12 ส.ค. 2021 เวลา 13:58 • ยานยนต์
ผมไม่ใช่วัยรุ่น 90 แต่เป็นคนที่เกิดในยุค 90 และสนใจรถยุค 90 หลายรุ่น ซึ่งวันนี้ผมก็อยากมาพูดถึงรถสปอร์ตในยุค 90s คันหนึ่งที่ผมว่าใคร ๆ ก็น่าจะหลงรักในดีไซน์รถคันนี้เหมือนผมเช่นกัน ซึ่งภาพจำของรถคันนี้นั้นมาจากภาพยนตร์ไทยเรื่อง "ไฉไล" ที่ฉากต้นเรื่อง ตั๊ก บงกช ขับรถสปอร์ตคันนี้สีเงิน กำลังไล่ล่ากับผู้ร้ายที่ขับรถ Jeep Cherokee
#รถเก่าในความทรงจำ จะมาพูดถึงรถสปอร์ตคูเป้ในตำนาน ขวัญใจวัยรุ่นยุค 90 ที่ถึงแม้อายุอานามใกล้จะ 30 ปีแล้ว แต่อายุอานามก็ไม่สามารถทำลายความงดงามของดีไซน์ได้ ณ ตอนนี้ที่เปิดรูปรถรุ่นนี้ดู รถก็ยังคงดูสวยไม่สร่างเลย
และรถที่จะพูดถึงก็คือ Honda Prelude เจเนเรชั่นที่ 4 นั่นเองครับ
Honda Prelude เจเนเรชั่นที่ 4 เป็นเจเนเรชั่นที่วางขายในตลาดทั่วโลกนับตั้งแต่ปี 2534-2540 สำหรับผม เจนฯ นี้น่าจะเป็นโฉมที่คนนิยมกันที่สุดแล้วเพราะเจอบนถนนบ่อยกว่าโฉมอื่นๆ รถเปิดตัวที่ญี่ปุ่นครั้งแรกในวันที่ 19 กันยายนปี 2534 ได้รับการออกแบบโดยดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น Yukio Kurosu ผู้ซึ่งมีผลงานการออกแบบรถ Honda หลายรุ่น เช่น Honda Legend เจเนเรชั่นแรก, Honda Accord เจเนเรชั่นที่ 2 และ เจเนเรชั่นที่ 5 (ท้ายก้อน)
Honda Prelude เจเนเรชั่นนี้ ได้รับการออกแบบให้ดูสวยโฉบเฉี่ยวและล้ำสมัยขึ้นเมื่อเทียบกับโฉมก่อนหน้า อีกทั้งยังเป็นโฉมที่กล้าแหวกกระแสนิยมค่ายอื่นๆ โดย ณ ตอนนั้นหลายค่ายรถกำลังเห่อกับ "ไฟป๊อปอัพ" ซึ่งจริงๆ Prelude เจนฯ 2-3 ก็เคยมี พอมาถึงโฉมนี้ Honda ได้พลิกโฉมแล้วแทนที่ด้วยไฟหน้าแนวยาวแทน นอกจากภายนอกที่ดูสวยทันสมัยแล้ว อีกจุดเด่นก็คือภายในห้องโดยสารที่ผมว่าค่อนข้างดูแปลกตาและล้ำสมัยเอามากๆ ในยุคนั้น
Prelude โฉมนี้เป็นโฉมแรกที่มีการเริ่มใช้ขุมพลัง VTEC อีกด้วย โดยขุมพลังในภาพรวมค่อนข้างมีหลากหลายทางเลือก นั้นจะมีดังนี้
- เครื่องเบนซินหัวฉีดธรรมดา 2.0 ลิตร 133 แรงม้า
- เครื่องเบนซินคาร์บูเรเตอร์ 2.2 ลิตร 135 แรงม้า
- เครื่องเบนซินหัวฉีดธรรมดา 2.3 ลิตร 160 แรงม้า
- เครื่องยนต์เบนซิน VTEC 2.2 ลิตร (H22A) 200 แรงม้า หรือเรียกว่า VTi-R , Si-VTEC
ระบบส่งกำลังให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและอัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหน้า
ประเทศไทยนำเข้ารถรุ่นนี้มาราวๆ ปี 2535 โดยคู่แข่งตัวฉกาจสำคัญในยุคนั้นคงหนีไม่พ้น Toyota Celica ช่วงแรกๆ ของการนำเข้ามาจำหน่ายในไทย จะจำหน่ายในขุมพลังเบนซิน 2.2 ลิตร 130 แรงม้า หลังจากนั้นจริงมีขุมพลังเบนซิน 2.3 ลิตร 160 แรงม้า และ 2.2 ลิตร VTEC พละกำลัง (ที่ผมเข้าใจว่าโดนตอนจาก 200 เหลือ)193 แรงม้าตามมา
นอกเหนือจากเครื่องยนต์แล้ว Prelude โฉมนี้ยังมีออปชั่นหลายอย่างที่ค่อนข้างจัดเต็มในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็น หน้าปัดแบบดิจิตอล, หลังคาซันรูฟ, Cruise Control, ระบบเบรก ABS และทีเด็ดบางโพธิ์เลยก็คือ ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อในรุ่น VTEC ซึ่งระบบนี้เป็นจุดเด่นมาตั้งแต่เจนฯ 3 แล้ว และในเจนฯ 4 อันเป็นโฉมที่กำลังพูดถึงนั้นก็ยังใส่มาให้เช่นเดียวกัน แต่ได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์
ราคาจำหน่ายของ Honda Prelude ยุคนั้น ในยุคที่มีการทลายกำแพงภาษีนำเข้าสมัยคุณอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายก ส่งผลให้ราคารถนำเข้าสมัยนั้นค่อนข้างถูกมาก ซึ่งราคาอ้างอิงจากนิตยสารรถในปี 2539 จะมีดังนี้ครับ
- 2.3 Si-LXI 1,125,000 บาท
- 2.3 Si-EXI 1,175,000 บาท
- 2.2 VTi-L 1,280,000 บาท
Honda Prelude โฉมนี้จัดเป็นอีกโฉมที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จไม่น้อยเหมือนกัน บนท้องถนนบ้านเราก็มีให้เห็นหลายคัน ถ้าเทียบกับ Prelude แต่ละเจเนเรชั่นที่ผ่านมา จนมาถึงโฉมสุดท้ายในเจเนเรชั่นที่ 5 ผมคิดว่าโฉมที่ 4 คือโฉมที่สวยที่สุดในบรรดาทุกโฉมของ Prelude แล้วครับ
แม้แต่โฉมที่ 5 ที่เปิดหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีดีไซน์ความสวยที่โดดเด่นเท่า ภายในห้องโดยสารดีไซน์ล้ำๆ ก็แทนที่ด้วยภายในรถแบบธรรมดาอย่างรถทั่ว ๆ ไป และนั้นก็ถือเป็นเจเนเรชั่นสุดท้ายก่อนปิดตำนานชื่อ Prelude ไป
ผมเองก็ไม่เคยมีโอกาสได้ขับรถรุ่นนี้หรอกครับ แต่อย่างน้อยที่สุด ณ ตอนนี้ ผมมีโอกาสเพียงแค่ได้ขับในเกม Forza Horizon 4 เท่านั้นก็ถือว่าพอใจแล้วแหละครับ 5555
ขอบคุณที่มา
- นิตยสารกรังด์ปรีซ์ ฉบับเดือนพฤศจิกายน 1996
โฆษณา