13 ส.ค. 2021 เวลา 11:58 • ประวัติศาสตร์
🇫🇷 Dreyfus Affair
เหตุการณ์แพะในตำนานของฝรั่งเศส
เมื่อนายทหารคนหนึ่งถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นพวก 'ทรยศชาติ'
ย้อนกลับไปในวันหนึ่งของเดือนธันวาคม 1894 ณ สถานทูตเยอรมนีประจำฝรั่งเศส ที่ตั้งอยู่ภายในกรุงปารีส
แม่บ้านชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งได้สังเกตเห็นเศษกระดาษที่ดูคล้ายกับจดหมาย โดยมันได้ถูกทิ้งไว้อยู่ในถังขยะ
จดหมายที่ถูกค้นพบ
สำหรับเนื้อหาภายในจดหมายฉบับนี้ พบว่ามันเป็นจดหมายที่ถูกเขียนขึ้นโดยนายทหารระดับสูงของฝรั่งเศสคนหนึ่งที่ไม่ได้มีการเขียนระบุชื่อไว้ โดยมีเนื้อหาในการเสนอขายข้อมูลความลับของกองทัพฝรั่งเศสไปให้กับเยอรมนี
จดหมายที่ดูเหมือนว่าจะเป็นการขายชาตินี้ ก็ได้ถูกนำไปสอบสวนโดยกองทัพฝรั่งเศส เพื่อหาว่าใครกันที่เป็นหนอนบ่อนไส้อยู่ในกองทัพ
หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ทางกองทัพฝรั่งเศสก็สามารถตามจับตัวของผู้ต้องสงสัยคนนี้ได้
โดยนายทหารผู้ต้องสงสัยคนนี้มีชื่อว่า อัลเฟรด เดรย์ฟัส (Alfred Dreyfus) โดยเขาเป็นเจ้าหน้าที่เสนาธิการระดับสูงในกองพลทหารปืนใหญ่ฝรั่งเศส
Alfred Dreyfus ชายผู้ตกเป็นผู้สงสัย
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เดรย์ฟัสกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีขายชาตินี้ ไม่ใช่เพราะว่ามีหลักฐานที่จะสามารถเชื่อมโยงไปถึงตัวของเขาได้
แต่สาเหตุนั้น ก็เป็นเพราะว่าเดรย์ฟัสเป็นคนที่มีเชื้อสายยิว
ในช่วงเวลานั้น ชาวยิวเป็นที่รังเกียจและไม่เป็นที่ยอมรับภายในสังคมของฝรั่งเศส (แม้ว่าการต่อต้านชาวยิวในฝรั่งเศส จะถือได้ว่าเบากว่าหลาย ๆ ประเทศในยุโรปก็ตาม) แต่กระแสต่อต้านชาวยิวในฝรั่งเศสนี้ ก็เรียกได้ว่ามีความรุนแรงพอสมควรเลยทีเดียว
1
การพิจารณาคดีของเดรย์ฟัสเริ่มต้นขึ้น ในวันที่ 19 ธันวาคม 1894 โดยศาลทหารของฝรั่งเศส ก็ได้นำเอาหลักฐานซึ่งก็คือจดหมายที่พบในถังขยะ มาเปรียบเทียบกับลายมือของเดรย์ฟัส
Dreyfus ขึ้นให้การต่อศาล
โดยจากการเปรียบเทียบลายมือพบว่า ลายมือที่อยู่ในจดหมายกับลายมือของเดรย์ฟัส กลับไม่ได้มีความใกล้เคียงหรือเหมือนกันเลยสักนิด
แต่ศาลทหารกลับบอกว่า สาเหตุที่ทำให้ลายมือไม่เหมือนกันนั้น ก็เพราะว่าเดรย์ฟัสจงใจที่จะทำให้ลายมือในจดหมายกับลายมือจริง ๆ ของเขาไม่ตรงกัน
1
ผลคือเดรย์ฟัสถูกพิจารณาคดีจากศาลทหารในข้อหาทรยศและขายชาติ โดยเขาจะต้องถูกส่งตัวไปจองจำอยู่ที่เรือนจำในเฟรนซ์กายอานา (French Guiana) จังหวัดโพ้นทะเลของฝรั่งเศสในทวีปอเมริกาใต้
1
แต่ก่อนที่เดรย์ฟัสจะถูกจองจำนั้น เขาก็ได้ถูกนำตัวไปที่วิทยาลัยการทหารปารีส
1
ซึ่งที่นั่นเดรย์ฟัสก็ได้ถูกประจานกลางลานของวิทยาลัย เหรียญตราที่อยู่บนเสื้อของเขาถูกกระซากทิ้ง และกระบี่ประจำตัวก็ถูกหักเป็นสองท่อน ท่ามกลางเสียงด่าทอของทหารที่รายล้อมเขา
กระบี่ประจำตัวและเหรียญตราของ Dreyfus ถูกหักและกระซากทิ้ง
ตลอดเวลาที่เดรย์ฟัสถูกจองจำ เขาก็ได้ยืนยันในความบริสุทธิ์ของเขา แต่ดูเหมือนว่าสังคมฝรั่งเศสจะพากันรังเกียจเขามากยิ่งขึ้น โดยการโฆษณาใส่ร้ายของหนังสือพิมพ์ที่มีบรรณาธิการเป็นคนเกลียดยิว
แต่แล้วในปี 1896 ก็ได้มีหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่อาจจะช่วยทำให้เดรย์ฟัสกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ได้
1
เพราะในปีนั้นได้มีการพบจดหมายอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งมีลายมือเหมือนกับจดหมายที่พบในถังขยะในปี 1894 เป๊ะ
โดยจดหมายฉบับนี้ ก็ได้มีการลงนามชื่อของผู้เขียนอย่างชัดเจนว่า เฟอร์ดินานด์ วัลซิน เอสเตอร์ฮาซี (Ferdinand Walsin Esterhazy) นายทหารที่เคยมีข่าวลือว่ามีความไม่ลงรอยกับกองทัพฝรั่งเศสอยู่
แต่ปรากฏว่าหลักฐานที่มีอยู่ทนโท่นี้ ศาลทหารของฝรั่งเศสกลับไม่ยอมนำมาใช้พิจารณาคดีของเดรย์ฟัส แถมผู้ที่ยื่นความจำนงเพื่อขอให้ศาลพิจารณาคดีของเดรย์ฟัสขึ้นมาใหม่ ก็ถูกทางการสั่งย้ายไปอยู่ที่ตูนีเซีย
2
และที่สำคัญเอสเตอร์ฮาซี ชายที่ดูยังไงก็คือคนร้ายตัวจริงในคดีขายชาตินี้ ก็ถูกศาลทหารพิจารณาว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แถมออกไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุขเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (มีการบันทึกว่า เอสเตอร์ฮาซีได้สารภาพแล้วว่าจดหมายฉบับนั้นเป็นของเขาจริง แต่เขาก็ไม่ถูกพิจารณาคดีใด ๆ เลย)
ความอยุติธรรมที่เดรย์ฟัสกำลังเผชิญอยู่ ได้ส่งผลทำให้มีชาวฝรั่งเศสบางส่วน เริ่มเชื่อว่าเขานั้นแท้จริงแล้วเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงได้มีการกดดันและเรียกร้องให้ศาลพิจารณาคดีของเกรย์ฟัสใหม่อีกครั้ง
ผลสุดท้ายในปี 1899 เอมีล ลูแบ (Emile Loubet) ประธานาธิบดีของฝรั่งเศสในขณะนั้น ก็ได้ประกาศอภัยโทษเดรย์ฟัส ส่งผลให้คดีขายชาติที่เดรย์ฟัสตกเป็นแพะนั้น ถึงจุดสิ้นสุดลง
2
แม้ว่าเดรย์ฟัสจะได้รับการอภัยโทษแล้ว แต่แน่นอนว่าเขาต้องการเกียรติยศที่เคยถูกป่นปี้ไปเมื่อ 5 ปีก่อนคืน
ในที่สุดปี 1906 เดรย์ฟัสก็ได้รับการประกาศว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ ยศทหาร เหรียญตรา รวมไปถึงกระบี่ประจำตัวของเขาได้รับกลับคืนมา
1
ในพิธีมอบเกียรติยศคืนของเขา ที่ถูกจัดขึ้นที่ลานของวิทยาลัยการทหารปารีส สถานที่เดียวกันกับที่เขาเคยถูกด่าประจาน ฝูงชนในวันนั้นต่างก็ตะโกนบอกเขาว่า "เดรย์ฟัสจงเจริญ!" ...
1
เรื่องราวของ อัลเฟรด เดรย์ฟัส นับว่าเป็นเรื่องราวของเหยื่อทางการเมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของฝรั่งเศส รวมไปถึงของยุโรปเลยทีเดียว
1
สำหรับเดรย์ฟัสเขาก็มีชีวิตอยู่จนถึงปี 1935 และเสียชีวิตลงด้วยวัย 75 ปี
1
Dreyfus ในช่วงชรา
*** Reference
#HistofunDeluxe
โฆษณา