมบางอย่างร้ายๆและให้อภัยคนที่มาทำให้คุณเจ็บช้ำน้ำใจก็เป็นเรื่องดีต่อตัวเราเองทั้งนั้น
วิธีสุดท้ายที่ดิฉันว่าสำคัญไม่แพ้วิธีอื่นๆ คือ ลงมือสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ดี หากช่วงนี้เราออกไปเที่ยวไหนไม่ได้ สังสรรค์กับเพื่อนไม่ได้ ก็ขอให้เป็นโอกาสอันดีในการสร้างเสริมประสบการณ์ใหม่ๆในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร เลี้ยงสัตว์ ออกกำลังกาย DIY ซ่อมบ้าน หรือปลูกต้นไม้ พ่อแม่อาจใช้โอกาสนี้ทำกิจกรรมกับลูกในบ้านช่วงล็อคดาวน์ นอกจากเด็กๆจะได้พัฒนาทักษะใหม่ๆแล้ว เราจะได้ประโยชน์ในเชิงบวกในด้านความสัมพันธ์และจิตวิทยาครอบครัวด้วย
ปลูกต้นไม้ สิ่งเล็กๆที่ให้ผลใหญ่ๆ
มันอาจจะยากที่เราจะออกไปอาจควบคุมสถานการณ์ภายนอกให้ดีหรือร้ายได้ หลายครั้งเราไม่สามารถไปสั่งให้คนอื่นพูดหรือทำอะไรให้เราพอใจได้ สิ่งที่ง่ายกว่าคือการควบคุมตัวเราเองให้สามารถผ่านสิ่งร้ายๆไปได้อยากไม่เจ็บปวดมากนัก จงเลือกมองสิ่งดีๆ มีความหวังต่อไป ทำจิตใจให้เบิกบาน และอาจเริ่มต้นทำสิ่งดีๆเพื่อจุดชนวนเรื่องราวดีๆให้มาคานสมดุลกับความ “อยู่ยาก”ของโลกเราต่อไป
โฆษณา